นายผยง ศรีวณิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย ในฐานะประธานสมาคมธนาคารไทย กล่าวว่า สมาคมธนาคารไทยเองมีความตระหนักถึงความเดือดร้อนจากภัยทางไซเบอร์ของผู้ใช้บัญชีธนาคารที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง จึงได้ประสานความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และอื่นๆ เพื่อป้องกันการทุจริต แต่อย่างไรก็ตาม ในส่วนของผู้ถือบัญชีเองจะต้องมีความระมัดระวังในการใช้งาน โดยเฉพาะการให้ข้อมูลส่วนบุคคลผ่านช่องทางต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นทางโทรศัพท์ อินเทอร์เน็ต หรือโมบายแบงกิ้ง ซึ่งเป็นช่องทางหลักที่มิจฉาชีพใช้ล่อลวงเพื่อนำเข้าข้อมูลไปโอนเงินออกจากบัญชีได้
ล่าสุด สมาธนาคารอยู่ระหว่างการร่วมหารือกับธนาคารสมาชิกและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อจัดทำระบบติดตามความเสี่ยง หรือที่เรียกว่า Central fruad registry หรือศูนย์ตรวจเช็กธุรกรรมที่มีความเสี่ยงทุจริต โดยผ่านบริษัท เนชั่นแนล ไอทีเอ็มเอ๊กซ์ จำกัด (ITMX) เนื่องจากปัจจุบันการแยกกันดำเนินการในแต่ละธนาคารทำให้สิ้นเปลืองทรัพยากรและได้ผลไม่ดีนัก รวมถึงการเร่งรัดการออก พ.ร.ก.มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีของทาง DES ซึ่งจะช่วยทำให้การระงับการโอนเงินข้ามบัญชีได้อย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น
"นอกจากการป้องกันจากทางธนาคารเองแล้ว อีกปัจจัยหนึ่งที่สำคัญคือ ผู้ถือบัญชีเองจะต้องระมัดระวัง หรือศึกษาข้อมูลรายละเอียดต่างๆ ให้ดีในการให้ข้อมูลหรือยืนยันเข้าถึงข้อมูลต่างๆ เพราะหากเจ้าของบัญชีกดยินยอมไปแล้ว ทางธนาคารไม่สามารถรับผิดชอบต่อเงินของท่านที่สูญเสียไป ดังนั้น เจ้าของบัญชีควรศึกษาหาข้อมูลเพิ่มเติมตลอด หรือหากไม่มั่นใจไม่ควรให้ข้อมูลไป แล้วติดต่อธนาคารได้ทันทีจะปลอดภัยกว่า"