หุ้นไทยปิด +17.26 จุด โบรกฯ เผย SET INDEX ปรับตัวขึ้นตามทิศทางบวกหลังตลาดคลายความกังวลอัตราเงินเฟ้อสหรัฐที่ผ่านจุดสูงสุดไปแล้ว อีกทั้งยังมี Fund Flow ไหลเข้ามาในตลาดหุ้นไทย ช่วยผลักดันดัชนีได้อย่างนัยสำคัญ มองกรอบการลงทุนวันพรุ่งนี้ดัชนีแนวต้านที่ 1,695-1,700 จุด และแนวรับที่ 1,680-1,1685 จุด
ตลาดหุ้นไทยปิดทำการซื้อขายวันที่ 9 ม.ค. 2566 ปรับตัวเพิ่มขึ้น +17.26 จุด หรือ +1.03% โดยปิดตลาดที่ 1,691.12 จุด มูลค่าการซื้อขาย 78,508.44 ล้านบาท โดยภาพรวมการซื้อขายหุ้นในวันนี้ ดัชนีปรับตัวเคลื่อนไหวในแดนบวกตลอดทั้งวัน โดยระหว่างวันปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 1,693.42 จุด ขณะที่ในทางกลับกันปรับตัวลดลงระดับต่ำสุด 1,684.90 จุด
ขณะที่หลักทรัพย์ที่มีการเปลี่ยนแปลงในวันนี้เพิ่มขึ้นจำนวน 1,031 หลักทรัพย์ ไม่เปลี่ยนแปลงจำนวน 453 หลักทรัพย์ และปรับตัวลดลงจำนวน 586 หลักทรัพย์
ด้านปริมาณการซื้อขายจำแนกตามกลุ่มนักลงทุนพบว่า นักลงทุนต่างประเทศ ซื้อสุทธิกว่า +4,337.19 ล้านบาท และ บัญชี บล. ซื้อสุทธิกว่า +35.54 ล้านบาท ในทางกลับกันพบว่า นักลงทุนในประเทศขายสุทธิกว่า -4,370.01 ล้านบาท และ นักลงทุนสถาบันขายสุทธิกว่า -2.73 ล้านบาท
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์
1.DELTA มูลค่าการซื้อขาย 3,825.27 ล้านบาท ปิดที่ 842.00 บาท เพิ่มขึ้น 34.00 บาท
2.CPALL มูลค่าการซื้อขาย 3,628.81 ล้านบาท ปิดที่ 73.00 บาท เพิ่มขึ้น 2.75 บาท
3.MTC มูลค่าการซื้อขาย 2,248.65 ล้านบาท ปิดที่ 41.00 บาท เพิ่มขึ้น 4.00 บาท
4.BANPU มูลค่าการซื้อขาย 1,877.53 ล้านบาท ปิดที่ 12.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.20 บาท
5.KBANK มูลค่าการซื้อขาย 1,838.56 ล้านบาท ปิดที่ 154.50 บาท เพิ่มขึ้น 1.50 บาท
ด้านดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวบวกเพิ่มขึ้นมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1.MTC ปิดที่ 41.00 บาท เพิ่มขึ้น 4.00 บาท หรือ 10.81%
2.TIDLOR ปิดที่ 31.75 บาท เพิ่มขึ้น 3.00 บาท หรือ 10.43%
3.SINGER ปิดที่ 29.75 บาท เพิ่มขึ้น 2.75 บาท หรือ 10.19%
4.SAWAD ปิดที่ 52.50 บาท เพิ่มขึ้น 4.50 บาท หรือ 9.38%
5.PSL 15.40 ปิดที่ 16.40 บาท เพิ่มขึ้น 1.20 บาท หรือ 7.89%
ส่วนดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวลดลงมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1.EAปิดที่ 90.50 บาท ลดลง 1.75 บาท หรือ 1.90%
2.GLOBALปิดที่ 22.40 บาท ลดลง 0.40 บาท หรือ 1.75%
3.AWCปิดที่ 6.30 บาท ลดลง 0.10 บาท หรือ 1.56%
4.BYDปิดที่ 12.80 บาท ลดลง 0.20 บาท หรือ 1.54%
5.BEMปิดที่ 9.60 บาท ลดลง 0.15 บาท หรือ 1.54%
ขณะที่ดัชนี SET100 ปิดที่ 2,286.56 จุด เพิ่มขึ้น 25.08 จุด หรือ 1.11% ส่วนดัชนี SET50 ปิดที่ 1,017.96 จุด เพิ่มขึ้น 10.35 จุด หรือ 1.03% และดัชนีตลาด mai ปิดที่ 585.85 จุด เพิ่มขึ้น 10.07 จุด หรือ 1.75%
นายชัยพร น้อมพิทักษ์เจริญ รองกรรมการผู้จัดการสายงานค้าหลักทรัพย์บุคคล บล.บัวหลวง กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ดัชนีปรับตัวขึ้นตามทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นเอเชีย ปัจจัยหนุนจากการผ่อนคลายความกังวลอัตราเงินเฟ้อสหรัฐที่ผ่านจุดสูงสุดไปแล้วและค่อยๆ ปรับลงจากตัวเลขค่าจ้างรายชั่วโมงของสหรัฐเพิ่มน้อยกว่าคาด เป็นปัจจัยที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจนำมาพิจารณาชะลอปรับขึ้นดอกเบี้ย เพราะถึงแม้ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตรจะสูงกว่าคาดแต่ค่าจ้างชะลอลง
ขณะเดียวกันปัจจัยข้างต้นทำให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ (Bond Yield) ปรับตัวลดลง หนุนหุ้นกลุ่มไฟแนซ์ที่ในช่วงที่ผ่านมาได้รับแรงกดดันปัจจัยดังกล่าวปรับขึ้นมาโดดเด่น และค่าเงินบาทกลับมาแข็งค่ารวดเร็วยังช่วยหนุนต่อ Fund Flow ที่ไหลเข้ามาในตลาดหุ้นไทย ช่วยผลักดันดัชนีได้อย่างนัยสำคัญ
ส่วนแนวโน้มตลาดหุ้นไทยพรุ่งนี้คาดว่าแกว่งไซด์เวย์หลังปรับขึ้นมาค่อนข้างมากและอัพไซด์เริ่มจำกัด โดยยังต้องติดตามการรายงานตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐฯในสัปดาห์นี้ โดยให้แนวต้าน 1,695-1,700 จุด แนวรับ 1,680-1,1685 จุด