xs
xsm
sm
md
lg

เหมืองบิทคอยน์เถื่อนเหิมหนัก!! แอบลักไฟใช้นานกว่า 9 เดือน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



กฟภ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ นำตำรวจ บุกตรวจสอบอาคารพาณิชย์แห่งหนึ่งในเขตเทศบาลเมืองนางรอง หลังพบมีการลักลอบใช้ไฟฟ้านานถึง 9 เดือน มูลค่าความเสียหายกว่า 1 ล้าน คาดเป็นเครือข่ายฟอกเงินผ่านเหมืองขุดบิทคอยน์ เบื้องต้นตัดกระแสไฟฟ้าที่ลอบใช้ เร่งขอหมายศาลบุกค้น

เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ ร่วมกับเจ้าหน้าที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคนางรอง ได้เข้าตรวจสอบอาคารพาณิชย์แห่งหนึ่งในสถานีขนส่งผู้โดยสารนางรอง หลังได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่า ผู้ที่เช่าอาคารพาณิชย์ดังกล่าวน่าจะว่ามีการทำธุรกิจผิดกฎหมายบางอย่าง เพราะได้ยินเหมือนมีเครื่องใช้ไฟฟ้าทำงานตลอด แต่ไม่เคยเห็นมีใครเข้า-ออก ซึ่งด้านหน้าอาคารพาณิชย์ ห้องเลขที่ 787/33-34 จำนวน 2 คูหา แต่ไม่มีใครอยู่ภายในอาคาร โดยมีการติดป้ายหน้าร้านชื่อว่า “SPACE SOLUTION import / export microchip & computer part”


จากนั้นเจ้าหน้าที่การไฟฟ้า จึงได้แจ้งขออนุญาตเจ้าของอาคาร เพื่อทำการงัดแผงไม้บริเวณด้านหน้าเพื่อตรวจสอบว่ามีการลักลอบใช้กระแสไฟฟ้าหรือไม่ ก็พบว่ามีการลักลอบเจาะและติดตั้งสายไฟเข้าไปในตัวอาคาร เพื่อลักลอบใช้ไฟฟ้าหลวงจริง ซึ่งจากการตรวจสอบพบการมีการใช้ไฟ ที่ 36.42 กิโลวัตต์ ซึ่งเป็นการใช้ไฟที่ไม่ผ่านมิตเตอร์ ขนาดมิเตอร์ 1 เฟช 2 สาย หากประเมินเป็นมูลค่าความเสียหาย คาดว่ามีการลักลอบใช้ไฟมาแล้ว 9 เดือน คิดเป็นมูลค่าความเสียหาย 1,180,008 บาท เบื้องต้นเจ้าหน้าที่จึงได้ทำการตัดกระแสไฟในอาคารพาณิชย์ดังกล่าวออก


จากการสอบถามตัวแทนบริษัท บอกว่าทางบริษัทไม่ทราบว่าผู้ที่มาขอเช่าทำธุรกิจเกี่ยวกับอะไร เพราะเป็นเพียงผู้ให้เช่าเท่านั้น โดยผู้มาเช่าแจ้งเพียงว่าจะใช้สำหรับเก็บอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ ซึ่งผู้เช่าก็ชำระค่าเช่าปกติไม่ได้มีปัญหาอะไร ซึ่งทางบริษัทไม่ทราบว่าผู้เช่ามีการลักลอบใช้ไฟฟ้าหลวง แต่ก็พร้อมให้ความร่วมมือในการเข้าตรวจสอบ


ด้านด้านนางรุจี อายุ 79 ปี เจ้าของร้านขายเสื้อผ้าที่อยู่ห้องคูหาติดกันเล่าว่า ตนมาเช่าอาคารพาณิชย์ขายเสื้อผ้าเมื่อช่วงเดือนเมษายน 2565 ก็เห็นห้องข้างๆ มาเช่าช่วงเดือนเมษายนเหมือนกัน เขาบอกว่าจะมาทำธุรกิจขายคอมพิวเตอร์ แต่ตนก็ไม่เห็นเขาเปิดหน้าร้านเลยและนานๆ เขาถึงจะมาดู แต่ตอนที่ตนขายของที่นี่ก็ได้ยินเสียงเหมือนคอมเพรสเซอร์แอร์ดังอยู่ตลอดเวลา ทั้งๆที่ไม่มีคนอยู่ แต่ก็ไม่รู้ว่าข้างในมีอะไร


เบื้องต้นเจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่าผู้ที่มาเช่าอาคารพาณิชย์ดังกล่าวน่าจะเป็นเครือข่ายแก๊งฟอกเงินผ่านเหมืองขุดบิทคอยน์ ขณะเดียวกันจะมีการขออนุมัติหมายศาลเพื่อเข้าทำการตรวจค้นภายในอาคารพาณิชย์ทั้งสองคูหาอย่างละเอียดอีกครั้ง


โดยล่าสุด พ.ต.อ.อนุการ ธรรมวิจารย์ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรนางรอง จ.บุรีรัมย์ ได้มอบหมายให้ ร.ต.อ.เตรียมพล บุญกองชาติ รองสารวัตรสืบสวนสอบสวน สภ.นางรอง นำกำลังชุดสืบสวน ร่วมกับเจ้าหน้าที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคนางรอง นำหมายศาลจังหวัดนางรองเข้าทำการตรวจค้นอาคารพาณิชย์ดังกล่าว


ขณะที่การนำหมายศาลเข้าตรวจค้นครั้งนี้ได้มีตัวแทนผู้ให้เช่าอาคารพาณิชย์ดังกล่าว ร่วมนำตรวจค้นด้วย จากการเข้าตรวจสอบภายในอาคารพาณิชย์ทั้ง 2 คูหาไม่พบมีผู้อาศัยอยู่ภายในแต่อย่างใด สภาพด้านในค่อนข้างรกมีหยากไย่ใยแมงมุม และฝุ่นคละคลุ้ง โดยบริเวณชั้น 1 พบมีการลากโยงสายไฟที่ลักลอบเชื่อมต่อตรงมาจากเสาไฟฟ้า เมื่อขึ้นไปบนชั้น 2 ก็พบมีการต่อเติมเป็นห้องทึบจำนวน 2 ห้อง ห้องแรกพบอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ประมาณ 60 ชุด รวมถึง Notebook และตู้ควบคุมไฟฟ้า เราเตอร์ไว-ไฟ สำหรับเชื่อมต่อระบบอินเทอร์เน็ต และกล้องวงจรปิด


ส่วนอีกห้องหนึ่งเป็นห้องควบคุม มีพัดลมจำนวน 4 ตัว ทั้งยังพบกล่องกระดาษลักษณะเหมือนใช้สำหรับบรรจุอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ ซึ่งระบุชื่อส่งถึง “เฮียชัย” ที่อยู่ในตัวเมืองบุรีรัมย์ เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการตรวจยึดอุปกรณ์ทั้งหมดไปตรวจสอบ เชื่อว่าเป็นของเครือข่ายธุรกิจบิทคอยน์ พร้อมทั้งได้ทำการรื้อสายไฟที่แอบพ่วงใช้ไฟหลวงออกทั้งหมดด้วย


ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ได้นำอุปกรณ์ทั้งหมดไปตรวจสอบที่โรงพัก พร้อมจะได้รวบหลักฐาน และติดตามตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินคดี ส่วนที่ปรากฏชื่อ “เฮียชัย” อยู่บนกล่องพัสดุนั้น ก็ได้เรียกตัวมาสอบสวนว่ามีส่วนเกี่ยวข้องอะไรหรือไม่ รวมถึงจะเรียกผู้เช่าอาคารพาณิชย์คูหาดังกล่าวมาสอบปากคำด้วย เพื่อเป็นข้อมูลในการสาวหาตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป








กำลังโหลดความคิดเห็น