xs
xsm
sm
md
lg

แลนด์ลอร์ดเริ่มเปิดหน้าดินรับสาย ‘สีเหลือง-ชมพู’ LH ปัดฝุ่นคอนโดฯ ศรีนครินทร์

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



เส้นทางรถไฟฟ้าสายสีเหลือง และสายสีชมพู อยู่ในระหว่างการทดสอบการเดินรถช่วงไตรมาสที่ 4 ของปี 2565 และคาดว่าจะเปิดให้บริการแบบเต็มรูปแบบได้ในช่วงครึ่งแรกปี 2566 โดยทั้ง 2 เส้นทางเป็นเส้นทางรถไฟฟ้าของรถไฟฟ้ารางเบา ไม่ใช่เส้นทางรถไฟฟ้าขนาดใหญ่ (เหมือนเส้นในเมือง) รูปแบบการให้บริการจะเป็นเส้นทางรถไฟฟ้าที่ผ่านกรุงเทพมหานครรอบนอกในตอนเหนือ (สีชมพู) ซึ่งเชื่อมจังหวัดนนทบุรี และกรุงเทพมหานครตอนเหนือ และตะวันออก (สีเหลือง) ที่เชื่อมกรุงเทพมหานครตอนเหนือกับจังหวัดสมุทรปราการ

นอกจากนี้ ทั้ง 2 เส้นทางยังทำหน้าที่เป็นเส้นทางรถไฟฟ้าที่ลำเลียงคนจากพื้นที่ต่างๆ เข้าสู่เส้นทางรถไฟฟ้าหลัก อย่างเส้นทางรถไฟฟ้าสายสีเขียว และสายสีส้มในอนาคต และทั้ง 2 เส้นทางยังมีสถานีร่วมกับเส้นทางรถไฟฟ้าเส้นทางอื่นๆ อีกหลายสถานี

นายสุรเชษฐ กองชีพ กรรมการผู้จัดการ บริษัท พร็อพเพอร์ตี้ ดีเอ็นเอ จำกัด (Property DNA) บริษัทที่ปรึกษาการลงทุนอสังหาริมทรัพย์ครบวงจร กล่าวถึงศักยภาพหลังการเปิดให้บริการของรถไฟฟ้า 2 สายในปีนี้ 2566 ว่า เส้นทาง “รถไฟฟ้าสายสีเหลือง” มีจุดเชื่อมต่อกับเส้นทางรถไฟฟ้าหลายเส้นทาง เช่น สายสีน้ำเงินที่สถานีลาดพร้าว สายสีส้มที่สถานีลำสาลี แอร์พอร์ตลิงก์ที่สถานีหัวหมาก และสายสีเขียวที่สถานีสำโรง

นอกจากนี้ เส้นทางรถไฟฟ้าสายสีเหลืองยังเป็นเส้นทางรถไฟฟ้าที่ผ่านถนนเส้นทางสำคัญของกรุงเทพมหานคร คือ ถนนลาดพร้าว และศรีนครินทร์ เรียกได้ว่าเกือบ 100% ของเส้นทางรถไฟฟ้าสายสีเหลืองอยู่บนถนน 2 เส้นทางนี้ ซึ่งถ้าเส้นทางเชื่อมต่อส่วนต่อขยายจากสถานีลาดพร้าวขึ้นไปตามถนนรัชดาภิเษกจะมีเพิ่มอีก 2 สถานี และเชื่อมต่อกับเส้นทางรถไฟฟ้าสายสีเขียวที่สถานีรัชโยธิน เพียงแต่ 2 สถานีในส่วนต่อขยายนี้ยังไม่สามารถเจรจากับการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ให้สำเร็จได้ รวมไปถึงสถานีลำสาลี อาจจะเป็นสถานีร่วมกับเส้นทางรถไฟฟ้าสายสีน้ำตาล และสถานีลาดพร้าว 83 ที่อาจจะกลายเป็นสถานีร่วมกับเส้นทางรถไฟฟ้าสายสีเทาในอนาคต

เนื่องจากเส้นทางรถไฟฟ้าสายสีเหลืองผ่านถนนเส้นทางสำคัญของกรุงเทพมหานคร ทั้งลาดพร้าว และศรีนครินทร์ โดยพื้นที่ตามแนวถนนลาดพร้าว เป็นพื้นที่ที่มีการพัฒนามายาวนานมากกว่า 30 ปี แทบไม่มีพื้นที่เหลือให้พัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์อะไรได้มากนัก เพราะที่ดินตลอดแนวเส้นทางมีการพัฒนาเป็นอาคารพาณิชย์ หรือโครงการอสังหาริมทรัพย์รูปแบบอื่นๆ จนเต็มพื้นที่แล้ว การจะพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์อะไรก็ตามในพื้นที่จำเป็นต้องซื้อบ้าน อาคารพาณิชย์หรือสิ่งปลูกสร้างในพื้นที่ไปพัฒนา ซึ่งราคาที่ดินในพื้นที่ตามแนวถนนลาดพร้าวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องมาโดยตลอด


โดยช่วงก่อนปี 2560 ราคาที่ดินตามแนวถนนลาดพร้าวอยู่ที่ 150,000-500,000 บาทต่อตารางวา แต่ ณ ปัจจุบันราคาที่ดินอยู่ในช่วงระหว่าง 200,000-800,000 บาทต่อตารางวา และสำหรับพื้นที่ตามแนวถนนศรีนครินทร์ไปจนถึงสถานีสำโรงมีราคาที่ดินในช่วงก่อนปี 2560 อยู่ที่ระหว่าง 150,000-250,000 บาทต่อตารางวา แต่ ณ ปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ 200,000-600,000 บาทต่อตารางวาแล้ว แต่ขึ้นอยู่ที่ทำเลและศักยภาพของที่ดินในแต่ละแปลง

ตั้งแต่ปี 2557 เป็นต้นมา เริ่มมีโครงการคอนโดมิเนียมเปิดขายใหม่มากขึ้นในพื้นที่ตามแนวเส้นทางรถไฟฟ้าสายสีเหลือง เพราะการพัฒนาเส้นทางรถไฟฟ้าสายสีเหลืองมีความชัดเจนมากกว่าปีที่ผ่านๆ มา โดยพื้นที่ตามแนวถนนลาดพร้าวอาจจะมีโครงการคอนโดมิเนียมเปิดขายใหม่มากกว่าพื้นที่ตามแนวถนนศรีนครินทร์ต่อเนื่องถึงสำโรง แต่หลังจากนั้น ทั้ง 2 พื้นที่นี้มีโครงการคอนโดมิเนียมเปิดขายใหม่ไม่แตกต่างกันมากนัก จำนวนคอนโดมิเนียมรวมในทั้ง 2 พื้นที่มีจำนวนไม่แตกต่างกันมาก จนกระทั่งปี 2565 พื้นที่ตามแนวถนนศรีนครินทร์ต่อเนื่องถึงสำโรง มีโครงการคอนโดมิเนียมเปิดขายใหม่มากขึ้นแบบชัดเจน ซึ่งเป็นการขยายตัวที่สอดคล้องกับช่วงเวลาการเปิดให้บริการของเส้นทางรถไฟฟ้าสายสีเหลืองในปี 2566 โดยพื้นที่ตามแนวถนนศรีนครินทร์ต่อเนื่องถึงสำโรง ยังคงมีที่ดินสำหรับการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์โดยเฉพาะโครงการคอนโดมิเนียม

จำนวนคอนโดมิเนียมรวมในพื้นที่ตามแนวเส้นทางรถไฟฟ้าสายสีเหลือง เฉพาะโครงการที่เปิดขายตั้งแต่ปี 2557 เป็นต้นมา อยู่ที่ประมาณ 20,430 ยูนิต ถ้านับรวมตั้งแต่ก่อนหน้านั้นจะมีคอนโดมิเนียมรวมทั้งหมด 29,600 ยูนิต ช่วงเวลาไม่เกิน 10 ปีนับจากปี 2557 เป็นต้นมา คอนโดมิเนียมเปิดขายใหม่กว่า 20,000 ยูนิต โดยคอนโดมิเนียมทั้งหมดในพื้นที่กว่า 20,430 ยูนิต ขายไปแล้วกว่า 80% โดยคอนโดมิเนียมส่วนใหญ่ในพื้นที่มีราคาขายอยู่ในช่วง 60,000-100,000 บาทต่อตารางเมตร (ตร.ม.) แต่โครงการส่วนใหญ่มีราคาขายไม่เกิน 80,000 บาทต่อ ตร.ม.

ช่วงก่อนหน้านี้ 4-5 ปี คอนโดมิเนียมส่วนใหญ่ยังคงกระจายอยู่ในพื้นที่ตามแนวถนนลาดพร้าว โดยเฉพาะบริเวณที่มีความเป็นชุมชน หรือการพัฒนามาก่อนหน้านี้แล้ว เช่น โชคชัย 4 บางกะปิ จากนั้นบริเวณที่จะเป็นสถานีร่วมของเส้นทางรถไฟฟ้า 2 เส้นทาง เช่น ลำสาลี กลายเป็นพื้นที่ยอดนิยมขึ้นมาทันที มีผู้ประกอบการรายใหญ่เข้าไปในพื้นที่หลายราย พื้นที่ตามแนวถนนศรีนครินทร์อาจจะมีโครงการคอนโดมิเนียมไม่มากนักในช่วงก่อนหน้านี้ โครงการบ้านจัดสรรจะมีมากกว่าชัดเจน แต่พื้นที่รอบๆ สถานีร่วมกับแอร์พอร์ตลิงก์ และพื้นที่ที่ไม่ไกลจากศูนย์การค้าขนาดใหญ่ในพื้นที่ เช่น ซีคอน พาราไดซ์พาร์ค มีโครงการคอนโดมิเนียมเปิดขายใหม่เช่นกัน แต่ปี 2565 มีคอนโดมิเนียมไม่ต่ำกว่า 5,000 ยูนิต เปิดขายใหม่ในพื้นที่ตามแนวศรีนครินทร์ต่อเนื่องถึงสำโรง


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า รถไฟฟ้าสายสีเหลืองจะมีส่วนเข้ามาตอบโจทย์ในการเดินทางให้ผู้ใช้บริการในหลากหลายเส้นทาง ซึ่งจะว่าไปแล้ว เป็นเส้นทางที่ครอบคลุมการเดินทางฝั่งตะวันออกของกรุงเทพฯ และยังสามารเชื่อมต่อการเดินทางเข้าสู่พื้นที่เศรษฐกิจได้

โดยโครงการคอนโดฯ ที่เกิดขึ้นมาระดับราคาที่นำเสนอจะไม่ได้สูง เช่น ของค่ายออริจิ้นฯ กับแบรนด์ใหม่กับ Origin Plug & Play หรือจะแบรนด์คอนโดมิเนียม Upper Class โดยมีโครงการ The Origin ลาดพร้าว-บางกะปิ คอนโดฯ แนวสูงที่อยู่ติดรถไฟฟ้าสายสีเหลือง สถานีบางกะปิ เพียง 100 เมตรเท่านั้น ราคาเริ่มต้นที่ 1.99 ล้านบาท

แม้แต่แบรนด์รายใหญ่อย่างบริษัท โนเบิล ดีเวลลอป เมนท์ จำกัด (มหาชน) ที่ออกโครงการใหม่มาก่อนหน้านี้ คือ NUE Noble ศรีนครินทร์-ลาซาล คอนโดมิเนียม High Rise ติดรถไฟฟ้าสายสีเหลือง สถานีลาซาล มีจำนวน 1,014 ยูนิต ในราคาเริ่มต้นที่ 1.59 ล้านบาท

ขณะที่ในกลุ่มแนวราบยังมีโครงการเกิดขึ้นเพื่อรองรับรถไฟฟ้าสายสีเหลืองเช่นกัน เช่น กลุ่มของแพทโก้ กรุ๊ป ที่เข้ามาชิงกำลังซื้อกับตลาดคอนโดฯ อย่างโครงการ “เธอ” ลาดพร้าว93 (THER LADPRAO 93) ลักชัวรี ทาวน์โฮม จับกลุ่มลูกค้าที่ต้องการมีบ้านหรูอยู่อาศัยในแนวเส้นทางรถไฟฟ้า ปัจจุบันปิดเฟสที่ 1-2 แล้ว และอยู่ระหว่างเปิดขายในเฟส 3 และ 4 โซนพิเศษหน้าสวน ราคาเริ่มต้น 14.9 ล้านบาท รับส่วนลดสูงสุด 2 ล้านบาท และหากจองในวันที่ 21-22 ม.ค.2566 มีสิทธิลุ้นรับอั่งเปาทองคำสูงสุดมูลค่า 1.5 แสนบาท ยอดขายเป็นไปตามเป้าหมาย ซึ่งทางโครงการได้เริ่มโอนที่อยู่อาศัยให้ลูกค้าเมื่อปลายปี 2565 ที่ผ่านมาแล้ว

แลนด์ฯ ปัดฝุ่นแปลงศรีนครินทร์
ผุดคอนโดฯ พ่วงค้าปลีก

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เริ่มมีความเคลื่อนไหวของบริษัทรายใหญ่อย่างบริษัท แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) หรือ LH ที่ได้ประกาศแผนลงทุน โดย 1 โครงการคอนโดมิเนียมที่เปิดตัวในปีนี้ได้เลือกทำเลศรีนครินทร์ ซึ่งบริษัทฯ มีที่ดินรอพัฒนาอยู่แล้วมาปัดฝุ่นทำโครงการใหม่อีกครั้ง

“เดิมแลนด์ฯ มีแผนที่จะทำคอนโดฯ มาก่อนที่จะเกิดโควิด-19 และมีพื้นที่ค้าปลีกด้วย แต่หลังจากเกิดโควิด ทำให้ต้องชะลอการพัฒนาออกไปก่อน ซึ่งต้องมาดูว่าในโมเดลใหม่จะยังคงคอนเซ็ปต์เรื่องพื้นที่ขายรีเทลหรือไม่”

สำหรับโครงการที่ LH จะเปิดภายใต้ชื่อ The Key ศรีนครินทร์ เนื้อที่ 12.3 ไร่ จำนวน 805 ยูนิต ราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 8.1 ล้านบาทต่อยูนิต มูลค่าโครงการสูงถึง 6,500 ล้านบาท เปิดขายในไตรมาส 3 ปี 2566 ทั้งนี้ โครงการ The Key ตามแผนที่จะพัฒนาในปี 2562 นอกจากโครงการคอนโดฯ แล้ว อาจจะมีพื้นที่ค้าปลีก ซึ่งหากพิจารณาตามมูลค่าโครงการ The Key สูงถึง 6,500 ล้านบาท อาจจะมีพื้นที่รีเทลเกิดขึ้นตามแผนเดิมที่วางไว้


ปรับผังเมือง กทม.ใหม่ หนุนคอนโดฯ แนวสายสีชมพู

เส้นทาง “รถไฟฟ้าสายสีชมพู” เป็นเส้นทางรถไฟฟ้าที่อยู่ทางตอนเหนือของกรุงเทพมหานคร โดยมีแนวเส้นทางผ่านถนนติวานนท์ แจ้งวัฒนะ และรามอินทรา ซึ่งเป็นเส้นทางที่มีสถานีร่วมกับเส้นทางรถไฟฟ้าอื่นๆ เช่นกัน สถานีศูนย์ราชการนนทบุรี เป็นสถานีร่วมกับเส้นทางรถไฟฟ้าสายสีม่วง สถานีหลักสี่เป็นสถานีร่วมกับเส้นทางรถไฟฟ้าสายสีแดงเข้ม สถานีวัดพระศรีมหาธาตุเป็นสถานีที่เชื่อมต่อกับเส้นทางรถไฟฟ้าสายสีเขียว สถานีมีนบุรีเป็นสถานีร่วมกับสายสีส้ม และถ้าเส้นทางรถไฟฟ้าสายสีเทามีการพัฒนาขึ้น จะมีสถานีร่วมกับสายสีชมพูที่สถานีวัชรพล ซึ่งการเป็นเส้นทางรถไฟฟ้ารางเบา อาจจะไม่ได้มีเส้นทางที่วิ่งเข้าเมืองชั้นใน แต่เป็นเส้นทางที่เชื่อมต่อการเดินทางกับเส้นทางรถไฟฟ้าเส้นทางอื่นๆ ช่วยอำนวยความสะดวกในการเดินทางของคนตามแนวเส้นทาง ลดการใช้รถยนต์ส่วนบุคคล

การเปลี่ยนแปลงที่เห็นได้ชัดเจนเลย คือ ราคาที่ดินในพื้นที่ตามแนวเส้นทางรถไฟฟ้าสายสีชมพูที่ปรับเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยในช่วงปี 2561-2562 ก่อนสถานการณ์โควิด-19 ราคาที่ดินในพื้นที่ต่ำกว่าปัจจุบัน 20-30% สถานีที่อยู่จังหวัดนนทบุรี มีราคาที่ดินในช่วงปี 2561-2562 อยู่ที่ประมาณ 200,000-250,000 บาทต่อตารางวา ปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ 230,000-300,000 บาทต่อตารางวา หรือเพิ่มขึ้นประมาณ 13-20%

พื้นที่ตามแนวถนนรามอินทรา ราคาขายที่ดินปัจจุบันอยู่ในช่วง 200,000-300,000 บาทต่อตารางวา ปรับเพิ่มขึ้นไม่น้อยกว่า 15-25% เช่นกัน ก่อนหน้านี้ราคาที่ดินแถวตลาดมีนบุรีอยู่ที่ประมาณ 150,000-160,000 บาทต่อตารางวา ปัจจุบันอยู่ที่ 200,000 บาทต่อตารางวาไปแล้ว เพราะเส้นทางรถไฟฟ้า และมีผู้ประกอบการเข้าไปซื้อที่ดินกันมากขึ้น ทำให้ราคาที่ดินปรับเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ซึ่งเห็นได้ตลอดแนวเส้นทาง โดยเฉพาะในพื้นที่รอบสถานีที่เป็นสถานีร่วม หรือใกล้กับศูนย์การค้า หรือชุมชนเดิม

จำนวนคอนโดมิเนียมในพื้นที่ตามแนวเสนทางรถไฟฟ้าสายสีชมพู ณ สิ้นปี 2565 อยู่ที่ประมาณ 25,650 ยูนิต โดยเป็นจำนวนคอนโดมิเนียมที่มีการเปิดขายมาตั้งแต่ปี 2552 และเป็นการขยายตัวแบบต่อเนื่อง ไม่มีปีใดที่มีโครงการคอนโดมิเนียมเปิดขายมากแบบก้าวกระโดด ซึ่งเป็นไปในทิศทางเดียวกับเส้นทางรถไฟฟ้าสายสีเหลือง อาจจะเป็นเพราะว่าเป็นเส้นทางรถไฟฟ้าที่ผ่านกรุงเทพมหานครรอบนอกทั้ง 2 เส้นทาง ไม่ได้เข้าพื้นที่กรุงเทพมหานครชั้นใน จึงไม่มีตัวแปรที่เข้าเร่งผู้ประกอบการให้เร่งการเปิดขายโครงการ

อีกทั้งฝั่งของผู้ประกอบการยังมีทางเลือกอื่นๆ ที่น่าสนใจมากกว่าพื้นที่ตามแนว 2 เส้นทางนี้ อัตราการขายน่าสนใจเช่นกัน เพราะโครงการส่วนใหญ่เปิดขายมาสักระยะแล้ว อัตราการขายเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 83% อาจจะยังมียูนิตเหลือขายอยู่ แต่ไม่มากนัก ราคาขายเฉลี่ยอยู่ในช่วงไม่เกิน 80,000 บาทต่อ ตร.ม. อาจจะมีบางโครงการที่มีราคาขายมากกว่านี้ แต่ไม่มากนัก

“เส้นทางรถไฟฟ้า” ยังช่วยเพิ่มศักยภาพของที่ดินในพื้นที่ตลอดแนวเส้นทาง ซึ่งมีความเป็นไปได้ที่พื้นที่รอบๆ สถานีรถไฟฟ้าจะมีศักยภาพเพิ่มสูงขึ้นจากการเปลี่ยนแปลงข้อจำกัดในการพัฒนาพื้นที่โดยรอบตามผังเมืองกรุงเทพมหานครฉบับใหม่ แม้ว่าอาจจะมีการเปลี่ยนแปลงเพิ่มเติมตามแนวทางของผู้ว่าฯ กรุงเทพมหานครคนปัจจุบัน แต่คงไม่ด้อยกว่าเดิมแน่นอน เพราะเส้นทางรถไฟฟ้ามีส่วนสนับสนุนให้เกิดการเปลี่ยนแปลง โดยเฉพาะพื้นที่รอบๆ สถานีร่วมของเส้นทางรถไฟฟ้ามากกว่า 1 เส้นทาง


เส้นศรีนครินทร์-รามอินทรา โซนศักยภาพ
แลนด์ลอร์ดผุดโปรเจกต์รับเชื่อมต่อเข้าเมือง

โดยพื้นที่ตามแนวถนนศรีนครินทร์ และรามอินทราที่มีความเป็นไปได้ที่จะมีศักยภาพตามข้อจำกัดในผังเมืองที่มากขึ้น เจ้าของที่ดินแปลงใหญ่ในพื้นที่เส้นทางรถไฟฟ้าสายสีเหลือง เช่น เจ้าของห้างสรรพสินค้าซีคอน มีที่ดินแปลงใหญ่ที่อาจจะพร้อมพัฒนาโครงการในอนาคต และสีชมพูเริ่มมีการขยับขยายหรือมีการประกาศขายที่ดินมากขึ้น ตลาดสด หรือโกดังขนาดใหญ่อาจจะกำลังรอการขายอยู่ รวมถึงมีผู้ประกอบการท้องถิ่นมีแผนจะทำคอมมูนิตีมอลล์ หรือแม้แต่ทางสวนสยาม ได้ทุ่มกว่า 3,000 ล้านบาท กับโครงการ “บางกอก เวิลด์” บนพื้นที่ 70 ไร่ รวมไปถึงผู้ประกอบการเจ้าของที่ดินหลายรายที่อาจจะรอความชัดเจนในเรื่องของผังเมืองกรุงเทพมหานคร เพื่อจะได้ทราบถึงข้อจำกัดและศักยภาพสูงสุดของที่ดินภายใต้ผังเมืองกรุงเทพมหานครฉบับใหม่


“รถไฟฟ้ารางเบา มีส่วนช่วยให้ราคาที่ดินปรับสูงขึ้นได้ แต่อาจจะไม่เหมือนเส้นในเมือง ซึ่งทั้งเส้นสีเหลืองและสีชมพู มี บมจ.อสังหาฯเข้าไปพัฒนาโครงการคอนโดฯ ต่อเนื่องมาหลายปี แบรนด์ออริจิ้นฯ บริษัทแอล.พี.เอ็น.ฯ บริษัทเสนาฯ บริษัท ริชี่ เพลซ ซึ่งห้องชุดพร้อมโอนกรรมสิทธิ์ก็ยังคงพอมีให้เห็น แต่กระจายทำเล ไม่กระจุกตัวเหมือนในบางเส้นที่เปิดให้บริการ แสดงให้เห็นว่าผู้ประกอบการเลือกที่จะทยอยเปิดโครงการเพื่อให้มีผลต่อราคาในแต่ละช่วง เนื่องจากปัจจัยเรื่องภาวะเศรษฐกิจ ต่างกับเส้นรถไฟฟ้าลำสาลี ที่ก่อนหน้านี้มีการเปิดคอนโดฯ หลายโครงการพร้อมกัน ส่วนของลูกค้าที่ซื้อมีชาวจีนมองหาคอนโดมิเนียมเช่นกัน เช่น โซนศรีนครินทร์ที่จะไปเส้นบางนา จะมีคนจีนอยู่คอนโดฯ แม้ไม่มีรถไฟฟ้า แต่มีห้างสรรพสินค้ารองรับ เป็นต้น”

ดังนั้น พื้นที่ตามแนวเส้นทางรถไฟฟ้า สายสีเหลือง และชมพู ที่แม้ว่าจะเป็นเส้นทางรถไฟฟ้ารางเบา เป็นระบบรถไฟฟ้าขนาดเล็ก ไม่มีเส้นทางผ่านเข้ากรุงเทพฯ ชั้นใน แต่ก็ช่วยอำนวยความสะดวกในเรื่องของการเดินทาง และการเชื่อมต่อการเดินทางให้คนในพื้นที่ตลอดแนวเส้นทาง ยังมีการเปลี่ยนแปลงต่อเนื่องแน่นอนในอนาคต
กำลังโหลดความคิดเห็น