บมจ.พรีเมียร์ควอลิตี้สตาร์ช ผู้ประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายแป้งมันสำปะหลัง (Native Starch) แป้งมันสำปะหลังดัดแปร (Modified Starch) รวมถึงผลิตและจำหน่ายกระแสไฟฟ้าจากก๊าซชีวภาพ (Biogas) พร้อมเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย 15 ก.พ.นี้ ด้วยมูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคา IPO 4,020 ล้านบาท
นายแมนพงศ์ เสนาณรงค์ รองผู้จัดการ หัวหน้าสายงานผู้ออกหลักทรัพย์ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า ตลท.ต้อนรับ บมจ.พรีเมียร์ควอลิตี้สตาร์ช เข้าจดทะเบียนและเริ่มซื้อขายใน SET กลุ่มเกษตรและอุตสาหกรรมอาหาร หมวดอาหารและเครื่องดื่ม โดยใช้ชื่อย่อในการซื้อขายหลักทรัพย์ว่า PQS ในวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2566
PQS ดำเนินธุรกิจผลิตและจำหน่ายแป้งมันสำปะหลัง (Native Starch) และแป้งมันสำปะหลังดัดแปร (Modified Starch) ภายใต้ตราสินค้า PQS และ TWO CRANE โดยจำหน่ายสินค้าให้ผู้ประกอบธุรกิจในอุตสาหกรรมอาหารเป็นหลักเพื่อใช้เป็นส่วนผสมในการผลิตผลิตภัณฑ์อาหาร เช่น ขนมปัง เส้นก๋วยเตี๋ยว ซอสปรุงรส และสารให้ความหวาน รวมถึงอุตสาหกรรมแปรรูปอื่นๆ ที่ไม่เกี่ยวข้องกับอาหาร เช่น อุตสาหกรรมกระดาษ สิ่งทอ ยารักษาโรค เป็นต้น
นอกจากนี้ PQS ยังประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายกระแสไฟฟ้าจากก๊าซชีวภาพ (Biogas) โดยนำวัสดุเหลือใช้ทางเกษตรจากกระบวนการผลิตแป้งมันสำปะหลังมาผลิตกระแสไฟฟ้า ซึ่งสามารถลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม สร้างรายได้ที่มั่นคงให้แก่กลุ่มบริษัท และสนับสนุนแนวคิดระบบเศรษฐกิจสีเขียว
PQS มีทุนชำระแล้วหลังการเสนอขาย 670 ล้านบาท มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท ประกอบด้วยหุ้นสามัญเดิม จำนวน 500 ล้านหุ้น และหุ้นสามัญเพิ่มทุน 170 ล้านหุ้น โดยเสนอขายต่อประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) 170 ล้านหุ้น ระหว่างวันที่ 7-9 กุมภาพันธ์ 2566 ในราคาหุ้นละ 6 บาท คิดเป็นมูลค่าระดมทุน 1,020 ล้านบาท และมีมูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคา IPO 4,020 ล้านบาท
ทั้งนี้ ราคาเสนอขายหุ้น IPO คิดเป็นอัตราส่วนราคาต่อกำไรสุทธิต่อหุ้น (P/E ratio) เท่ากับ 11.85 เท่า โดยคำนวณจากผลประกอบการของบริษัทในช่วงไตรมาสที่ 4 ของปี 2564 ถึงไตรมาสที่ 3 ของปี 2565 ซึ่งเท่ากับ 339.24 ล้านบาท หารด้วยจำนวนหุ้นสามัญทั้งหมดของบริษัท ภายหลังการเสนอขาย IPO คิดเป็นกำไรสุทธิต่อหุ้น (fully diluted EPS) เท่ากับ 0.51 บาท โดยมีบริษัท ฟิน พลัส แอดไวเซอรี่ จำกัด เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน และบริษัทหลักทรัพย์ ฟินันซ่า จำกัด เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจัดจำหน่ายหุ้นสามัญ
นายรัฐวิรุฬห์ ชาญจึงถาวร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร PQS เปิดเผยว่า PQS ดำเนินธุรกิจโดยทีมงานผู้บริหารที่มีความรู้และประสบการณ์ในธุรกิจมาอย่างยาวนาน ทำให้สินค้าของบริษัทมีคุณภาพตามมาตรฐานและเป็นที่ยอมรับในระดับสากล การนำหุ้นสามัญของบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ครั้งนี้จะช่วยเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันให้บริษัททั้งในแง่ของต้นทุนทางการเงินที่ลดลง และความเชื่อมั่นของคู่ค้า พร้อมทั้งเสริมศักยภาพในการเติบโตอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน
สำหรับเงินที่ได้จากการระดมทุนครั้งนี้จะนำมาใช้เป็นเงินลงทุนสำหรับการขยายกำลังการผลิตแป้งมันสำปะหลัง ก่อสร้างโรงไฟฟ้า Biogas ส่วนเพิ่มเติม ชำระคืนเงินกู้สถาบันการเงิน และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในกิจการ
PQS มีนโยบายในการจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นในอัตราไม่ต่ำกว่าร้อยละ 40 ของกำไรสุทธิตามงบการเงินเฉพาะกิจการของบริษัทฯ ภายหลังจากหักภาษีและเงินทุนสำรองต่างๆ ทุกประเภทตามที่กำหนดไว้ในกฎหมาย ทั้งนี้ การจ่ายเงินปันผลดังกล่าวอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ โดยจะขึ้นอยู่กับผลการดำเนินงาน ฐานะการเงิน สภาพคล่อง แผนการขยายธุรกิจ ความจำเป็นและความเหมาะสมอื่นใดในอนาคตและปัจจัยอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง
หลัง IPO บริษัทจะมีผู้ถือหุ้นใหญ่ ได้แก่ กลุ่มครอบครัวชาญจึงถาวร ถือหุ้น 46% และกลุ่มครอบครัวธวัชชุติกร ถือหุ้น 20%