เปิดดีลลงทุนกลุ่มบริษัท JMT โดยบริษัท กสิกร อินเวสเจอร์ จำกัด (KInvesture) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของธนาคารกสิกรไทย เข้าลงทุนในหุ้นสามัญของบริษัท บริหารสินทรัพย์ เจ จำกัด (JAM) คิดเป็นสัดส่วนประมาณ 9.9% ด้วยเงินลงทุนกว่า 3,500 ล้านบาท สนับสนุนการเติบโตของ JAM ในอนาคต ตอกย้ำ บมจ.เจ เอ็ม ที เน็ทเวอร์ค เซอร์วิสเซ็ส (JMT) ผู้นำกลุ่มบริษัทบริหารสินทรัพย์เบอร์ 1 ของประเทศ
นายพัชร สมะลาภา กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย (KBANK) เปิดเผยว่า จากการที่ธนาคารร่วมกับบริษัท บริหารสินทรัพย์ เจ จำกัด (JAM) ซึ่งเป็นบริษัทลูกในกลุ่มบริษัท เจ เอ็ม ที เน็ทเวอร์ค เซอร์วิสเซ็ส จำกัด (มหาชน) (JMT) จัดตั้งบริษัท บริหารสินทรัพย์ เจเค จำกัด (JK AMC) บริษัทร่วมทุนแห่งแรกในไทยระหว่างธนาคารพาณิชย์และบริษัทบริหารสินทรัพย์ตามนโยบายธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เพื่อแก้ไขปัญหาสินทรัพย์ด้อยคุณภาพที่เพิ่มขึ้นจากสถานการณ์โควิดนั้น ธนาคารเห็นศักยภาพของ JAM จากความร่วมมือดังกล่าว โดยเห็นว่า JAM มี In-house เทคโนโลยีและบุคลากรที่มีความชำนาญในการปฏิบัติงาน ซึ่งเกิดจากประสบการณ์ในการดำเนินธุรกิจมายาวนาน รวมทั้งเล็งเห็นโอกาสในการเติบโตทางธุรกิจของ JAM มาโดยตลอด จึงตัดสินใจเข้าลงทุนในครั้งนี้
โดยบริษัท กสิกร อินเวสเจอร์ จำกัด (KInvesture) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของธนาคารกสิกรไทย เข้าลงทุนในหุ้นสามัญของบริษัท บริหารสินทรัพย์ เจ จำกัด (JAM) คิดเป็นสัดส่วนประมาณ 9.9% ด้วยเงินลงทุนกว่า 3,500 ล้านบาท เพื่อสนับสนุนการเติบโตของ JAM ในอนาคต
นายปิยะ พงษ์อัชฌา รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เจ มาร์ท (JMART) และประธานกรรมการบริหาร บมจ.เจ เอ็ม ที เน็ทเวอร์ค เซอร์วิสเซ็ส (JMT) เปิดเผยว่า จากสภาวะเศรษฐกิจที่ยังไม่ฟื้นตัวดีภายหลังสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด และความไม่แน่นอนต่างๆ ที่เกิดกับเศรษฐกิจโลก และเศรษฐกิจประเทศไทย แนวโน้มหนี้เสียยังคงเร่งตัวสูงขึ้น ทำให้บริษัท บริหารสินทรัพย์ เจ จำกัด (JAM) และบริษัท บริหารสินทรัพย์ เจเค จำกัด (JK AMC) มีโอกาสใช้เงินทุนในการซื้อหนี้ด้อยคุณภาพจากสถาบันการเงินอื่นๆ มาบริหาร
โดยเป้าหมายหลักของทั้ง 2 บริษัทเพื่อส่งลูกหนี้กลับเข้าสู่ระบบการเงินอีกครั้ง ผ่านการเป็นที่ปรึกษาทางการเงินให้ลูกหนี้สามารถชำระคืนหนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยใช้ข้อมูลวิเคราะห์ประกอบการนำเสนอเงื่อนไขการชำระหนี้ ใช้เทคโนโลยีพัฒนาแอปพลิเคชันอำนวยความสะดวกลูกหนี้ในการเลือกผ่อนชำระตามความสามารถของตนเอง และอำนวยความสะดวกในการชำระเงินผ่านแอป โดยคาดหวังว่าช่วยสนับสนุนการเติบโตของเศรษฐกิจประเทศได้
นายสุทธิรักษ์ ตรัยชิรอาภรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เจ เอ็ม ที เน็ทเวอร์ค เซอร์วิสเซ็ส (JMT) กล่าวเพิ่มเติมว่า หลังจากเดินหน้าความร่วมมือระหว่างบริษัท บริหารสินทรัพย์ เจ จำกัด (JAM) ร่วมกับกลุ่มธนาคารกสิกรไทย ดำเนินธุรกิจบริหารสินทรัพย์ด้อยคุณภาพซื้อหนี้เสียทั้งที่มีหลักประกัน (Secure) และไม่มีหลักประกัน (Unsecure) ภายใต้บริษัท บริหารสินทรัพย์ เจเค จำกัด (JK AMC) เมื่อเดือนมิถุนายนปีที่ผ่านมา และเริ่มดำเนินกิจการในไตรมาส 3/2565 ได้อย่างประสบความสำเร็จตามเป้าหมาย โดยล่าสุด บริษัทย่อยของธนาคารกสิกรไทยได้เข้าลงทุนถือหุ้นสามัญใน JAM สะท้อนความแข็งแกร่งในการบริหารงาน ความเชี่ยวชาญ และศักยภาพการเติบโตของกลุ่มบริษัท รวมถึงเพื่อเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงผู้ซื้อทรัพย์ NPA ทั่วประเทศ ตามเป้าหมายที่วางไว้ว่า กลุ่มบริษัท JMT จะก้าวขึ้นเป็นอันดับ 1 ของธุรกิจบริหารสินทรัพย์ด้อยคุณภาพ ภายในปี 2568