นายภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เผยว่า ตลท.อยู่ระหว่างการพิจารณาเพื่อปรับปรุงกระบวนการต่างๆ เพื่อเพิ่มความเชื่อมั่นและเพิ่มประสิทธิภาพของตลาดทุนไทยให้มากขึ้น โดยมีทั้งแผนการดำเนินงานในระยะสั้น และระยะยาว ตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ เริ่มจากการพิจารณาปรับปรุงหลักเกณฑ์การรับหลักทรัพย์ของทั้ง SET mai และตลาดหลักทรัพย์ไลฟ์เอ็กซ์เช้นจ์ (LiVE Exchangeหรือ LiVEx) ให้มีความเหมาะสมมากขึ้น
นอกจากนี้ ย้งต้องพิจารณาปรับปรุงกฎเกณฑ์การซื้อขาย การชำระราคา และการส่งมอบหลักทรัพย์ เพื่อให้เหมาะสมกับการพัฒนาของ ตลท. และการกำกับดูแลที่จะมีการเปลี่ยนแปลงไปในอนาคต เช่น การซื้อขายที่มากขึ้นของนักลงทุนต่างชาติที่เพิ่มขึ้น การใช้โปรแกรมเทรดดิ้ง อินเทอร์เน็ตเทรดดิ้ง เพื่อให้เข้าถึงมากขึ้น
อีกทั้งการพิจารณาปรับกรุงกระบวนการตรวจสอบข้อมูล รวมถึงแก้ไขเกณฑ์การใช้ข้อมูลสำคัญ เช่น ข้อมูลการถือครองหุ้น และการรวมศูนย์ข้อมูลติดต่อกับบริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ในด้านต่างๆ เช่น ข้อมูลเครดิตบูโร ที่จะช่วยให้การบริหารจัดการเครดิตของนักลงทุนได้มีประสิทธิภาพให้มากยิ่งขึ้น สุดท้ายคือพิจารณาปรับปรุงขั้นตอนการดำเนินการร่วมกันกับหน่วยงานกำกับดูแล และหน่วยงานอื่นๆ ทั้งในส่วนของภาครัฐ และภาคเอกชน เพื่อสามารถดำเนินการด้านต่างๆ ได้อย่างรวดเร็วมากขึ้น เพื่อที่จะลดผลกระทบไม่ให้เกิดความรุนแรง
"จากกรณีการผิดนัดชำระหุ้น บมจ.มอร์ รีเทิร์น (MORE) มูลค่าเกิน 4 พันล้านบาท ที่เกิดขึ้นเมื่อเดือน พ.ย.ปีที่ผ่านมาถือว่าเป็นเดือน พ.ย.ทมิฬ เราจึงมีแผนปรับปรุงเกณฑ์ต่างๆ ให้ทันสมัย และเหมาะสมมากขึ้น หลังจากที่ไม่ได้ปรับปรุงมานานแล้ว ต้องยอมรับว่าไม่สามารถทำได้เร็ว แต่เรามีแผนระยะสั้นเพื่อลดและป้องกันความเสี่ยง ซึ่งระยะยาวจะพิจารณาปรับปรุงกฎเกณฑ์และมาตรฐาน รวมไปถึงการพัฒนาศูนย์ข้อมูล" นายภากรกล่าว