หากมีการจัดอันดับ 10 เซียนหุ้นเมืองไทย ต้องปรากฏนามของ "นเรศ งามอภิชน" อย่างแน่นอน เขาเป็นนักลงทุนรายใหญ่ที่ถือหุ้นหลากหลาย มีมูลค่าพอร์ตรวมกันในระดับหลักพันล้านบาท และมีอยู่หลายหลักทรัพย์ที่ถือร่วมกับคนดังอย่าง "เฮียฮง-เสี่ยปู่-ประทีป" ล่าสุด จากข้อมูลตลาดหลักทรัพย์ ณ 20 ธ.ค.2566 มีมูลค่ารวม 3,641,269,000 บาท (3.64 พันล้านบาท)
1.TPIPL (บมจ.ทีพีไอ โพลีน) "นเรศ" ถืออันดับ 4 ถือ 864,000,000 หุ้น หรือ 4.56% คิดเป็นมูลค่า 1,572,480,000 บาท (ราคาปิด 1.82 บาท ณ 20 ม.ค.65) ย้อนหลัง 5 ปี นเรศ ปรากฏรายชื่อเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่จากการปิดสมุด เมื่อวันที่ 16 มี.ค.2561 ถือ 1,443,989,400 หุ้นหรือ 7.15% (ลดสัดส่วนการถือหุ้นลง 2.59%) ปัจจุบันมี บริษัท เลี่ยวไพรัตนวิสาหกิจ จำกัด ถือใหญ่สุด ถือ 25.32% และมีคนในตระกูล "เลี่ยวไพรัตน์" ร่วมถืออีก 4 ราย รวมถึงคนดังอย่างนาย ประทีป ตั้งมติธรรม บิ๊กบอส SPALI ร่วมถือหุ้น 1.31%
TPIPL มีผลตอบแทนราคา YTD ปี 66 อยู่ที่ 0.00% ขณะผลตอบแทนย้อนหลัง 1 ปี อยู่ที่ -4.71% ราคาสูงสุด/ต่ำสุดรอบ 52 สัปดาห์ คือ1.92/1.41 บาท อัตราเงินปันผลตอบแทน 4.96% มาร์เกตแคป 34,462.13 ล้านบาท ค่า P/E 4.44 เท่า ธุรกิจผลิตและจำหน่ายปูนซีเมนต์ คอนกรีตผสมเสร็จ และเม็ดพลาสติก โดยร่วมทุนในธุรกิจแอมโมเนียมไนเตรท และกรดไนตริก และมีการลงทุนที่เกี่ยวเนื่องกับธุรกิจเหล็กและธุรกิจประกันชีวิต เป็นต้น
2.SPALI (บมจ.ศุภาลัย) "นเรศ" ถืออันดับ 8 ถือ 30,000,000 หุ้น หรือ 1.40% คิดเป็นมูลค่า 696,000,000 บาท (ราคาปิด 23.20 บาท ณ 20 ม.ค.65) ย้อนหลัง 5 ปี นเรศ ปรากฏรายชื่อเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่จากการปิดสมุด เมื่อวันที่ 7 มี.ค.2561 ถือ 31,000,000 หุ้น หรือ 1.67% (ลดสัดส่วนการถือหุ้นลง 0.27%) ปัจจุบันมีผู้ถือหุ้นใหญ่สุดคือ นายประทีป ตั้งมติธรรม ถือ 25.86% บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) ถือ 8.97% นางอัจฉรา ตั้งมติธรรม ถือ 5.69% และสำนักงานประกันสังคม ถือ 2.95%
SPALI มีผลตอบแทนราคาYTD ปี 66 อยู่ที่ -4.53% ขณะผลตอบแทนย้อนหลัง 1 ปี อยู่ที่ +5.45% ราคาสูงสุด/ต่ำสุดรอบ 52 สัปดาห์ คือ 25.25/18.10 บาท อัตราเงินปันผลตอบแทน 5.38% มาร์เกตแคป 45,310.85 ล้านบาท ค่า P/E 5.10 เท่า ทำธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์
3.STARK (บมจ.สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น) "นเรศ" ถืออันดับ 9 ถือ 153,600,000 หุ้น หรือ 1.29% คิดเป็นมูลค่า 466,944,000 บาท (ราคาปิด 3.04 บาท ณ 20 ม.ค.65) นเรศ ปรากฏรายชื่อเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่จากการปิดสมุดเมื่อวันที่ 20 พ.ย.2563 ถือ 153,000,000 หุ้น หรือ 0.64% (เท่ากับเพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นขึ้น 0.65%) ปัจจุบันมีทายาทสี TOA นายวนรัชต์ ตั้งคารวคุณ ถือหุ้นใหญ่สุด ถือ 26.85%
STARK มีผลตอบแทนราคาYTD ปี 66 อยู่ที่ +21.60% ขณะผลตอบแทนย้อนหลัง 1 ปี อยู่ที่ -32.44% ราคาสูงสุด/ต่ำสุดรอบ 52 สัปดาห์ คือ 5.10/2.16 บาท อัตราเงินปันผลตอบแทน N/A% มาร์เกตแคป 40,755.47 ล้านบาท ค่า P/E 13.04 เท่า ธุรกิจโดยการถือหุ้นในบริษัทอื่น) โดยมีบริษัทย่อยเป็นผู้ประกอบกิจการรายใหญ่ในการผลิตสายไฟฟ้าและสายเคเบิล
4.MACO (บมจ.มาสเตอร์ แอด) "นเรศ" ถืออันดับ 3 ถือ 830,000,000 หุ้น หรือ 10.22% คิดเป็นมูลค่า 464,800,000 บาท (ราคาปิด 0.56 บาท ณ 20 ม.ค.65) นเรศ ปรากฏรายชื่อเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่จากการปิดสมุด เมื่อวันที่ 15 มี.ค.2561 ถือ 18,000,000 หุ้น หรือ 0.52% (เท่ากับเพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นขึ้น 9.70%) ปัจจุบัน มีบริษัท วี จี ไอ จำกัด (มหาชน) ถือ 26.58% และบริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) ถือ 14.92% เป็นอันดับ 1 และ 2
MACO มีผลตอบแทนราคา YTD ปี66 อยู่ที่ +9.80% ขณะผลตอบแทนย้อนหลัง 1 ปี อยู่ที่ -35.63% ราคาสูงสุด/ต่ำสุดรอบ 52 สัปดาห์ คือ 0.93/0.43 บาท อัตราเงินปันผลตอบแทน N/A% มาร์เกตแคป 4,546.06 ล้านบาท ค่า P/E N/A เท่า ทำธุรกิจให้บริการและผลิตสื่อโฆษณาภายนอกที่อยู่อาศัย
5.TPIPP (บมจ.ทีพีไอ โพลีน เพาเวอร์) "นเรศ" ถืออันดับ 8 ถือ 45,000,000 หุ้น หรือ 0.54% คิดเป็นมูลค่า154,800,000 บาท (ราคาปิด3.44 บาท ณ 20 ม.ค.65) นเรศ ปรากฏรายชื่อเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่จากการปิดสมุด เมื่อ 13 มี.ค.2561 ถือ 43,400,000 หุ้น หรือ 0.52% (เท่ากับเพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นขึ้น 0.02%) ปัจจุบันมี บริษัท ทีพีไอ โพลีน จำกัด (มหาชน) ถือใหญ่สุด 70.24% และนาย ประทีป ตั้งมติธรรม ถือ 1.06% พรัอมกับ บริษัท กรุงเทพประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) ถือ 0.39%
TPIPP มีผลตอบแทนราคา YTD ปี 66 อยู่ที่ +1.18% ขณะผลตอบแทนย้อนหลัง 1 ปี อยู่ที่ -17.70% ราคาสูงสุด/ต่ำสุดรอบ 52 สัปดาห์ คือ 4.20/3.20 บาท อัตราเงินปันผลตอบแทน 7.27% มาร์เกตแคป 28,896.00 ล้านบาท ค่า P/E 8.90 เท่า ธุรกิจด้านการผลิตและจำหน่ายไฟฟ้า โดยประกอบด้วยโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนทิ้ง และโรงไฟฟ้าพลังงานเชื้อเพลิง RDF และประกอบธุรกิจสถานีบริการน้ำมันเชื้อเพลิงและก๊าซธรรมชาติ (NGV)
6.AJ (บมจ.เอ.เจ.พลาสท์) "นเรศ" ถืออันดับ 6 ถือ 8,600,000 หุ้น หรือ 1.95% คิดเป็นมูลค่า 113,520,000 บาท (ราคาปิด 13.20 บาท ณ 20 ม.ค.65) นเรศ ปรากฏรายชื่อเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่จากการปิดสมุด เมื่อวันที่ 14 มี.ค.2565 โดยถือ 8,100,000 หุ้น หรือ 1.84% (เท่ากับลดสัดส่วนการถือหุ้นลง 0.11%) ปัจจุบันหุ้น AJ ยังมีคนดังอย่าง เสี่ยปู่ นายสมพงษ์ ชลคดีดำรงกุล ร่วมถือหุ้นด้วย 4.75%
AJ มีผลตอบแทนราคา YTD ปี 66 อยู่ที่ +3.94% ขณะผลตอบแทนย้อนหลัง 1 ปี อยู่ที่ -23.70% ราคาสูงสุด/ต่ำสุดรอบ 52 สัปดาห์ คือ 19.60/11.70 บาท อัตราเงินปันผลตอบแทน 4.92% มาร์เกตแคป 5,808.00 ล้านบาท ค่า P/E 13.81 เท่า ทำธุรกิจผลิตและจำหน่ายแผ่นฟิล์ม ซึ่งใช้แปรรูปเป็นบรรจุภัณฑ์ชนิดอ่อน เช่น ซองบรรจุอาหาร สิ่งของ เป็นต้น รวมทั้งใช้เคลือบกระดาษ ผิวไม้เฟอร์นิเจอร์ ฉนวนป้องกันความร้อนภายในอาคาร
7.PEACE (บมจ.พีซแอนด์ลีฟวิ่ง) "นเรศ" ถืออันดับ 10 ถือ 10,400,000 หุ้น หรือ 2.48% คิดเป็นมูลค่า 53,560,000 บาท (ราคาปิด 5.15 บาท ณ 20 ม.ค.65) นเรศ ปรากฏรายชื่อเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่จากการปิดสมุดครั้งแรก เมื่อวันที่ 7 ก.พ. 2565 วัน IPO ถือ 10,000,000 หุ้น หรือ 2.38% (เท่ากับเพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นขึ้น 0.10%) ปัจจุบันมีคนดังอย่าง นายชุมพล พรประภา ประธานกรรมการ บริษัท ฐิติกร จำกัด (มหาชน) หรือ TK ร่วมถือหุ้น 4.20%
โดยมีผลตอบแทนราคา YTD ปี 66 อยู่ที่ -0.96% ขณะผลตอบแทนย้อนหลัง 6 เดือน อยู่ที่ +42.27% ราคาสูงสุด/ต่ำสุดรอบ 52 สัปดาห์ คือ 6.50/3.32 บาท อัตราเงินปันผลตอบแทน 3.24% มาร์เกตแคป 2,595.59 ล้านบาท ค่า P/E 6.80 เท่า ทำธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อขาย
8.TEGH (บมจ.ไทยอีสเทิร์น กรุ๊ป โฮลดิ้งส์) "นเรศ" ถืออันดับ 10 ถือ10,000,000 หุ้น หรือ 0.93% คิดเป็นมูลค่า 50,500,000 บาท (ราคาปิด 5.05 บาท ณ 20 ม.ค.65) "นเรศ" ถือตั้งแต่วัน IPO โดยมีบริษัท ทีอีจี แอสเซท จำกัด ถือใหญ่สุด 37.50% และมีเซียนหุ้นคนดังอย่าง นายสถาพร งามเรืองพงศ์ ร่วมถือหุ้น 1.85%
TEGH มีผลตอบแทนราคา YTD ปี 66 อยู่ที่ +6.54% ขณะผลตอบแทนย้อนหลัง 3 เดือน อยู่ที่ +9.78% ราคาสูงสุด/ต่ำสุดรอบ 52 สัปดาห์ คือ 5.35/4.08 บาท อัตราเงินปันผลตอบแทน N/A% มาร์เกตแคป 5,454.00 ล้านบาท ค่า P/E 8.10 เท่า ธุรกิจถือหุ้นในบริษัทอื่นโดยมีบริษัทย่อยที่ประกอบธุรกิจหลัก 3 ธุรกิจ ได้แก่ ยางธรรมชาติ น้ำมันปาล์มดิบ และพลังงานทดแทนและบริหารจัดการกากอินทรีย์
9.BRI (บมจ.บริทาเนีย) "นเรศ" ถืออันดับ 8 ถือ 4,000,000 หุ้น หรือ 0.47% คิดเป็นมูลค่า 46,000,000 บาท (ราคาปิด 11.50 บาท ณ 20 ม.ค.65) นเรศ ปรากฏรายชื่อเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่จากการปิดสมุด เมื่อวันที่ 17 ธ.ค.2564 วัน IPO ถือ 4,000,000 หุ้น หรือ 0.47% (ไม่มีการเปลี่ยนแปลงสัดส่วนการถือหุ้น) ปัจจุบันหุ้น BRI ยังมีคนดังอย่าง เสี่ยปู่ สมพงษ์ ชลคดีดำรงกุล ร่วมถือหุ้น 1.90% และเจ้าพ่อ ORI นายพีระพงศ์ จรูญเอก ร่วมถือหุ้น 1.20%
BRI มีผลตอบแทนราคา YTD ปี 66 อยู่ที่ -4.96% ขณะผลตอบแทนย้อนหลัง 1 ปี อยู่ที่ +2.68% ราคาสูงสุด/ต่ำสุดรอบ 52 สัปดาห์ คือ 13.60/9.20 บาท อัตราเงินปันผลตอบแทน N/A% มาร์เกตแคป 9,807.26 ล้านบาท ค่า P/E 8.11 เท่า ทำธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ประเภทที่อยู่อาศัยแนวราบ ได้แก่ บ้านเดี่ยว บ้านแฝด และทาวน์โฮม
10.PORT (บมจ.สหไทย เทอร์มินอล จำกัด (มหาชน) "นเรศ" ถืออันดับ 8 ถือ 11,000,000 หุ้น หรือ 1.81% คิดเป็นมูลค่า 22,660,000 บาท (ราคาปิด 2.06 บาท ณ 20 ม.ค.65) นเรศ ปรากฏรายชื่อเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่จากการปิดสมุด เมื่อ 7 มี.ค.2561 ถือ 21,000,000 หุ้น หรือ 4.57% (เท่ากับลดสัดส่วนการถือหุ้นลง 2.76%)
PORT มีผลตอบแทนราคา YTD ปี 66 อยู่ที่ -4.63% ขณะผลตอบแทนย้อนหลัง 1 ปี อยู่ที่ -26.95% ราคาสูงสุด/ต่ำสุดรอบ 52 สัปดาห์ คือ 2.84/1.96 บาท อัตราเงินปันผลตอบแทน 1.21% มาร์เกตแคป 1,250.83 ล้านบาท ค่า P/E N/A เท่า ธุรกิจให้บริการท่าเทียบเรือเชิงพาณิชย์ครบวงจร ให้บริการขนส่งตู้คอนเทนเนอร์ทางบก และให้บริการพื้นที่จัดเก็บตู้คอนเทนเนอร์และคลังสินค้า
เป็นที่น่าสักเกตว่า ใน 10 หลักทรัพย์ในพอร์ต "นเรศ" มี 3 หลักทรัพย์ที่อยู่ในหมวดธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งน่าจับตาว่าหุ้นกลุ่มนี้จะไปได้ไกลแค่ไหนในปี 2566 นี้