xs
xsm
sm
md
lg

มหกรรมร่วมใจแก้หนี้ “มีหนี้ต้องแก้ไข เริ่มต้นใหม่อย่างยั่งยืน” ครั้งที่ 4 ชลบุรี 20-22 ม.ค.นี้

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ในวันที่ 20-22 มกราคม 2566 จะมีการจัดงาน “มหกรรมร่วมใจแก้หนี้ มีหนี้ต้องแก้ไข เริ่มต้นใหม่อย่างยั่งยืน” ครั้งที่ 4 ณ ศาลาประชาคมเทศบาลเมืองบ้านสวน จังหวัดชลบุรี ตั้งแต่เวลา 10.00-18.00 น. โดยงานมหกรรมครั้งนี้เป็นการจัดครั้งที่ 4 หลังจากครั้งที่ 1 ครั้งที่ 2 และครั้งที่ 3 ซึ่งจัดขึ้นที่กรุงเทพมหานคร จังหวัดขอนแก่น และจังหวัดเชียงใหม่ ตามลำดับ ที่ได้รับความสนใจอย่างมาก

โฆษกกระทรวงการคลังกล่าวว่า รัฐบาลได้มีนโยบายที่ต้องการแก้ไขปัญหาหนี้ครัวเรือนอย่างจริงจัง จึงได้กำหนดให้ปี 2565 เป็นปีแห่งการแก้หนี้ครัวเรือน ถึงแม้ว่าปัจจุบันได้ผ่านพ้นปี 2565 ไปแล้ว แต่การแก้ไขปัญหาดังกล่าวยังคงต้องทำอย่างต่อเนื่อง ดังนั้น กระทรวงการคลัง ธนาคารแห่งประเทศไทย สมาคมสถาบันการเงินของรัฐ และหน่วยงานพันธมิตรจึงจัด “มหกรรมร่วมใจแก้หนี้ มีหนี้ต้องแก้ไข เริ่มต้นใหม่อย่างยั่งยืน” เพื่อช่วยเหลือประชาชนและผู้ประกอบธุรกิจที่ประสบปัญหาหนี้อย่างต่อเนื่อง โดยการจัดงาน “มหกรรมร่วมใจแก้หนี้ มีหนี้ต้องแก้ไข เริ่มต้นใหม่อย่างยั่งยืน” สัญจรในครั้งที่ 4 ที่จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 20-22 มกราคม 2566 ณ ศาลาประชาคมเทศบาลเมืองบ้านสวน จังหวัดชลบุรี

ทั้งนี้ การจัดมหกรรมร่วมใจแก้หนี้สัญจร ครั้งที่ 4 นี้ กระทรวงการคลังได้บูรณาการร่วมกับกระทรวงศึกษาธิการ เพื่อช่วยเหลือแก้ไขปัญหาหนี้ให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาด้วย และได้รับเกียรติจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง (นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ) และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (น ส.ตรีนุช เทียนทอง) เข้าร่วมพิธีเปิดงานมหกรรมร่วมใจแก้หนี้ สัญจร ครั้งที่ 4 อีกทั้งสมาคมสถาบันการเงินของรัฐได้จัดสรรพื้นที่บางส่วนภายในงานเพื่อเป็นพื้นที่สำหรับการเจรจาแก้ไขปัญหาหนี้สินของข้าราชการครูเป็นการเฉพาะอีกด้วย

นอกจากนี้ งานมหกรรมในครั้งนี้ยังได้รับความร่วมมือจากธนาคารพาณิชย์ 5 แห่ง ได้แก่ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) และธนาคารยูโอบี จำกัด (มหาชน) รวมทั้งหน่วยงานให้คำปรึกษาเกี่ยวกับการประกอบธุรกิจหรือการพัฒนาอาชีพ และหน่วยงานในระดับพื้นที่ที่ทำหน้าที่ช่วยเหลือด้านรายได้และหนี้สินให้ประชาชนเข้าร่วมเพิ่มเติมด้วย เพื่อให้การแก้ไขปัญหาหนี้สินภายในงานทำได้อย่างครอบคลุมและสอดคล้องกับความต้องการของประชาชนและผู้ประกอบการมากยิ่งขึ้น

โดยในงานจะมีกิจกรรมประกอบด้วย 3 ส่วน ได้แก่

(1) การแก้ไขปัญหาหนี้สินที่มีอยู่เดิม โดยการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ การปรับเงื่อนไขการชำระนี้ เพื่อช่วยผ่อนปรนภาระหนี้ให้สอดคล้องกับรายได้ที่ลดลง

2) การสร้างรายได้ผ่านการสร้างอาชีพหรืออาชีพเสริม เพื่อช่วยเพิ่มรายได้ให้ประชาชนและผู้ประกอบการให้เพียงพอต่อการชำระหนี้ และสามารถขอรับสินเชื่อเพิ่มเติมเพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนหรือเป็นแหล่งทุนเพื่อสร้างรายได้เพิ่ม

(3) การสร้างภูมิคุ้มกันให้แก่ประชาชนด้วยการส่งเสริมทักษะในการประกอบอาชีพ เพื่อให้ประชาชนสามารถมีรายได้ที่เพียงพอและมั่นคง และการเสริมสร้างความรู้ทางการเงิน เพื่อสร้างความตระหนักถึงการวางแผนทางการเงินและส่งเสริมการบริหารจัดการด้านการเงินอย่างถูกต้อง ซึ่งจะสามารถแก้ไขปัญหาหนี้ครัวเรือนได้อย่างยั่งยืน

ผู้ที่สนใจเข้าร่วมงานสามารถลงทะเบียนได้ทางเว็บไซต์ https://ln15.gsb.or.th/WEB-DEBT/Page/
Consent.aspx หรือ Scan QR Code ท้ายแถลงข่าว หรือแจ้งความประสงค์เข้าร่วมงานได้ที่หน้างานมหกรรม ทั้งนี้ นอกจากงานมหกรรมร่วมใจแก้หนี้ครั้งนี้แล้ว ยังมีกำหนดจัดมหกรรมในลักษณะเดียวกันอีก 1 ภูมิภาค ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 27-29 มกราคม 2566 ณ หอประชุมมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ จังหวัดสงขลา โดยผู้ที่สนใจสามารถลงทะเบียนเข้าร่วมงานผ่านช่องทางเดียวกัน

นอกจากนี้ เพื่อให้การแก้ไขปัญหาหนี้สินให้แก่ประชาชนทำได้อย่างต่อเนื่องและครอบคลุมประชาชนในทุกพื้นที่ทั่วประเทศ ธนาคารแห่งประเทศไทยได้เปิดระบบลงทะเบียนปรับปรุงโครงสร้างหนี้ออนไลน์ และขยายระยะเวลาลงทะเบียนออนไลน์จนถึงวันที่ 31 มกราคม 2566 จากเดิมสิ้นสุดวันที่ 30 พฤศจิกายน 2565 เพื่อขยายโอกาสให้ลูกหนี้สามารถลงทะเบียนมากขึ้น รวมทั้งเพิ่มประเภทสินเชื่อที่เข้าร่วมงานมหกรรมออนไลน์ให้ครอบคลุมมากขึ้น โดยผู้ที่สนใจสามารถลงทะเบียนเพื่อขอแก้ไขหรือปรับปรุงโครงสร้างหนี้ผ่านระบบออนไลน์ได้จนถึงวันที่ 31 มกราคม 2566 ได้ทางเว็บไซต์ https://www.bot.or.th/DebtFair หรือ Scan QR Code ท้ายแถลงข่าว

โฆษกกระทรวงการคลังกล่าวเพิ่มเติมว่า “ขอเชิญชวนลูกหนี้ในจังหวัดชลบุรีและพื้นที่ใกล้เคียง รวมทั้งข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาที่ประสบปัญหาทุกท่านให้เข้าร่วมงานเพื่อเข้ารับการช่วยเหลือแก้ไขปัญหาหนี้จากหน่วยงานต่างๆ ซึ่งพร้อมจะให้ความช่วยเหลือ ซึ่งมหกรรมในครั้งนี้จะช่วยเหลือลูกหนี้ให้สามารถแก้ไขปัญหาภาระหนี้สินที่มีอยู่ได้อย่างตรงจุด รวมทั้งได้รับการส่งเสริมความรู้และการสร้างวินัยทางด้านการเงิน เพื่อที่จะหลุดพ้นจากกับดักหนี้สินได้อย่างยั่งยืน” และคาดหวังว่าการจัดงานในครั้งที่ 4 นี้จะได้รับความสนใจจากประชาชนและผู้ประกอบการเช่นเดียวกับการจัดงานครั้งที่ผ่านมา

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
1.สมาคมสถาบันการเงินของรัฐ โทร.0-2202-1868 หรือ 0-2202-1961
2.ธนาคารออมสิน โทร.0-2299-8000 หรือสายด่วน 1115
3. ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) โทร.0-2111-1111
4.ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร โทร.0-2555-0555
5.ธนาคารอาคารสงเคราะห์ โทร.0-2645-9000
6.ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย โทร.0-2265-3000 หรือสายด่วน 1357
7.ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย โทร.0-2169-9999
8.ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย โทร.0-2650-6999 หรือสายด่วน 1302
9.บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม โทร.0-2890-9999


กำลังโหลดความคิดเห็น