xs
xsm
sm
md
lg

SSP เผย IFC-SCB ปล่อยกู้ Green Loan 2.2 พันล้าน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



"เสริมสร้าง พาวเวอร์ คอร์ปอเรชั่น" แกร่งได้รับวงเงินสนับสนุนสินเชื่อ secured green loan จาก International Finance Corporation (IFC) และธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) มูลค่ารวมกว่า 2.2 พันล้านบาท ช่วยเพิ่มสภาพคล่อง หนุนฐานทุนแกร่ง ผู้บริหารเดินหน้าพร้อมลุยขยายโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนเต็มรูปแบบ ทั้งในและต่างประเทศ ตั้งเป้าเพิ่มขึ้นกำลังผลิตไฟฟ้าแตะระดับ 500 MW ภายในปี 68

นายวรุตม์ ธรรมาวรานุคุปต์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เสริมสร้าง พาวเวอร์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SSP เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้รับการสนับสนุนวงเงินสินเชื่อจาก International Finance Corporation หรือ IFC และธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) มูลค่ารวม 2.2 พันล้านบาท เพื่อปรับโครงสร้างวงเงินที่กลุ่มบริษัทมีอยู่ในปัจจุบัน และเป็นวงเงินเพิ่มเติมเพื่อสำหรับการลงทุนในอนาคต และนี่เป็นโอกาสที่บริษัทฯ ได้เป็นพันธมิตรกับสถาบันทางการเงินระดับโลกที่มีเป้าหมายร่วมกันในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานในด้านพลังงานไฟฟ้าให้ประเทศกำลังพัฒนาโดยเฉพาะกลุ่มพลังงานทดแทน ที่จะช่วยสร้างการเติบโตที่ยังยืนทั้งในเชิงเศรษฐกิจและสิ่งแวดล้อม ซึ่งเป็นเป้าหมายของบริษัทฯ เช่นเดียวกัน โดยประโยชน์ที่บริษัทฯ ได้รับนอกจากจะได้ต้นทุนทางการเงินที่ต่ำลง ซึ่งมาช่วยตอบโจทย์ภายใต้สถานการณ์เงินเฟ้อและดอกเบี้ยขาขึ้นบริษัทฯ ยังได้รับวงเงินเพิ่มเติม ซึ่งช่วยเสริมความพร้อมในฐานเงินทุนสำหรับการลงทุนที่กำลังจะเกิดขึ้นรอบใหม่ในธุรกิจพลังงานทดแทน ไม่ว่าจะเป็นแผนพัฒนาด้านพลังงานที่เปิดขึ้นมาใหม่ทั้งในประเทศไทย เวียดนาม หรือในประเทศอื่นๆ ตามเป้า 500 MW

ทั้งนี้ ที่ผ่านมา SSP ได้มีการปรับกลยุทธ์ขยายการลงทุนใหม่เพื่อเพิ่มแหล่งที่มาของรายได้ ตอกย้ำให้เห็นว่าบริษัทฯ ไม่ได้เป็นเพียงผู้ประกอบการโรงไฟฟ้า Greenfield หรือโซลาร์ฟาร์มเพียงอย่างเดียว แต่กำลังมุ่งหน้าไปสู่ธุรกิจผลิตไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน (Renewable) อย่างเต็มรูปแบบ ผ่านการทำ M&A ได้แก่ โครงการโรงไฟฟ้าชีวมวล ขนาดกำลังการผลิต 9.9 เมกะวัตต์ และวินด์ชัยขนาดกำลังการผลิต 45 เมกะวัตต์ ในสัดส่วน 25% ซึ่งล้วนเป็นโครงการที่บริษัทฯ ประสบความสำเร็จในการลงทุนในช่วง 1 ปีผ่านมา จากการสั่งสมประสบการณ์ของทีมงานผู้บริหารที่มีความเข้าใจธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนเป็นอย่างดี ทำให้สามารถสร้างมูลค่าเพิ่มจากการเข้าไปลงทุนโรงไฟฟ้าได้เป็นอย่างดี
 
ขณะความคืบหน้าของโครงการที่อยู่ระหว่างดำเนินการ ประกอบด้วย โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ LEO 2 ในประเทศญี่ปุ่น กำลังการผลิต 22 เมกะวัตต์ อยู่ระหว่างการพัฒนา ซึ่งเป็นไปตามแผนที่วางไว้ โดยคาดว่าจะสามารถจ่ายไฟเข้าระบบเชิงพาณิชย์ (COD) ได้ราวไตรมาส 2 ปี 2567 ส่วนการลงทุนโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลมขนาดใหญ่ ในประเทศเวียดนาม ปัจจุบันอยู่ระหว่างขั้นตอนการศึกษา และรอความชัดเจนจากภาครัฐของเวียดนาม ภายใต้แผนการพัฒนาพลังงานแห่งชาติ (PDP8)
 
นายวรุตม์ กล่าวอีกว่า บริษัทฯ มีฐานะทางการเงินที่มีความแข็งแกร่ง ยิ่งเป็นแรงสนับสนุนให้ฐานเงินทุนมีความแข็งแกร่งยิ่งขึ้น รองรับแผนการขยายพอร์ตโรงไฟฟ้า Renewable ทุกรูปแบบ โดยปัจจุบันมีกำลังการผลิตไฟฟ้าที่เปิดดำเนินงานแล้ว 232 เมกะวัตต์ และตั้งเป้าหมายในปี 2568 มีกำลังการผลิตไฟฟ้าเพิ่มเป็นเท่าตัวแตะที่ระดับ 500 เมกะวัตต์ โดยมีสัดส่วนจากแหล่งพลังงานใหม่ๆ เช่น พลังงานลม หรือชีวมวลเพิ่มมากขึ้น ซึ่งจะทำให้ภาพรวมผลการดำเนินงานของบริษัทฯ เติบโตอย่างมีเสถียรภาพ สร้างผลตอบแทนที่ดีให้ผู้ถือหุ้น


กำลังโหลดความคิดเห็น