ซาบีน่า เผยแผนปี 2566 ตั้งเป้ายอดขายปีนี้เติบโต 10% เดินหน้าสร้างสถิติใหม่ทั้งยอดขายและกำไรสูงกว่าปี 2562 ซึ่งเป็นยอดขายสูงสุดที่เคยทำได้ หลังผ่านวิกฤตโควิด-19 มั่นใจเติบโตตามภาพรวมเศรษฐกิจ รับปัจจัยหนุนจากการฟื้นตัวของการจับจ่ายใช้สอย จำนวนนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้น วางเป้าหมายการเติบโตทุกช่องทาง
น.ส.ดวงดาว มหะนาวานนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซาบีน่า จำกัด (มหาชน) หรือ SABINA ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายชุดชั้นในแบรนด์ “ซาบีน่า” เปิดเผยว่า บริษัทฯ ตั้งเป้าหมายการเติบโตในปี พ.ศ.2566 เพิ่มขึ้น 10% จากปีก่อน โดยรายได้ยอดขายในปีนี้จะสูงสุดเป็นประวัติการณ์จากก่อนวิกฤตโควิด-19 เมื่อปี พ.ศ.2562 ที่เคยทำไว้ที่ 3,295 ล้านบาท โดยปัจจัยสนับสนุนสำคัญมาจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจที่มีแนวโน้มดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากความมั่นใจของผู้บริโภคและกำลังซื้อที่เพิ่มขึ้น รวมถึงการท่องเที่ยวที่กลับมาคึกคักขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในปีนี้ ซึ่งสินค้าของ SABINA อิงกับกำลังซื้อในประเทศเป็นหลัก ทำให้บริษัทฯ ได้รับปัจจัยบวกจากสถานการณ์ดังกล่าวอย่างเต็มที่ ขณะเดียวกัน SABINA ยังมีแผนออกสินค้าคอลเลกชันใหม่อย่างต่อเนื่องในปีนี้ เพื่อเพิ่มความหลากหลายและครอบคลุมความต้องการของลูกค้าได้อย่างทั่วถึง
“ผลประกอบการในปีนี้ยังได้แรงส่งจากปี พ.ศ.2565 ซึ่งเราปิดการขายได้อย่างน่าพอใจ สามารถสร้างการเติบโตได้ในทุกช่องทางขาย ทั้งช่องทางค้าปลีก (Retail) ช่องทางออนไลน์ (Non Store-Retailing หรือ NSR) และช่องทางรับจ้างผลิต หรือ OEM โดยเฉพาะ OEM ที่มีการเติบโตมากกว่าที่ประเมินไว้ ทั้งจากคำสั่งซื้อที่มีเข้ามา และอานิสงส์จากการอ่อนค่าของเงินบาท ขณะเดียวกัน เรายังควบคุมค่าใช้จ่ายได้อย่างมีประสิทธิภาพทำให้ต้นทุนต่ำกว่าที่คาด ส่งผลให้ความสามารถในการทำกำไรของเราดีขึ้น สำหรับปีนี้เรายังตั้งเป้าการเติบโตในทุกช่องทางขายเช่นเดิม โดยเป้าหมายการเติบโตในช่องทางค้าปลีก ช่องทางออนไลน์ และช่องทาง OEM โดยเฉลี่ยอยู่ที่ 10%” น.ส.ดวงดาว กล่าว
ปัจจุบัน SABINA มีรายได้จากช่องทางขาย 3 ช่องทาง โดยในปีที่ผ่านมา ช่องทางค้าปลีกมีสัดส่วนเมื่อเทียบกับรายได้มากที่สุด โดยอยู่ที่ 65% ของรายได้ ขณะที่ช่องทางออนไลน์อยู่ที่ 25% และช่องทาง OEM อยู่ที่ 10% โดยในปีนี้บริษัทฯ ยังคงมีเป้าหมายที่จะรักษาสัดส่วนรายได้จากการทั้ง 3 ช่องทางไว้ โดยยังคงมั่นใจสามารถสร้างการเติบโตของทุกช่องทางได้อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในส่วนของช่องทางการค้าปลีก ซึ่งได้ผลเชิงบวกจากการผ่อนคลายนโยบายโควิด ของประเทศจีน และปริมาณของนักท่องเที่ยวที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยมีการปรับแผนเตรียมรับการเติบโต ทั้งในเรื่องปริมาณสินค้า และจุดให้บริการอย่างพร้อมเพียง ทั้งนี้ ได้มีแผนรองรับการขยายตัวของช่องทางออนไลน์ และรับจ้างผลิตเช่นกัน เพื่อให้โครงสร้างรายได้มีความยืดหยุ่นและเป็นโครงสร้างรายได้ที่มีประสิทธิภาพ ซึ่งจะส่งผลเชิงบวกให้งบการเงินโดยรวมของ SABINA แข็งแกร่งเพิ่มมากขึ้นอีกด้วย
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร SABINA กล่าวด้วยว่า แผนงานที่สำคัญในปีนี้ของ SABINA ยังครอบคลุมถึงการลงทุนในด้านเครื่องจักรที่ทันสมัยเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพรองรับการเติบโตอย่างก้าวกระโดดในช่วง 10 ปีข้างหน้า รวมถึงการเพิ่มประสิทธิผลในการทำงาน โดยมุ่งเน้นการทำงานให้บรรลุเป้าหมายทั้งในเชิงคุณภาพและปริมาณ ซึ่งเป็นวิธีการพัฒนาในระยะยาวและยั่งยืน เป็นการมุ่งเน้นคุณภาพที่ดีขึ้นและเพื่อเพิ่มความพึงพอใจให้ลูกค้า
SABINA ยังวางแผนกระตุ้นการขายด้วยการเปิดตัวสินค้าคอลเลกชันใหม่ พร้อมเปิดตัวภาพยนตร์โฆษณาชุดใหม่ที่จะออนแอร์พร้อมกันทุกช่องทางในวันที่ 25 มกราคม พ.ศ.2566 โดยพรีเซนเตอร์หลักยังคงเป็น “ใบเฟิร์น-พิมพ์ชนก ลือวิเศษไพบูลย์” นักแสดงสาวมากความสามารถที่ยังยึดตำแหน่งท็อปในวงการได้อย่างเหนียวแน่น สำหรับจุดเด่นของภาพยนตร์โฆษณาชุดนี้อยู่ที่การพัฒนาผลิตภัณฑ์จากข้อมูลเชิงลึก (insight) จากกลุ่มผู้บริโภคที่พบว่า ช่วงโควิดตลอด 2 ปีที่ผ่านมา ผู้บริโภคใช้ชีวิตอยู่บ้านหรือทำงานที่บ้านเป็นส่วนใหญ่ จนรู้สึกเสพติดความสบาย และตามหาความสบายเหมือนไม่ได้สวมใส่บรา จนเกิดเป็นนวัตกรรมที่ “ซาบีน่า” ค้นคว้าและวิจัยจนออกมาเป็น “นวัตกรรม SABINA BRALESS สบายเหมือนไม่ได้ใส่บรา” โดยชู 3 นวัตกรรมหลัก คือ เบา (Skin Light) นุ่ม (Cloud on) และเย็น (Air Flow) โดยสินค้าทั้ง 3 นวัตกรรมพร้อมรอการพิสูจน์แล้ววันนี้ทุกเคาน์เตอร์ซาบีน่า และช่องทางซาบีน่า ออนไลน์ ซึ่งนอกจากความโดดเด่นของผลิตภัณฑ์แล้ว SABINA มั่นใจด้วยว่า ภาพยนตร์โฆษณาชุดนี้จะสามารถสร้างกระแสตอบรับได้อย่างคึกคักตั้งแต่ต้นปี และจะเป็นอีกหนึ่งปรากฏการณ์ที่ตอกย้ำว่า SABINA ยังคงเป็นแบรนด์สินค้าแฟชั่นอันดับหนึ่งในใจผู้บริโภคได้อย่างเหนียวแน่น