ในบรรดาเศรษฐีหุ้นคนไทย มีหลายคนที่เป็นเจ้าของสื่อ บางคนเติบโตมาจากวงการบันเทิง เป็นพีธีกรผู้ดำเนินรายการ ผู้กำกับละคร หรือเป็นเจ้าของบริษัทค่ายเพลง หรือบางคนมาจากวงการสื่้อสารเทคโนโลยี แล้วแตกแยกย่อยทำบริษัทสื่อ จนนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ซึ่งจะพาไปส่องพอร์ตหุ้น ของ 5 เจ้าพ่อสื่อเมืองไทยรวยระดับหลักร้อยล้านถึงหมื่นล้าน
1.เสี่ยพิชญ์ โพธารามิก มูลค่าพอร์ต 1.68 หมื่นล้านบาท ถือ 3 ตัว คือ 1.JAS (บมจ.จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล) ถืออันดับ 1 ถือ 4,696,043,783 หุ้น หรือ 54.65% มูลค่า 10,706,979,825 บาท (ราคาหุ้น 2.28 บาท ณ 6 ม.ค.66) 2.JTS (บมจ.จัสมิน เทคโนโลยี โซลูชั่น) ถืออันดับ 2 ถือ 67,748,400 หุ้น หรือ 9.59% มูลค่า 3,014,803,800 บาท (ราคาหุ้น 44.50 บาท ณ 6 ม.ค.66) 3.MONO (บมจ.โมโน เน็กซ์) ถืออันดับ 1 ถือ 2,004,000,000 หุ้น หรือ 57.73% มูลค่า 3,166,320,000 บาท (ราคาหุ้น1.58 บาท ณ 6 ม.ค.66) รวม 3 ตัว 16,888,103,625 บาท
MONO มีนางพรรณี วรวุฒิจงสถิต ประธานกรรมการ นายปฐมพงศ์ สิรชัยรัตน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ส่วน JAS มีนายสุพจน์ สัญญพิสิทธิ์กุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (รักษาการ) และกรรมการผู้จัดการ ขณะที่ JTS มีนายสมบุญ พัชรโสภาคย์ ประธานคณะกรรมการบริหาร และนายดุสิต ศรีสง่าโอฬาร กรรมการผู้จัดการ ทั้งนี้ เสี่ยพิชญ์ เป็นลูกชายคนเดียวของ นายอดิศัย โพธารามิก อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ และกระทรวงพาณิชย์
2.อากู๋ -ไพบูลย์ ดำรงชัยธรรม มูลค่าพอร์ต 4.35 พันล้านบาท ถือ GRAMMY (บมจ.จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่) ในนามบริษัท ฟ้า ดำรงชัยธรรม จำกัด ถือใหญ่สุด 426,774,344 หุ้น หรือ 52.05% มูลค่า 4,353,098,308 บาท (ราคาหุ้น 10.20 บาท ณ 6 ม.ค.66) โดยมี นายไพบูลย์ ดำรงชัยธรรม เป็นประธานกรรมการบริษัท และ น.ส.บุษบา ดาวเรือง เป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม รองประธานกรรมการบริษัท และมีรองศาสตราจารย์นริศ ชัยสูตร อดีตอธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ อดีตรองปลัดกระทรวงการคลัง เป็นกรรมการอิสระ ประธานกรรมการตรวจสอบ
ปัจจุบัน ไพบูลย์และบุตร-ธิดาทั้ง 4 คน ได้ปรับโครงสร้าง โดยโอนหุ้นทั้งหมดที่ทั้ง 5 คนถืออยู่ในจีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ รวม 50.25% ไปให้บริษัท ฟ้า ดำรงชัยธรรม จำกัด เป็นผู้ถือหุ้นแทน โดยไพบูลย์ ยังคงมีเสียงส่วนใหญ่ด้วยสัดส่วนการถือหุ้นใน บจ.ฟ้า ดำรงชัยธรรม จำนวน 99% ส่วนอีก 1% ไพบูลย์ให้บุตรธิดาทั้ง 4 คนถือเท่ากันที่คนละ 0.25% เนื่องจากไพบูลย์มีอายุมากขึ้นแล้ว และต้องการจัดสรรทรัพย์สินส่วนตนให้เป็นกองกลางของครอบครัว
3.เสี่ยตา - ปัญญา นิรันดร์กุล มูลค่าพอร์ต 1.94 พันล้านบาท ถือหุ้น WORK (บมจ.เวิร์คพอยท์ เอ็นเทอร์เทนเมนท์) ถือหุ้นใหญ่สุด ถือ 105,845,822 หุ้น หรือ 23.97% มูลค่า 1,947,563,124 บาท (ราคาหุ้น 18.40 บาท ณ 6 ม.ค.2566) นอกจากเสี่ยตา แล้วยังมีนายประภาส ชลศรานนท์ ถือหุ้นใหญ่อันดับ 2 ถือ 22.94% และบริษัท เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป จำกัด (มหาชน) ถือหุ้นใหญ่อันดับ 3 ถือ 9.81% และมีนายปัญญา นิรันดร์กุล เป็น ประธานกรรมการ นายประภาส ชลศรานนท์ เป็นรองประธานกรรมการ นายพาณิชย์ สดสี เป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม GROUP CEO
นอกจากนี้ ลูกสาวเสี่ยตา น.ส.ปานตา นิรันดร์กุล ถือ TAPAC (บมจ.ทาพาโก้ ) ในอันดับ 6 ถือ 10,618,436 หุ้น หรือ 2.58% มูลค่า 29,943,989 บาท (ราคาหุ้น 2.82 ณ 6 ม.ค.66) ทั้งนี้ เสี่ยตา เป็นพิธีกร นักแสดงชาวไทย หนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้งบริษัทเวิร์คพอยท์เ ต่อมา พ.ศ.2547 นำบริษัทเข้าจดทะเบียนเป็นบริษัทมหาชนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
4.บอสบอย - ถกลเกียรติ วีรวรรณ มูลค่าพอร์ต 852 ล้านบาท ถือหุ้น 2 ตัว คือ 1.GRAMMY (บมจ.จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่) ถือลำดับ 9 ถือ 5,059,236 หุ้น หรือ 0.62% มูลค่า 51,604,207 บาท (ราคาหุ้น 10.20 บาทณ 6 ม.ค.66) 2.ONEE (บมจ.เดอะ วัน เอ็นเตอร์ไพรส์) ถือลำดับ 4 ถือ 104,072,000 หุ้น หรือ 4.37% มูลค่า 801.354,400 บาท (ราคาหุ้น 7.70 บาท ณ 6 ม.ค.66) รวม 2 ตัวของบอย มูลค่า 852,958,607 บาท นอกจากนี้ ยังมีคนนามสกุลวีรวรรณ คือ พญ.กนกแก้ว วีรวรรณ ถืออีก 2 หุ้นคือ 1.POLAR ถือ 840,000,000 หุ้น หรือ 3.29% (POLAR ติดเครื่องหมาย SP, NP, NC) 2.WORK ถือ 6,336,100 หุ้น หรือ 1.43 มูลค่า 116,584,240 บาท (ราคาหุ้น 18.40 บาท ณ 6 ม.ค.66)
หุ้น 2 ตัวที่บอสบอย 1.GRAMMY ผู้ถือหุ้นใหญ่สุดคือ บริษัท ฟ้า ดำรงชัยธรรม จำกัด ถือ 52.05% นายทวีฉัตร จุฬางกูร 16.42% นายณัฐพล จุฬางกูร 9.89% นางหทัยรัตน์ จุฬางกูร 6.29%, นาย โกมล จึงรุ่งเรืองกิจ 2.77% และ 2.ONEE นั้น ผู้ถือหุ้นใหญ่สุดคือ หมอปุย น.ส.ปรมาภรณ์ ปราสาททองโอสถ (ลูกสาวหมอเสริฐ) ถือ 40.04% อันดับ 2 คือ บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) ถือ 25.02% ทั้งนี้ ถกลเกียรติ เป็นบุตรของ อำนวย วีรวรรณ อดีตรองนายกรัฐมนตรี
5.เจ๊แอน - จักรพงษ์ จักราจุฑาธิบดิ์ มูลค่าพอร์ต 702 ล้านบาท ถือหุ้นใหญ่ JKN (บมจ.เจเคเอ็น โกลบอล กรุ๊ป) ถือ 183,018,523 หุ้น หรือ 25.23% มูลค่า 702,791,128 บาท (ราคาหุ้น 3.84 บาท ณ 6 ม.ค.66) และมีน้องสาว คือ น.ส.พิมพ์อุมา จักราจุฑาธิบดิ์ ถือในอันดับ 6 ถือ 7,262,800 หุ้น หรือ 1.00% มูลค่า 27,889,152 บาท (ราคาหุ้น 3.84 บาท ณ 6 ม.ค.66) นอกจากนี้ ยังมีคนดังอย่าง หมอเฉลิม หาญพาณิชย์ ประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บางกอก เชน ฮอสปิทอล จำกัด (มหาชน) ร่วมถือหุ้นในลำดับ 3 ถือ 3.32%
JKN เพิ่งมีข่าวเรียกประชุมผู้ถือหุ้นด่วนขออนุมัติแผนเพิ่มทุน RO วงเงิน 3,059 ล้านบาทในอัตรา 1 ต่อ 1 ราคาเสนอขาย 3 บาท ต่ำกว่ากระดาน ทำให้ราคาหุ้นเมื่อวันที่ 6 ม.ค.66 ปรับตัวลงแรง -0.58% หรือ -13.12% ทั้งนี้ แอนเป็นนักธุรกิจหญิงข้ามเพศชาวไทย เป็นสตรีข้ามเพศที่มีมูลค่าสินทรัพย์มากที่สุดในประเทศไทยและเอเชีย และเป็นอันดับ 3 ของโลก
อย่างไรก็ตาม เมื่อดูอัตราผลตอบแทนจากราคาในปี 65 ของแต่ละหุ้น คือ MONO -1.97% GRAMMY -23.31% WORK -19.11% ONEE-26.39% JKN-49.63 % นั้นเท่ากับติดลบทุกตัว!