จากการออกมาเปิดเผยข้อมูลของกระทรวงแรงงานสหรัฐ ซึ่งระบุระดับตัวเลขของดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค ประจำเดือน ธ.ค.เมื่อคืนที่ผ่านมา (12 ม.ค.) โดยตัวเลข CPI ทุกรายการสอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ โดยดัชนี CPI ทั่วไป ซึ่งรวมหมวดอาหารและพลังงาน ปรับตัวขึ้น 6.5% ในเดือน ธ.ค. เมื่อเทียบรายปี สอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ และเป็นการปรับตัวขึ้นน้อยที่สุดเมื่อเทียบรายปี นับตั้งแต่เดือน ต.ค.2564
อย่างไรก็ตาม จากสถานการณ์ดังกล่าว ทำให้ราคาเหรียญบิทคอยน์ ซึ่งปรับตัวฟื้นขึ้นมาแตะ $19000 ในช่วงเวลาสั้นๆของวันนี้ ซึ่งสะท้อนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ การผ่อนคลายความตึงเครียดทางการเงินและมาตรการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐที่ไม่เร่งตัวขึ้นเร็วเกินไป
ขณะเดียวกันจากมุมมองเชิงบวกดังกล่าวนั้น กุลจิรา อิทธิอมรกุล, Researcher จาก Cryptomind Advisory ได้ทำการวิเคราะห์และรวบรวมเหรียญคริปโตที่มีความโดดเด่น พื้นฐานดีและราคาต่ำ ยังไม่ปรับตัวขึ้น
โดยในปี 2022 ที่ผ่านมาถือว่าเป็นปีที่ท้าทายมากของการลงทุนในคริปโตเลยก็ว่าได้ ไม่ว่าจะเป็นนักลงทุนรายเล็กรายใหญ่ก็เจ็บตัวกันไปตามๆกัน เพราะเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้นมากมาย ไม่ว่าจะเป็นเหตุการณ์ภายในวงการคริปโทฯและเศรษฐกิจมหภาค แต่ทางทีมงานของเราก็ยังมีความเชื่อมั่นในอนาคตของคริปโทฯกันอยู่ และเชื่อว่าในเวลาแบบนี้แหละที่เป็นโอกาสดีในการเข้าเก็บเหรียญพื้นฐานดีในราคาต่ำ ซึ่งหากวิเคราะห์พื้นฐานดูกันว่ามีเหรียญอะไรที่น่าลงทุนในปี 2023 บ้าง โดยอ้างอิงจากบทความของทาง Research house ต่างๆทั่วโลกและเทรนด์เด่นๆบน Twitter โดยเรียงลำดับดังนี้
1.Bitcoin
Bitcoin ถือเป็นเหรียญที่ยังคงยืนหนึ่งในวงการและเป็นเหรียญที่เก่าแก่ที่สุด โดยมักถูกเปรียบเทียบว่าเป็น Digital Gold หรือทองคำดิจิทัล โดยในช่วงสองปีที่ผ่านมาเราได้เห็นสถาบันการเงิน บริษัท หรือแม้กระทั่งประเทศเล็กๆบางประเทศได้เข้ามาสู่โลกของบิทคอยน์มากมาย รวมถึงพัฒนาการต่างๆเช่น การอัพเดทของ Lightning network รวมถึง Applicaion ต่างๆบน Bitcoin
นอกจากนี้ จากสัญญาณด้านราคาต่างๆจะเห็นว่าราคาเข้าสู่ Historic buy แล้ว รวมถึง Hash rate ที่ทำจุดสูงสุดใหม่ต่อเนื่องท่ามกลางตลาดหมี อีกปัจจัยหนึ่งก็คือ Bitcoin havling ที่กำลังจะมาถึงในปี 2024 ที่ตามสถิติมักจะทำให้ราคาขึ้นด้วย เราจึงมองว่า Bitcoin ก็เป็นอีกตัวที่น่าสะสมในปีนี้
2.Ethereum
Ethereum ก็เป็นอีกเหรียญที่น่าจับตามอง โดยยังคงสถานะของความเป็น World computer โดยเป็นบล็อกเชนที่มี TVL และรายได้จาก Transaction fees เป็นอันดับหนึ่งมาตลอด ซึ่งในปี 2022 ที่ผ่านมาได้มีการอัพเกรดครั้งสำคัญที่เรียกว่า The Merge ซึ่งทำให้เหรียญ Ethereum นั้นมีโอกาสจะกลายเป็น Deflationary ได้เลย
โดยในปีนี้ทาง Ethereum ก็ยังมีแผนอัพเกรดอื่นๆต่อเนื่อง เพื่อเป้าหมายสุดท้ายคือการทำให้ Ethereum สามารถรองรับธุรกรรมได้ในหลักแสนธุรกรรมต่อวินาที โดยขั้นตอนต่อไปของการอัพเกรด Ethereum ที่คาดว่าจะเกิดในเร็วๆนี้คือ Shanghai Upgrade ที่จะให้ผู้ Stake เหรียญ ETH สามารถถอนออกมาได้ โดยทางเราคิดว่าน่าจะส่งผลบวกต่อเหรียญ ETH เพราะคนน่าจะนำไป Stake กันมากขึ้น เพราะเหรียญที่ Stake จะไม่ติดล็อคแล้ว
3.LDO (Lido)
ผลพวงมาจาก Shanghai Upgrade ของ Ethereum ที่ทำให้เราคาดว่าจะมีทั้งรายเล็กรายใหญ่มาสนใจในการ Stake เหรียญ ETH กันมากขึ้นในปีนี้ แต่ว่าถ้าจะไปตั้ง Validator node เองต้องใช้เหรียญ ETH มากถึง 32 ETH ดังนั้นผู้ให้บริการ Liquid staking น่าจะได้รับประโยชน์ ซึ่ง Lido finance เองก็เป็นผู้นำตลาดในด้านนี้ ซึ่งครอง Market share กว่า 78% นอกจากนี้ การใช้บริการ Liquid staking ทำให้เราสามารถนำตั๋วจากการ Stake ไปลงทุนใน DeFi อื่นๆได้ ทำให้เป็นการเพิ่มผลตอบแทนได้อีกต่อหนึ่ง
อย่างไรก็ดีจากเหตุผลที่ว่ามาทำให้ Lido เป็น DeFi ที่น่าจับตามองในปีนี้ที่มีศักยภาพในการเป็น Bluechip DeFi อีกตัวเลย ยิ่งถ้ามีคนมาใช้บริการเยอะ ทาง Lido ก็น่าจะเก็บค่า Fee ได้มากขึ้นตามและเป็นผลบวกต่อเหรียญนั่นเอง
4.GMX
อีกหนึ่งเทรนด์ที่กำลังมาแรงและน่าจับตามองต่อไปในปีนี้ก็คือ Decentralized exchanges หนึ่งเหตุผลก็คือในปี 2565 ที่ผ่านมาเราได้เห็นถึงปัญหาเกี่ยวกับความโปร่งใสของ Centralized exchanges ที่ทำให้เกิดความเสียหายในวงการคริปโตฯอย่างหนัก
5.GMX เป็น DEX บนเชน Arbitrum, Avalanche ที่มีจุดขายเรื่องการเทรดแบบไม่มี Slippage และเป็นเจ้าตลาดใน Perpetual trading ที่ร้อนแรงมากในปีที่ผ่านมา โดยแพลทฟอร์มเก็บค่า Trading fee ได้สูงอย่างต่อเนื่อง (จากข้อมูลวันที่ 5 มกราคม 2023 GMX เก็บค่า Fee ได้สูงสุดเป็นอันดับ 3 รองจาก UniSwap) โดย Fee ที่เก็บได้ก็เอาไปแจกจ่ายให้กับคน Stake เหรียญ GMX และคนวาง Liquidity (GLP) ทั้งหมดรวมถึง Roadmap ที่กำลังจะมาถึงเร็วๆนี้อย่างการเปิดตัว Synthetic market ให้ผู้ใช้งานได้มาเทรด Synthetic assets แบบ Leverage กันได้ นอกจากนี้ทางทีมงานยังมีแผนที่จะปรับปรุงเพื่อลดความเสี่ยง Systematic risk ต่างๆที่เกิดขึ้นบนแพลทฟอร์มในช่วงที่ผ่านมาอีกด้วย
6.MATIC
ถือเป็นอีกหนึ่งเหรียญที่น่าสนใจและเกาะไปกับเทรนด์ที่ทางเราคาดว่าจะมาแรงในปี 2023 นี้อย่าง Scaling solution ของ Ethereum โดยทาง Polygon นั้นพัฒนาแทบทุกเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องไม่ว่าจะเป็น zk-rollups, Optimistic rollups, Sidechains, Modular blockchains, zk-EVM เป็นต้น ซึ่งความร้อนแรงเห็นได้จากในช่วง Q3 2022 ที่ผ่านมานั้นได้มีจำนวนผู้ใช้งานบนเชน Polygon และจำนวน NFT Wallet ขึ้นไปสู่ระดับ All-time high ท่ามกลางตลาดหมี รวมถึงอีกหนึ่งจุดเด่นของ Polygon ที่ไม่พูดถึงไม่ได้เลยคือทีม Businiss development ระดับคุณภาพ โดยในปีที่ผ่านมาได้มีพาร์ทเนอร์ชื่อดังมาร่วมมือกับ Polygon มากมายอย่างเช่น Reddit, Meta, Starbucks, Robinhood
อย่างไรก็ดีปีนี้จึงเป็นปีที่น่าลุ้นสำหรับ Polygon เพราะทางเราเชื่อว่าน่าจะได้เห็นพาร์ทเนอร์เด่นๆอีกไม่มากก็น้อย แถมอาจจะมีได้เห็นการเปิดตัว Mainnet/Testnet ของ Scaling solution หลายๆตัวอีกด้วย
และนี่ก็เป็นเหรียญส่วนหนึ่งที่ทางเราคัดเลือกมาว่าน่าลงทุนในปีนี้ โดยยังไม่รวมโปรเจกต์อื่นๆที่คาดว่าจะออกเหรียญในปี 2023 อย่างเช่น ARBI ของ Arbitrum หรือเหรียญของโปรเจกต์ zk-Rollups ต่างๆที่น่าจะมาแรงไม่แพ้กัน
สุดท้ายนี้อย่าลืมว่าไม่ว่าแนวโน้มของเหรียญจะดูดีขนาดไหน อะไรก็เกิดขึ้นได้ในโลกคริปโตฯ ดังนั้นใครที่อยากจะลงทุนก็อย่าลืมทำการบ้าน ศึกษาหาความรู้ให้ดี และลงทุนเท่าที่ยอมรับความเสี่ยงได้