เป็นข่าวดีเมื่อรัฐบาลจีนประกาศหลังวันที่ 8 มกราคม ปี 2566 ยกเลิกการกักตัวสำหรับผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศ รวมไปถึงอนุญาตให้ชาวต่างชาติที่ต้องการเดินทางเข้าประเทศจีน เพื่อเยี่ยมญาติ ทำงาน ติดต่อธุรกิจ และเรียนหนังสือสามารถเข้าประเทศได้โดยไม่ต้องกักตัวแบบมีเงื่อนไข คือ ต้องตรวจ RT-PCR ก่อนเดินทาง 48 ชั่วโมง แม้ว่าก่อนหน้านี้จะมีการอนุญาตให้ชาวต่างชาติกลุ่มที่กล่าวมาเดินทางเข้าประเทศจีนได้ แต่ต้องมีการกักตัวในสถานที่ที่รัฐบาลและหน่วยงานท้องถิ่นกำหนด และต้องขอโค้ดสุขภาพ (Health Declaration) จากทางสถานทูตจีนซึ่งยังถือว่ายากลำบากอยู่ แต่ประกาศใหม่ที่ทางรัฐบาลจีนประกาศออกมานั้นไม่ต้องกักตัวหรือขอโค้ดสุขภาพใดๆ อีกต่อไปแล้ว
มาตรการใหม่ที่ทางรัฐบาลจีนประกาศออกมานี้ เท่ากับว่าภายในประเทศจีนจะไม่มีการใช้โค้ดสุขภาพเพื่อการเดินทางระหว่างเมือง มณฑล หรือเข้าใช้ระบบขนส่งสาธารณะ หรือการใช้บริการในหลายๆ สถานที่อีกต่อไป ซึ่งจะทำให้การเดินทางภายในประเทศสะดวกมากขึ้น แม้ว่าอาจจะยังต้องเฝ้าระวังเรื่องของจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่องทุกวัน
แต่ปฏิกิริยาที่จีนเปิดประเทศได้ส่งผลให้ภาคธุรกิจต่างๆ มีความตื่นตัว และประเมินผลในเชิงบวกต่อการกลับเข้ามาของนักท่องเที่ยว
แสนสิริมั่นใจปีนี้จีนกลับมาแน่ ท่องเที่ยวโตแบบไอพ่น หนุนซื้อคอนโดฯ
นายอุทัย อุทัยแสงสุข ประธานผู้บริหารสายงานปฏิบัติการ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) หรือ SIRI ดีเวลลอปเปอร์รายแรกๆ ที่ประสบความสำเร็จในการนำโครงการคอนโดมิเนียมไปโรดโชว์ต่างประเทศ เมื่อปี 2561 สามารถสร้างยอดขายในโควตาต่างชาติ จนมีสัดส่วนสูงถึง 20-30% หรือมีมูลค่าการขายสูงถึง 13,000-14,000 ล้านบาท เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวถึงภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ในปีใหม่ 2566 ว่า อสังหาฯ จะเติบโตตามภาวะเศรษฐกิจ ซึ่งในปีนี้มีการคาดการณ์ขยายตัวประมาณ 3.4% และเชื่อมั่นว่าการท่องเที่ยวจะกลับมา และจีนเปิดประเทศจะเป็นผลดีต่อภาพรวมแน่นอน ท่องเที่ยวจะโตแบบไอพ่น แต่ถ้าสมมติท่องเที่ยวไม่กลับมา ก็ต้องรัดเข็มขัด
อย่างไรก็ตาม หากตัวเลขนักท่องเที่ยวเข้ามาเยือนประเทศไทยสูงถึง 30 ล้านคน เราเชื่อมั่นที่จะได้เห็นตัวเลขยอดขายคอนโดฯ ให้ลูกค้าต่างประเทศสูงสุดอีกครั้งภายในปี 2567 ขณะที่การลงทุนในธุรกิจโรงแรม หลังจากเปิดประเทศทำให้รายได้ธุรกิจโรงแรมกลับคืนมาอย่างรวดเร็วมาก คาดจะถึงจุดคุ้มทุนเร็ว (Break-Even)ในปี 2566 จากเดิมเป็นปี 2568
“แสนสิริพร้อมวันนี้ เราเตรียมตัวอย่างเดียว เอาคนจีนเข้ามา เปรียบได้กับคลื่นที่จะทะลักเข้ามาแน่นอน เราได้คุยกับทีมฝ่ายขายแล้ว เรามีทีม INTERNATIONAL BUSINESS ที่จะลิงก์กับลูกค้าต่างชาติ ซึ่งเรายังมีเอเยนต์กว่า 100 ราย และเรายังมีพนักงานอยู่ที่จีน ฮ่องกง ไต้หวัน” นายอุทัย กล่าว
สำหรับทิศทางตลาดคอนโดมิเนียมคงต้องรอนักท่องเที่ยว ตอนนี้ตลาดคนไทยเริ่มมีบ้างที่เริ่มหันมาซื้อคอนโดฯ หรือมองหาคอนโดฯ เป็นบ้านหลังที่ 2 เริ่มมีเข้ามา เนื่องจากปัจจัยเรื่องของการเดินทางและค่าเดินทางที่สูงขึ้น แต่ถ้าจะให้คอนโดฯ จุดติดเต็มที่ต้องรอการท่องเที่ยวเป็นสำคัญ ถ้าท่องเที่ยวดี จะส่งผลต่อกรุงเทพฯ ภูเก็ต พัทยา และเชียงใหม่ดีตามมาด้วย ซึ่งคงต้องรอภายในปี 2567 ที่ตัวเลขนักท่องเที่ยวจะกลับมาดีขึ้นเทียบเท่าก่อนโควิด
"เวลามอง แน่นอนตลาดใหญ่จะเป็นสัญชาติจีน แต่ต้องมองว่าจีน มีทั้งจีนฮ่องกง จีนไต้หวัน ทุกวันนี้ฮ่องกง ไต้หวันเริ่มมา แต่เปอร์เซ็นต์ไม่มาก แต่เข้ามาเที่ยวและเมื่อเห็นโอกาสจะซื้อคอนโดฯ ในไทย ซึ่งคนจีนโดยธรรมชาติแล้ว เมื่อมีเงินต้องมีแผนสองรองรับ เพราะไม่รู้ฐบาลจะมีมาตรการอะไรออกมา กลุ่มที่รวยมากๆ จะไปมองตลาดอสังหาฯ ที่สหรัฐฯ ส่วนคนจีนที่มีรายได้ปานกลาง มีเงินขึ้นมาบ้างจะมองในภูมิภาคเอเชีย ประเทศไทยเป็นเมืองท่องเที่ยว ไม่รังเกียจคนจีน ค่าครองชีพไม่สูง อากาศอบอุ่น คนไทยมีไมตรีที่ดี นั่นจึงเป็นเหตุผลคนจีนมาอยู่เมืองไทยเป็นจำนวนมาก" นายอุทัย กล่าว
ดีเวลลอปเปอร์เตรียมพร้อมจีนเร่งโอนคอนโดฯ
นายสุรเชษฐ กองชีพ กรรมการผู้จัดการ บริษัท พร็อพเพอร์ตี้ ดีเอ็นเอ จำกัด (Property DNA) บริษัทที่ปรึกษาการลงทุนอสังหาริมทรัพย์ครบวงจร เปิดเผยว่า การเดินทางออกนอกประเทศของคนจีนคงมีมากขึ้น ถ้าสถานการณ์ต่างๆ ไม่มีการเปลี่ยนแปลง แต่คงเห็นได้ชัดเจนช่วงตรุษจีนปี 2566 เพราะเป็นช่วงเทศกาลสำคัญ และเป็นวันหยุดยาวของประเทศจีนอยู่แล้ว ซึ่งโดยปกติจะเป็นช่วงที่คนจีนจำนวนมากเดินทางกลับบ้านเกิดเพื่อเยี่ยมครอบครัว รวมไปถึงออกนอกประเทศเพื่อการท่องเที่ยว ซึ่งช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาทำได้ยากมาก เพราะข้อจำกัดในการเดินทางต่างๆ เนื่องจากมาตรการของรัฐบาลที่มีต่อสถานการณ์โควิด-19 ซึ่งถ้าสถานการณ์โควิด-19 ในประเทศจีนยังไม่มีอะไรที่พลิกผันมาก และรัฐบาลไม่มีมาตรการอะไรออกมาเปลี่ยนแปลงกะทันหัน ธุรกิจการท่องเที่ยวในประเทศไทยอาจจะต้องรับนักท่องเที่ยวจากประเทศจีนจำนวนมากเป็นครั้งแรกในรอบ 3 ปี
ก่อนหน้านี้ ทั้งเรื่องของข้อจำกัดในการเดินทางเข้าออกประเทศจีน และเรื่องของสายการบิน จำนวนเที่ยวบินที่มีน้อยมาก ทำให้การเดินทางออกนอกประเทศจีนเพื่อมาประเทศไทยทำได้ยากมาก และค่าใช้จ่ายสูง ซึ่งมีผลต่อเนื่องให้ธุรกิจการท่องเที่ยวในประเทศไทยชะงักไป เพราะไม่เพียงแต่นักท่องเที่ยวจีนที่หายไป แต่นักท่องเที่ยวต่างชาติอื่นๆ ก็หายไปด้วย แต่จำนวนของนักท่องเที่ยวจีนมีจำนวนมากกว่านักท่องเที่ยวอื่นๆ แบบชัดเจน เมื่อนักท่องเที่ยวชาวจีนหายไป จึงมีผลกระทบโดยตรงต่อธุรกิจการท่องเที่ยวในประเทศไทย
"ถ้าปี 2566 นักท่องเที่ยวชาวจีนกลับมามากขึ้นกว่าที่ผ่านมา แม้ว่าจะไม่มากเทียบเท่าช่วงก่อนโควิด-19 ก็เพียงพอต่อการช่วยกระตุ้นให้ธุรกิจการท่องเที่ยวในประเทศไทยดีขึ้นมากแล้ว ธุรกิจอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับชาวจีนได้รับอานิสงส์บวกไปด้วย โดยเฉพาะเรื่องของตลาดคอนโดมิเนียม ที่ผู้ประกอบการหลายรายรอการมาของคนจีน ที่อาจจะซื้อหรือวางเงินดาวน์คอนโดฯ ไว้ รอเพียงเข้ามาโอนกรรมสิทธิ์เท่านั้น แต่ที่ผ่านมาทำไม่ได้เพราะปัญหาหลายอย่าง ถ้าการเดินทางสะดวกมากขึ้น และค่าใช้จ่ายลดลงเป็นไปได้ที่จะเกิดการโอนกรรมสิทธิ์คอนโดมิเนียมมากกว่าที่ผ่านมา"
แต่อย่างไรก็ตาม ถ้าการเดินทางออกนอกประเทศจีนของคนจีนในช่วงตรุษจีนไม่มีปัญหาอะไร ก็เป็นไปได้ที่ปีนี้จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้าประเทศไทยจะมากกว่า 20 ล้านคนอีกครั้ง ซึ่งต้องติดตามสถานการณ์ต่อเนื่องอย่างใกล้ชิด ถ้าจำนวนเพิ่มขึ้นต่อเนื่องจนเลยครึ่งแรกของปี 2565 ก็เป็นไปได้ที่ช่วงครึ่งหลังของปี 2566 จำนวนของนักท่องเที่ยวจีนที่เข้ามาในประเทศไทยจะมากขึ้นต่อเนื่อง เพราะต้องไม่ลืมว่ารัฐบาลจีนเองต้องควบคุมสถานการณ์โควิด-19 ในประเทศตนเองเช่นกัน
ศูนย์ข้อมูลอสังหาฯ ชี้จีนโอนห้องชุดสะสมไปกว่า 1.24 แสนล้าน
ดร.วิชัย วิรัตกพันธ์ ผู้ตรวจการธนาคารอาคารสงเคราะห์ และรักษาการผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ เปิดเผยภาพรวมสถานการณ์การโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดให้คนต่างชาติทั่วประเทศว่า หากพิจารณาในภาวะการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดให้คนต่างชาติสะสมในช่วง 9 เดือน ปี 2565 (ม.ค.-ก.ย.) พบว่ามีจำนวน 7,290 หน่วย เพิ่มขึ้น 19.0% มูลค่า 36,986 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 24.3% แสดงให้เห็นว่าตลาดห้องชุดคนต่างชาติในภาพรวมน่าจะมีการฟื้นตัวขึ้นแล้ว และการซื้อห้องชุดของคนต่างชาติในช่วงก่อนหน้าได้มีการรับโอนอย่างต่อเนื่อง
ในรอบ 9 เดือน ชาวจีนเป็นสัญชาติที่มีการโอนห้องชุดมากที่สุดทั่วประเทศ จำนวน 3,562 หน่วย สัดส่วนสูงถึง 48.9% ของหน่วยทั้งหมด มูลค่าโอน 17,943 ล้านบาท สูงถึง 48.5% ของมูลค่าทั้งหมด แต่เป็นที่น่าสังเกต มีกลุ่มของชาวพม่าที่มีมูลค่าการโอนสูงจำนวน 1,342 ล้านบาท คิดเป็น 3.6% เป็นต้น
"จีนเปิดประเทศเป็นปัจจัยบวกที่ดีสำหรับตลาดห้องชุดในประเทศไทย แต่ที่ผ่านมา สัดส่วนของหน่วยและมูลค่าการโอนชาวจีนลดลงต่ำกว่าร้อยละ 50 ในปี 2565 จากเดิมสูงสุดถึงกว่าร้อยละ 60 ประกอบกับภาวะเศรษฐกิจของจีนได้รับผลกระทบจากการล็อกดาวน์ประเทศ รวมถึงผลกระทบจากวิกฤตอสังหาฯ ในประเทศจีน และนโยบายเศรษฐกิจจีนที่จะมุ่งเน้นการบริโภคในประเทศมากขึ้น ดังนั้น คาดว่าอสังหาฯ จะได้รับผลดีอย่างชัดเจนในช่วงครึ่งหลังของปี 2566" ดร.วิชัย กล่าว
อย่างไรก็ดี จากข้อมูลที่ศูนย์ข้อมูลได้เผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับต่างชาติซื้อและโอนคอนโดฯ ในไทย พบว่า นับตั้งแต่ปี 2561-2565 (5 ปี) พบว่า ในปี 61-62 หน่วยโอนจะสูงระดับเกิน 1.3-1.2 หมื่นหน่วย มูลค่าการโอนไม่ต่ำกว่า 57,251 ล้านบาท และ 50,610 ล้านบาท ตามลำดับ ก่อนที่จะปรับลดลงทั้งจำนวนหน่วย และมูลค่าการโอนในปี 63-64 ดังนั้น หากพิจารณาช่วง 5 ปี ต่างชาติมาชอปคอนโดฯ ในไทยไปแล้วรวม 50,000 หน่วย มูลค่ากว่า 230,329 ล้านบาท พบว่าลูกค้าชาวจีนมีมูลค่าการโอนสูงกว่า 124,000 ล้านบาท ครองส่วนแบ่งตลาดถึง 50%
ชงยืดมาตรการต่างชาติพำนักในไทย ททท.เพิ่มเป้าปี 66 เข้ามา 25 ล้านคน
สำหรับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับภาคการท่องเที่ยว คือ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ได้เริ่มส่งสัญญาณเชิงบวกไปถึงผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยวและบริการ โดยประเด็นสำคัญที่จะขับเคลื่อนการท่องเที่ยวครั้งใหม่ คือ การที่ประเทศจีนได้ประกาศเปิดประเทศ ซึ่งจะมีส่วนผลักดันให้เศรษฐกิจประเทศไทยมีการเติบโตต่อเนื่องอีก
โดย นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า ก่อนหน้าที่จีนเปิดประเทศ ประกาศผ่อนคลายมาตรการเดินทาง ยกเลิกการกักตัวทั้งหมด เดิม ททท.ตั้งเป้าหมายดึงนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าไทยในปี 2566 ไม่น้อยกว่า 20 ล้านคน (ไม่รวมจีน) แต่พอจีนเปิดประเทศ ททท.จึงปรับเป้าหมายดึงนักท่องเที่ยวต่างชาติ (รวมจีน) เข้าไทยไม่น้อยกว่า 25 ล้านคน
ก่อนหน้านี้ ททท.ประเมินไว้ว่าภายในไตรมาส 1 ปี 2566 จีนจะเปิดประเทศอย่างแน่นอน แต่จะเป็นการเปิดอย่างเป็นขั้นเป็นตอน โดย ททท.จะเสนอให้รัฐบาลต่ออายุมาตรการขยายเวลาพำนักในประเทศไทยสำหรับชาวต่างชาติ 3 กลุ่มที่เดินทางเข้าประเทศไทยให้สิ้นสุดวันที่ 31 ธ.ค.2566 เพื่อดึงนักท่องเที่ยวชาวจีนและชาติอื่นๆ พำนักและใช้จ่ายในประเทศไทยมากขึ้น
ทั้งนี้ ทาง ททท.ได้คาดหมายปี 66 จะมีนักท่องเที่ยวจีนเดินทางมาเที่ยวไทยเกิน 5 ล้านคน จากในปี 2562 ตัวเลขชาวจีนเดินทางมาไทยประมาณ 11 ล้านคน และในปี 2565 มีนักท่องเที่ยวจีนเดินทางเข้าไทยอยู่ที่ 2.7 แสนคน
อย่างไรก็ตาม ในเรื่องมาตรการที่จะเกี่ยวกับนักท่องเที่ยวจีนที่จะเข้าสู่ประเทศไทยนั้น แม้จะมีหลายประเทศออกมาตรการป้องกันอย่างเข้มงวด เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 แต่ในมาตรการของไทยที่จะชัดเจนนั้นคงต้องรอการประชุมวันที่ 5 ม.ค.66 ซึ่งจะมี 3 กระทรวง (ของพรรคภูมิใจไทย) กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงสาธารณสุข และกระทรวงคมนาคม เพื่อเตรียมรับมือต่อการที่รัฐบาลจีนจะเริ่มบังคับใช้มาตรการเปิดประเทศเมื่อวันที่ 8 ม.ค.คาดจะมีนักท่องเที่ยวจีนเดินทางเข้ามาจำนวนมาก
“ลุมพินี วิสดอม” คาดจีนกระตุ้นกำลังซื้ออสังหาฯ ปี 66
นายประพันธ์ศักดิ์ รักษ์ไชยวรรณ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ลุมพินี วิสดอม แอนด์ โซลูชั่น จำกัด บริษัทวิจัยและพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในเครือบริษัท แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) ให้ความเห็นถึงนโยบายการเปิดประเทศของจีนว่า จะสามารถกระตุ้นกำลังซื้อที่อยู่อาศัยโดยเฉพาะอาคารชุดพักอาศัยในประเทศไทยได้เพิ่มขึ้น
"เมื่อเร็วๆ นี้มีนักลงทุนชาวจีนสนใจเข้ามาลงทุนในประเทศไทยติดต่อขอข้อมูลเข้ามาที่เรา และสนใจที่จะเข้ามาลงทุนซื้ออาคารชุดในประเทศไทยในปี 2566 ในขณะที่การเปิดประเทศของจีนจะเปิดโอกาสให้นักลงทุนชาวจีนเดินทางเข้ามาในประเทศไทยและซื้ออสังหาฯ ในประเทศไทยได้มากขึ้น" นายประพันธ์ศักดิ์ กล่าว
