น.ส.กาญจนา โชคไพศาลศิลป์ ผู้บริหารงานวิจัย บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด เผยเงินบาทวันนี้ (3 ธ.ค.) แตะระดับแข็งค่าสุดในรอบ 7 เดือนที่ 34.29 ก่อนจะกลับมาปิดตลาดที่ระดับประมาณ 34.42 บาทต่อดอลลาร์ แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับระดับปิดตลาดวันทำการก่อนหน้าที่ 34.61 บาทต่อดอลลาร์ โดยเงินบาทแข็งค่าขึ้นตามสกุลเงินอื่นๆ ในเอเชียท่ามกลางแรงขายเงินดอลลาร์ จากการคาดการณ์ว่า เฟดอาจชะลอขนาดการปรับขึ้นดอกเบี้ยต่อเนื่องในการประชุมรอบแรกของปีนี้ ซึ่งสวนทางกับเงินเยนที่ตลาดเริ่มคาดหวังมากขึ้นว่า อาจเห็นธนาคารกลางญี่ปุ่นปรับเปลี่ยนท่าทีการดำเนินนโยบายการเงินในปีนี้ นอกจากนี้ เงินบาทยังได้รับแรงหนุนจากทิศทางฟันด์โฟลว์ และการแข็งค่าของเงินหยวนที่ยังคงได้รับอานิสงส์จากการทยอยเปิดประเทศ
สำหรับทิศทางฟันด์โฟลว์ของนักลงทุนต่างชาติในวันนี้ นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิหุ้นและพันธบัตรไทยถึง 1,441.77 ล้านบาท และ 11,321 ล้านบาท ตามลำดับ
สำหรับกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันพรุ่งนี้ คาดไว้ที่ 34.10-34.60 บาทต่อดอลลาร์ ขณะที่ปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ ทิศทางเงินทุนต่างชาติ สถานการณ์โควิดในจีน และการเคลื่อนไหวของสกุลเงินเอเชีย ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจต่างประเทศที่สำคัญ ได้แก่ ดัชนี PMI ภาคการบริการเดือน ธ.ค.ของยุโรป รวมถึงตัวเลขการเปิดรับสมัครงานและอัตราการหมุนเวียนของแรงงานเดือน พ.ย. ดัชนี PMI/ISM ภาคบริการเดือน ธ.ค. ของสหรัฐฯ และรายงานการประชุมเฟด