xs
xsm
sm
md
lg

ผิดซ้ำซาก! ก.ล.ต.ฟัน “บิทคับ” 13 ครั้ง ปรับรวม 126 ล้านบาท

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ผิดซ้ำซาก! ย้อนรอย ก.ล.ต.สั่งปรับ “บิทคับ” ยูนิคอร์นสายพันธุ์ไทย รวมแล้ว 13 ครั้ง มูลค่าเงินค่าปรับกว่า 126 ล้านบาท แถมยังต้องลุ้นคดีใหญ่ที่อยู่ระหว่างการตรวจสอบกรณีปั่นเหรียญ “KUB” เมื่อปี 64 และการแก้ไขคุณสมบัติเหรียญที่อวยจนเวอร์ ทำให้ขาดคุณสมบัติเข้าเทรดในกระดานสินทรัพย์ดิจิทัล

ตลอดปี 2565 ที่ผ่านมา กลุ่มบิทคับ ภายใต้เครือข่ายของบริษัท บิทคับ แคปปิตอล กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด โดนมรสุมกระหน่ำอย่างหนัก ไม่ว่าจะเป็นตลาดคริปโตเคอร์เรนซีที่ตกอยู่ในภาวะตลาดหมีอย่างเต็มรูปแบบ ทำให้ราคาเหรียญและมูลค่าตลาดคริปโตฯ ต่างกันราวฟ้ากับเหว เมื่อเทียบกับปี 2564 ที่ผ่านมา

แม้ว่านายจิรายุส ทรัพย์ศรีโสภา จะพยายามออกมาโหมทำการประชาสัมพันธ์ รวมถึงโหนกระแสการพบผู้นำองค์กรต่างๆ ในช่วงการประชุมเอเปก 2022 ที่ไทยเป็นเจ้าภาพ แต่ก็ไม่สามารถจะช่วยได้มากนัก สะท้อนจากราคาเหรียญ KUB ที่ปรับลดลงอย่างหนัก จากที่เคยทำราคาสูงสุดกว่า 580 บาท เหลือไม่ถึง 60 บาทในปัจจุบัน

นี่ยังไม่รวมถึงพฤติกรรมที่มักกระทำการฝ่าฝืนและผิดหลักเกณฑ์ พ.ร.บ.สินทรัพย์ดิจิทัลฯ ที่หน่วยงานกำกับดูแลอย่างสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ต้องเข้าไปทำการตรวจสอบและใช้มาตรการลงทุนไปแล้วหลายกรณี จนเป็นเหตุให้กลุ่มเอสซีบี เอกซ์ ประกาศล้มบิ๊กดีลซื้อหุ้นบริษัท บิทคับ ออนไลน์ จำกัด ในสัดส่วน 51% มูลค่ารวมกว่า 17,850 ล้านบาท



iBit ได้สำรวจพฤติกรรมการกระทำผิดของ “บิทคับ” ที่สำนักงานก.ล.ต.เข้าตรวจสอบและใช้มาตรการทางแพ่งลงโทษ พบตั้งแต่เปิดเนินการมา ก.ล.ต. สั่งปรับบิทคับ รวมแล้ว 13 ครั้ง คิดเป็นจำนวนเงินรวมทั้งสิ้นกว่า 126 ล้านบาท ซึ่งมากที่สุดในบรรดาผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล ที่ได้รับอนุญาตจาก ก.ล.ต. ประกอบด้วย

1. ระหว่างวันที่ 2 -21 ม.ค. 64 “บิทคับ” มีระบบงานที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขาย ระบบรับฝากและถอนทรัพย์สิน และระบบการแสดงยอดทรัพย์สินของลูกค้า ไม่เหมาะสมและเพียงพอให้บิทคับประกอบธุรกิจได้อย่างต่อเนื่องและมีประสิทธิภาพ ปรับจำนวนเงิน 305,000 บาท

2.ในช่วงเดือนม.ค. 64 “บิทคับ” รายงานเหตุการณ์ที่ส่งผลกระทบต่อระบบสารสนเทศที่มีความสำคัญ ประเภทระบบหยุดชะงัก (System Disruption) ต่อ ก.ล.ต. ล่าช้ากว่าระยะเวลาที่ประกาศกำหนด เป็นจำนวน 6 ครั้ง ปรับ 454,000 บาท

3.ระหว่างวันที่ 6 ม.ค. 64 ถึง 28 พ.ค. 64 “บิทคับ” มีระบบงานที่รองรับการรวบรวมและประเมินข้อมูลลูกค้าไม่เหมาะสมและเพียงพอให้บริษัท บิทคับ ประกอบธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ ปรับ 398,500 บาท

4.ระหว่างวันที่ 28 ธ.ค. 63 ถึง 20 ม.ค. “บิทคับ” มีระบบงานที่เกี่ยวกับการรับและจัดการข้อร้องเรียน และการจัดให้มีช่องทางในการติดต่อสื่อสารกับลูกค้า รวมทั้งจำนวนและความรู้ความสามารถของบุคลากรไม่เหมาะสมและเพียงพอให้บิทคับประกอบธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ ปรับ 160,500 บาท

5.ระหว่างวันที่ 8 ม.ค. 64 ถึง 19 ก.ค. 64 “บิทคับ” มีระบบงานที่ช่วยเสริมสร้างและรักษากลไกการทำงานของระบบซื้อขายให้มีความเป็นระเบียบเรียบร้อย (surveillance) ไม่รัดกุมเพียงพอที่จะทำให้บิทคับทราบธุรกรรมที่อาจเข้าข่ายเป็นการผลักดันราคาจากการแจ้งเตือนของระบบในทันที ปรับ 1,265,000 บาท

6.ระหว่างวันที่ 8 ม.ค. 64 ถึง 7 มี.ค. 64 “บิทคับ” มีระบบงานในการกำกับดูแลการปฏิบัติงานของผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล (compliance) ไม่รัดกุมเพียงพอที่จะทำให้บริษัท บิทคับ สามารถประกอบธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ กล่าวคือ ไม่กำกับดูแลให้ฝ่ายผลิตภัณฑ์ติดตามคุณสมบัติของสกุลเหรียญดิจิทัล CTXC จึงไม่ได้ update version ของเหรียญ ทำให้เหรียญดังกล่าวที่ซื้อขายในศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลของบิทคับไม่สามารถซื้อขายได้ในศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลอื่น และมีการปรับตัวของราคาผิดปกติอย่างมาก ปรับ 230,500 บาท

7. “บิทคับ” ปฏิบัติไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์ เงื่อนไข และวิธีการในการซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล (trading rules) ที่ได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการ ก.ล.ต. โดยหยุดซื้อขายเหรียญดิจิทัลสกุล JFIN Coin (JFIN) และ Infinitus (INF) ชั่วคราว ปรับ 300,000 บาท

8.ระหว่างวันที่ 1 ม.ค. 64 ถึง 31 ก.ค. 64 “บิทคับ” เก็บรักษาสินทรัพย์ดิจิทัลของลูกค้าในระบบที่เชื่อมต่อกับเครือข่ายเมื่อทำธุรกรรมเท่านั้น (cold wallet) น้อยกว่าร้อยละ 90 ของมูลค่าสินทรัพย์ดิจิทัลของลูกค้าทั้งหมดที่เก็บรักษาไว้ เป็นเวลา 33 วัน โดยปรับเป็นเงิน 858,000.00 บาท

9. ระหว่างวันที่ 5 ม.ค. 64 ถึง 24 ม.ค. 64 “บิทคับ” ยินยอมให้บุคคลที่ไม่ได้ดำรงตำแหน่งเป็นกรรมการหรือผู้บริหารของบริษัท เข้ามามีส่วนร่วมในการบริหารจัดการงาน

10. วันที่ 5 พ.ค. 65 ก.ล.ต. สั่งปรับคณะกรรมการคัดเลือกสินทรัพย์ดิจิทัล บริษัท บิทคับ ออนไลน์ จำกัด จำนวน 6 ราย คัดเลือกเหรียญ KUB เข้าเทรดในกระดานผิดเงื่อนไขและไม่ได้คำนึงถึงมาตรการป้องกันความขัดแย้งทางผลประโยชน์ ปรับเป็นเงินรวม 15,201,000 บาท

11. วันที่ 30 มิ.ย.65 ก.ล.ต. สั่งปรับบิทคับ และนายสกลกรย์ สระกวี ในฐานะประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้มีอำนาจจัดการของบิทคับ นายอนุรักษ์ เชื้อชัย มาร์เก็ตเมกเกอร์ สร้างปริมาณเทียมปั่นราคาสินทรัพย์ดิจิทัลบนกระดานเทรดบิทคับ ปรับเป็นเงินจำนวน 24,161,292 บาท รวมทั้งห้ามซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลหรือสัญญาซื้อขายล่วงหน้าสินทรัพย์ดิจิทัล 6 เดือน และห้ามเป็นกรรมการหรือผู้บริหาร 12 เดือน

12. วันที่ 31 ส.ค. 65 ปรับนายสำเร็จ วจนะเสถียร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายเทคโนโลยี บริษัท บิทคับ บล็อคเชน เทคโนโลยี จำกัด ใช้ข้อมูลภายในดีลซื้อขายหุ้นบริษัท บิทคับ ออนไลน์ จำกัด ในสัดส่วน 51% มูลค่า 17,850 ล้านบาท ระหว่างกลุ่มเอสซีบี เอกซ์ และบริษัท บิทคับ แคปปิตอล กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด เข้าซื้อเหรียญ KUB เก็งกำไรเป็นจำนวนมากผิดปกติ ปรับเป็นจำนวนเงิน 8,530,383 บาท และห้ามเป็นกรรมการหรือผู้บริหารของ ผู้เสนอขายโทเคนดิจิทัลหรือผู้ประกอบธุรกิจ สินทรัพย์ดิจิทัล 12 เดือน

ล่าสุด 29 ธ.ค. 65 ที่ผ่านมา ก.ล.ต. สั่งปรับบิทคับ พร้อมด้วยนายสกลกรย์ สระกวี ขณะกระทำความผิดดำรงตำแหน่งเป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้มีอำนาจจัดการของบิทคับ และนายอนุรักษ์ เชื้อชัย มาร์เก็ตเมกเกอร์ กรณีสร้างปริมาณเทียมสร้างราคาเหรียญดิจิทัลจำนวน 18 เหรียญบนกระดานเทรดบิทคับ สั่งปรับรวม 75,011,241 บาท พร้อมห้ามซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลหรือสัญญาซื้อขายล่วงหน้าสินทรัพย์ดิจิทัล เป็นเวลา 4 เดือน และห้ามเป็นกรรมการหรือผู้บริหารเป็นเวลา 8 เดือน

อย่างไรก็ตาม ปัญหา “บิทคับ” คงยังไม่จบเพียงแค่นี้ เพราะมรสุมลูกใหญ่กำลังจะตามมาในเวลาอันใกล้ คือกรณีที่ ก.ล.ต.สั่งให้แก้ไขมาตรการเหรียญ KUB ที่เคยให้คะแนนไว้สูงเวอร์แบบไม่เคยมีมาก่อน จนทำให้เหรียญขาดคุณสมบัติที่จะเข้ามาเทรดในกระดานสินทรัพย์ดิจิทัล ซึ่งคาดว่า ก.ล.ต.จะมีมาตรการลงโทษออกมาเร็วๆ นี้ รวมถึงการสร้างราคาเหรียญ KUB ในช่วงปี 64 ที่ราคาขึ้นลงผิดปกติ จน ก.ล.ต. ต้องเข้าไปตรวจสอบ ดังนั้นจึงต้องจับตากันอย่างใกล้ชิดต่อไป



กำลังโหลดความคิดเห็น