สำนักงาน ก.ล.ต. ประกาศจัดหนักแจกโบนัสสิ้นปี 65 ทั้งบริษัทผู้ประกอบธุรกิจกระดานเทรดคริปโตคือ "บิทคับ" และ "สตางค์" และ โบรกเกอร์หุ้น "บล. เอเชีย เวลท์" รวมเฉียด 100 ล้านบาท อิ่มเต็มคาราเบล งานนี้ยิ้มเขินกันไม่หุบทีเดียว
คณะกรรมการกำหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ หรือ ก.ล.ต. ได้มีคำสั่งดำเนินการลงโทษต่อ 3 ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับตลาดคริปโตฯ และตลาดหุ้น โดยมีคำสั่งใช้มาตรการลงโทษทางแพ่งกับผู้กระทำความผิด 3 ราย กรณีสร้างปริมาณเทียมสินทรัพย์ดิจิทัล จำนวน 18 เหรียญ ในศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลของบริษัท บิทคับ ออนไลน์ จำกัด และให้ชำระเงินรวม 75,011,241 บาท และใช้มาตรการลงโทษทางแพ่งกับผู้กระทำความผิด 4 ราย กรณีสร้างปริมาณเทียมสินทรัพย์ดิจิทัลจำนวน 3 เหรียญ ในศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลของบริษัท สตางค์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด โดยเรียกให้ชำระเงินรวม 12,011,240 บาท นอกจากนี้ พร้อมกันนี้ยังกล่าวโทษ บล. เอเชีย เวลท์ กรณีแยกทรัพย์สินของลูกค้าไม่ครบถ้วน นำทรัพย์สินของลูกค้าไปใช้เพื่อประโยชน์ของบริษัท
ปรับ Bitkub และผู้บริหาร รวมกว่า 75 ล้านบาท เหตุสร้างวอลุ่มเทียม 18 เหรียญ
สำนักงานก.ล.ต. เปิดเผยการดำเนินคดีด้วยมาตรการลงโทษทางแพ่งกับผู้กระทำความผิด 3 ราย ได้แก่ (1) บริษัท บิทคับ ออนไลน์ จำกัด (2) นายอนุรักษ์ เชื้อชัย และ (3) นายสกลกรย์ สระกวี กรณีสร้างปริมาณเทียมสินทรัพย์ดิจิทัล จำนวน 18 เหรียญ ในศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล Bitkub (ศูนย์ซื้อขาย Bitkub) ของบริษัทบิทคับ โดยเรียกให้ชำระเงินรวม 75,011,241 บาท กำหนดระยะเวลาห้ามซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลหรือสัญญาซื้อขายล่วงหน้าสินทรัพย์ดิจิทัล และกำหนดระยะเวลาห้ามเป็นกรรมการหรือผู้บริหาร
ในกรณีของบริษัทบิทคับ โดยนายสกลกรย์ ได้ทำสัญญากับนายอนุรักษ์ให้นายอนุรักษ์ทำหน้าที่ดูแลสภาพคล่อง (Market Maker) ในศูนย์ซื้อขาย Bitkub และได้ให้นายอนุรักษ์ยืมเงินเพื่อใช้ในการทำหน้าที่ดังกล่าว ซึ่งจากการตรวจสอบของ ก.ล.ต. พบว่า ระหว่างวันที่ 4 มกราคม–5 กันยายน 2562
นายอนุรักษ์ได้ส่งคำสั่งจับคู่ซื้อขายเหรียญคริปโตเคอร์เรนซีเหรียญอื่นอีก* จำนวน 18 เหรียญ ได้แก่ ABT ,ADA ,BSV ,CVC, GNT, IOST ,JFIN ,KNC, LINK, LTC ,MANA ,OMG, SNT, USDT ,WAN ,XLM ,ZIL ,และ ZRX โดยเป็นการจับคู่ซื้อขายกันเองในบัญชีซื้อขายเหรียญคริปโตเคอร์เรนซีของตนเองในศูนย์ซื้อขาย Bitkub ซึ่งการจับคู่ซื้อขายเหรียญคริปโตเคอร์เรนซีกันเองในแต่ละเหรียญ มีสัดส่วนตั้งแต่ร้อยละ 74–99 ของปริมาณการซื้อขายรวมทั้งตลาด โดยบริษัทบิทคับและนายสกลกรย์รับทราบถึงการจับคู่ซื้อขายกันเองในบัญชีซื้อขายของนายอนุรักษ์ แต่ไม่ได้มีการทักท้วงการส่งคำสั่งซื้อขายเหรียญคริปโตเคอร์เรนซีของนายอนุรักษ์ดังกล่าว
แจกใบสั่งปรับ Satang Pro และผู้บริหาร รวม 12 ล้านบาท จากการสร้างวอลุ่มเทียม 3 เหรียญ
ก.ล.ต. เปิดเผยการดำเนินคดีด้วยมาตรการลงโทษทางแพ่งกับผู้กระทำความผิด 4 ราย ได้แก่ (1) บริษัท สตางค์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (2) บริษัท LLC Fair Expo (3) นายปรมินทร์ อินโสม และ (4) Mr. Mikalai Zahorski กรณีสร้างปริมาณเทียมสินทรัพย์ดิจิทัล จำนวน 3 เหรียญ ในศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล Satang Pro ของ บริษัทสตางค์ โดยเรียกให้ชำระเงินรวม 12,011,240 บาท
ในกรณีของ บริษัทสตางค์ โดยนายปรมินทร์ ได้ทำสัญญากับบริษัท LLC Fair Expo โดย Mr. Mikalai ให้บริษัท LLC Fair Expo ทำหน้าที่ดูแลสภาพคล่อง (Market Maker) ในศูนย์ซื้อขาย Satang Pro และได้ให้วงเงินซื้อขายเพื่อใช้ในการทำหน้าที่ดังกล่าว ซึ่งจากการตรวจสอบของ ก.ล.ต. พบว่าระหว่างวันที่ 4 มกราคม – 9 กันยายน 2562 บริษัท LLC Fair Expo ได้ส่งคำสั่งจับคู่ซื้อขายเหรียญคริปโตเคอร์เรนซีเหรียญอื่นอีก* จำนวน 3 เหรียญ ได้แก่ USDT XLM และ XZC โดยเป็นการจับคู่ซื้อขายกันเองในบัญชีซื้อขายเหรียญคริปโตเคอร์เรนซีของ Market Maker ในศูนย์ซื้อขาย Satang Pro ซึ่งการจับคู่ซื้อขายเหรียญคริปโตเคอร์เรนซีกันเองในแต่ละเหรียญ มีสัดส่วนตั้งแต่ร้อยละ 92–98 ของปริมาณการซื้อขายรวมทั้งตลาด ทั้งนี้ การทำหน้าที่ของ Market Maker ได้มีการนำส่งรายงานการซื้อขายในบัญชี Market Maker ให้บริษัทสตางค์รับทราบทุกเดือน
ส่งต่อ เอเชีย เวลท์ ให้ บก.ปอศ. จากเหตุนำทรัพย์สินของลูกค้าไปใช้ประโยชน์
นอกจากนี้ สำนักงานก.ล.ต. เดินหน้า กล่าวโทษบริษัทหลักทรัพย์ เอเชีย เวลท์ จำกัด ต่อกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) กรณีแยกทรัพย์สินของลูกค้าไม่ครบถ้วน โดยมีการนำทรัพย์สินของลูกค้าไปใช้ประโยชน์เพื่อบริษัท ซึ่งอาจก่อให้เกิดความเสียหาย หรือเป็นการเอาเปรียบลูกค้าตามที่คณะกรรมการกำกับตลาดทุนประกาศกำหนด
จากการตรวจสอบพบว่า ระหว่างวันที่ 4 มิ.ย. 2563 ถึงวันที่ 25 พ.ย. 2564 บล. เอเชีย เวลท์ ในฐานะบริษัทที่ได้รับอนุญาตให้ประกอบธุรกิจหลักทรัพย์ประเภทนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ ได้มีการแยกทรัพย์สินของลูกค้าไม่ครบถ้วน โดยนำทรัพย์สินของลูกค้าไปใช้เพื่อแก้ไขปัญหาการขาดสภาพคล่องของบริษัทหลายกรณี ซึ่งสาเหตุหลักมาจากการที่บริษัทได้ให้บริษัทแม่กู้ยืมเงินไปก่อนหน้านั้น การกระทำดังกล่าวมีลักษณะที่อาจก่อให้เกิดความเสียหาย หรือเป็นการเอาเปรียบลูกค้า
นอกจากนี้ ยังแสดงถึงการมีระบบงานการดูแลรักษาทรัพย์สินของลูกค้าที่ยังไม่รัดกุมเพียงพอ ตามที่คณะกรรมการกำกับตลาดทุนประกาศกำหนด
ทั้งนี้การกระทำดังกล่าวของ บล. เอเชีย เวลท์ เข้าข่ายเป็นการปฏิบัติฝ่าฝืนมาตรา 98(3) แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 (พ.ร.บ. หลักทรัพย์ฯ) ซึ่งมีระวางโทษตามมาตรา 282 แห่ง พ.ร.บ. หลักทรัพย์ฯ และโดยที่การกระทำข้างต้นมีลักษณะเป็นการกระทำผิดอย่างร้ายแรง ก.ล.ต. จึงกล่าวโทษ บล. เอเชีย เวลท์ ต่อ บก.ปอศ. เพื่อพิจารณาดำเนินการตามกฎหมายต่อไป รวมทั้งแจ้งเบาะแสให้ บก.ปอศ. พิจารณาการกระทำผิดตามประมวลกฎหมายอาญาในเรื่องการยักยอกทรัพย์ตามที่เห็นสมควรต่อไปด้วย
อย่างไรก็ดีเงินค่าปรับจำนวนดังกล่าวทาง สำนักงาน ก.ล.ต. จะจัดเก็บและนำส่งเข้าคลังเป็นรายได้แผ่นดินต่อไป