xs
xsm
sm
md
lg

ออมสินรุกจับมือ สนง.ธนานุเคราะห์ ผุด 4 มาตรการเพิ่มช่องทางเข้าถึงเงินทุน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



นายวิทัย รัตนากร ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เปิดเผยว่า ธนาคารได้ร่วมกับสำนักงานธนานุเคราะห์ (สธค.) โดยนายประสงค์ พันธ์ลิมา ผู้อำนวยการสำนักงานลงนามในสัญญาความร่วมมือการให้ความช่วยเหลือกลุ่มประชาชนผู้มีรายได้น้อยที่ประสบปัญหาขาดแคลนเงินทุนในการดำรงชีพและประกอบอาชีพ เพื่อลดความเหลื่อมล้ำและช่องว่างทางการเงิน รวมทั้งสร้างการเข้าถึงแหล่งเงินทุนดอกเบี้ยที่เป็นธรรม ในฐานะ “ธนาคารเพื่อสังคม (Social Bank)” และ “โรงรับจำนำเพื่อสังคม (Social Pawnshop Enterprise)” ซึ่งเป็นโครงการความร่วมมือขององค์กรที่มีวิสัยทัศน์สอดคล้องกัน ภายใต้นโยบายของสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) กระทรวงการคลัง ในการส่งเสริมให้รัฐวิสาหกิจที่เป็นสถาบันการเงินมีความร่วมมือกันในเชิงยุทธศาสตร์ เพื่อสร้างโอกาสทางธุรกิจและความเข้มแข็งของรัฐวิสาหกิจ เกิดการบูรณาการ แลกเปลี่ยน และแบ่งปันทรัพยากรร่วมกัน

โดยโครงการความร่วมมือระหว่างธนาคารออมสิน กับ สธค. ปี 2566-2568 กำหนดแผนความร่วมมือ 4 ด้าน คือ (1) ด้านธุรกิจและบริการ สนับสนุนสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำแก่ สธค. เพื่อนำไปช่วยเหลือประชาชนที่ขาดแคลนสภาพคล่องทางการเงิน นำเสนอ Product Package พิเศษให้พนักงานและลูกค้าของ สธค. รวมทั้งการส่งต่อลูกค้าชั้นดีของ สธค. เพื่อต่อยอดใช้บริการสินเชื่อของธนาคารออมสิน (2) ด้านช่องทางการให้บริการ โดยการพัฒนาช่องทาง Digital ให้ สธค. เพิ่มเติม สำหรับโอนเงินเข้าบัญชีให้ลูกค้าที่นำทรัพย์มาจำนำกับ สธค. และศึกษาความเป็นไปได้ในการใช้พื้นที่สาขาหรือทรัพย์ของธนาคารออมสิน เพื่อขยายช่องทางสาขาของ สธค. ในการทำธุรกิจรับจำนำและจำหน่ายทรัพย์หลุดจำนำ

(3) ด้านการยกระดับการบริหารจัดการ Core Business Enablers ทั้ง 8 ด้าน โดยปี 2566 เน้นการแลกเปลี่ยนแบ่งปันความรู้ด้านการพัฒนาเทคโนโลยีดิจิทัล ด้านการมุ่งเน้นผู้มีส่วนได้ส่วนเสียและลูกค้า ด้านการจัดการความรู้และนวัตกรรม และ (4) ด้านการพัฒนาสังคมและชุมชน โดยการเสริมสร้างความเข้มแข็ง ให้ความรู้ทางการเงิน และพัฒนาศักยภาพลูกค้ารายย่อย/ชุมชน โดยร่วมกับพันธมิตรจัดฝึกอบรมพัฒนาอาชีพ ได้แก่ วิทยาลัยสารพัดช่าง สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ และวิทยาลัยอาชีวศึกษา รวมถึงเรียนรู้ด้วยตนเองผ่าน Application “ออมตังค์” ทั้งนี้ ภายใต้โครงการความร่วมมือดังกล่าวจะนำไปสู่การยกระดับความเข้มแข็งของทั้ง 2 องค์กร และเพิ่มประสิทธิภาพในการให้บริการลูกค้าประชาชนรายย่อยต่อไป
กำลังโหลดความคิดเห็น