นายแกรี่ เจนส์เลอร์ ประธานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐอเมริกาออกคำเตือนให้บริษัทคริปโต “ปฏิบัติตามกฎหมาย” หลังจากหน่วยงานประกาศลงโทษและกำหนดข้อตกลงกับ Kraken หนึ่งในกระดานแลกเปลี่ยนคริปโตยอดนิยม
จากการเปิดเผยของ cointelegraph อ้างอิงถึงการให้สัมภาษณ์ของ นายแกรี่ เจนส์เลอร์ ประธานคณะกรรมการสำนักงาน ก.ล.ต. ใน Squawk Box ของ CNBC เมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ ดดย นายแกรี กล่าวว่าการแลกเปลี่ยน crypto ควรลงทะเบียนกับ SEC เพื่อให้เป็นไปตามกฎระเบียบในสหรัฐอเมริกา โดยอ้างว่าหลายคนในอุตสาหกรรม “เลือก” ที่จะไม่ทำเช่นนั้น
"รูปแบบธุรกิจของโครงการ crypto จำนวนมาก เต็มไปด้วยความขัดแย้ง ซึ่งจำเป็นต้องมีความรัดกุมในการรวมผลิตภัณฑ์การลงทุนสินทรัพย์ดิจิทัลประเภทต่างๆเข้าด้วยกัน กฎระเบียบและกฎหมายที่ผ่านการทดสอบตามเวลา จะช่วยปกป้องนักลงทุนทั่วไป” เกนสเลอร์กล่าว “อย่าเป็นนักธุรกิจในคราบโจร ที่เอามือของกระดานเทรด เข้าไปล้วงอยู่ในกระเป๋าของลูกค้า ควรมีการแบ่งแยกอย่างชัดเจนสำหรับรูปแบบแพลตฟอร์ม” นายแกรี่ กล่าว
คำแถลงของ Gensler เป็นไปตามที่สำนักงาน ก.ล.ต. ประกาศว่าได้บรรลุข้อตกลงกับ Kraken ที่จะต้องปิดบริการในส่วนของ staking สำหรับลูกค้าในสหรัฐฯ รวมทั้งจะต้องจ่ายเงิน 30 ล้านดอลลาร์ สำหรับค่าดอกเบี้ย และค่าชดเชย จากคำพิพากษาและค่าปรับทางแพ่ง ขณะที่ทาง Kraken กล่าวว่าจะยังคงให้บริการ Stake แก่ผู้ใช้ที่ไม่ได้อยู่ในสหรัฐฯ ผ่านทางบริษัทย่อยที่แยกต่างหาก
ทั้งนี้นักลงทุนหลายคนต่างวิพากษ์วิจารณ์ถึงการกำหนดข้อบังคับของ ก.ล.ต. ในฐานะหน่วยงานกำกับดูแลที่ดำเนินการกับบริษัท ทั้งที่ยังไม่มีการกำหนดแนวทางและระเบียบด้านการกำกับดูแลอย่างชัดเจน โดย เฮสเตอร์ เพียรซ กรรมาธิการ ก.ล.ต. ได้สบถถึงการกระทำของ ก.ล.ต. ว่า “ขี้เกียจและทำตัวอวดเบ่งเป็นเจ้าพ่อ” โดย เพียรซ ให้มุมมองว่าการ staking นั้นเป็นรูปแบบการลงทุนที่ “ให้บริการผู้คนเป็นอย่างดี” และนักลงทุนส่วนใหญ่นิยมมากขึ้น จากสถานการณ์ความผันผวนของตลาดคริปโตในห้วงเวลาที่ผ่านมา
"The storefronts and casinos people are investing in need to comply and disentangle bundled products. The business model is rife with conflicts," says SEC Chair @GaryGensler on #crypto. "If this field has a chance of survival, it needs laws to protect the investing public." pic.twitter.com/FGRrYE1Aov— Squawk Box (@SquawkCNBC) February 10, 2023