ในปี 2564 นักวิเคราะห์การลงทุนคริปโตเคอร์เรนซีซึ่งประสบความสำเร็จอย่างมาก ได้ตั้งเพดานความหวังอย่างสูงกับราคาบิทคอยน์ โดยหลายสำนักประเมินว่าราคาบิทคอยน์อาจจะพุ่งแตะ 100,000 ดอลลาร์หรือมากกว่านั้นภายใน 2564 จนกระทั่งปี 2565 ซึ่งมีการการปรับตัวลดลงเป็นส่วนใหญ่ และติดลบถึง 65% แม้ราคาจะดีดตัวขึ้นมาบ้าง แต่ก็เป็นช่วงระยะเวลาสั้นๆเท่านั้น ซึ่งท้ายที่สุดแล้วจากผลพวงของผลกระทบทางเศรษฐกิจขาลง ยังฉุดรั้งไม่ให้ตลาดคริปโตพลิกฟื้นยืนขึ้นได้ และทำให้ราคาบิทคอยน์ยังคงห่างไกลอย่างมากจากเป้าหมายเมากาวที่เลิศหรูนั้น เพราะเวลาปี 2565 ที่กินเวลายาวนานกว่า 365 วัน ท้ายที่สุดแล้ว Bitcoin ยังจมดิ่งปิดตลาดสิ้นปี 2565 ทำได้แค่ 16,500 ดอลลาร์เท่านั้น
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ราคาบิทคอยน์ร่วงลงมากกว่า 60% ในปี 2565 ซึ่งเป็นการร่วงลงรุนแรงที่สุดเป็นอันดับ 2 และร่วงลงเป็นปีที่ 3 โดยถูกกดดันจากการที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างต่อเนื่อง
ขณะที่เงินคริปโตฯ อื่น ๆ ก็ร่วงลงด้วยเช่นกัน โดย ETH ก็ปรับตัวดิ่งลงเกือบ 70% ในปีนี้ และดัชนีเหรียญคริปโตฯ ที่ใหญ่สุด 100 เหรียญนั้นก็ปรับตัวร่วงลง 65%
อย่างไรก็ตาม จากข้อมูลระดับประเมินปิดราคาสิ้นปีของบิทคอยน์ในปีนี้ ยังคงห่างไกลจากเป้าหมายกาวของเหล่าบรรดานักวิเคราะห์คริปโตที่คาดไว้ โดยในช่วงต้นเดือน ม.ค. 2565 นักวิเคราะห์ของโกลด์แมนแซคส์ตั้งเป้าว่า ราคาบิทคอยน์จะพุ่งแตะระดับ 100,000 ดอลลาร์ในระยะ 5 ปี โดยชิงส่วนแบ่งตลาดจากทองคำ ขณะที่นายไมค์ โนโวแกรตซ์ ผู้สนับสนุนคริปโตฯ มองว่า บิทคอยน์อาจแตะ 500,000 ดอลลาร์ในกรอบเวลาเดียวกัน
ขณะที่ นางแคธี วูด ซีอีโอของเออาร์เค อินเวสต์เมนต์ แมเนจเมนต์ คาดการณ์เมื่อสิ้นเดือนพ.ย.ที่ผ่านมานี้ว่า บิทคอยน์อาจทะยานขึ้นแตะระดับ 1 ล้านดอลลาร์ภายในปี 2573 หรือพุ่งขึ้นราว 6000% จากระดับปัจจุบัน ซึ่งเป็นมุมมองคาดการณ์ที่ยังไม่มีสมมติฐานทฤษฎีอ้างอิงใดมารองรับมุมมองดังกล่าวนั้น