ไนจีเรีย ออกประกาศห้ามการถอนเงินสดจากบัญชีของรัฐบาลตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2566 นี้เป็นต้นไป เพื่อหวังป้องกันธุรกรรมที่เชื่อมโยงกับการกระทำผิดกฎหมายและสร้างความคุ้นเคยประชาชน ปูทางไปสู่เศรษฐกิจไร้เงินสด
จากการเปิดเผยของสำนักข่าวบลูมเบิร์ก รายงานโดยอ้างถึงถ้อยแถลงของ Modibbo Tukur ประธานเจ้าหน้าที่บริหารหน่วยข่าวกรองทางการเงินของไนจีเรีย ซึ่งกล่าวเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมาว่า ปริมาณกระแสเงินสดที่หมุนเวียนในตลาดของประเทศประมาณ 1.1 ล้านล้าน naira หรือคิดเป็น 2.4 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งถูกถอนออกจากบัญชีสาธารณะ ในรูปของเงินสด ตั้งแต่ปี 2558 โดยธุรกรรมส่วนใหญ่น่าสงสัยเนื่องจากเกินเกณฑ์ทางกฎหมาย
“ในวันที่ 1 มีนาคม หากมีการถอนเงินสดจากบัญชีของรัฐบาล แม้ว่าจะเป็น 1 naira ก็ตาม เราจะเริ่มการสืบสวนการฟอกเงินและการทุจริต” เขาบอกกับนักข่าวในกรุงอาบูจา มีเพียงประธานาธิบดีเท่านั้นที่จะสามารถยกเว้นมาตรการดังกล่าวได้ ทูกูร์กล่าว
ทั้งนี้การกำหนดข้อจำกัดจะ “ลดความเสี่ยงที่เจ้าหน้าที่ของรัฐจะเปิดเผยต่ออาชญากรรมเหล่านี้ และปกป้องระบบการเงินจากการละเมิดอย่างต่อเนื่อง” ตามแนวทางที่เผยแพร่โดย NFIU
อย่างไรก็ดีกฎระเบียบใหม่ในการบังคับใช้กฎหมายที่แก้ไขเมื่อปีที่แล้วและเพิ่มขั้นตอนที่ดำเนินการโดยธนาคารกลางเพื่อส่งเสริมการชำระเงินแบบดิจิทัล ตามแผนนโยบายการเงินของ CBDC และป้องกันการกักตุนเงินสดและกิจกรรมที่ผิดกฎหมาย Tukur กล่าว
ขณะที่หากย้อนไปเมื่อปีที่แล้ว ธนาคารได้ประกาศแผนการปรับเปลี่ยนธนบัตร 200, 500 และ 1,000 naira ภายในสิ้นเดือนนี้ เพื่อหวังลดวงเงินการถอนรายวันจากเครื่องถอนเงินอัตโนมัติ
อย่างไรก็ดีการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวจะมีผลภายใน 4 วันหลังจากชาวไนจีเรียลงคะแนนเสียงเลือกตั้งประธานาธิบดีคนใหม่และสมาชิกสภานิติบัญญัติของรัฐบาลกลาง และอีก 10 วันก่อนที่พวกเขาจะเลือกผู้ว่าการรัฐและสมาชิกสภานิติบัญญัติ