ย่านไพรม์ใจกลางลอนดอนในอังกฤษเป็นตัวชี้วัดสำคัญของตลาดอสังหาริมทรัพย์ในอังกฤษ ในช่วงที่ลดลงเป็นช่วงโควิดระบาด พอสถานการณ์คลี่คลาย ตัวเลขเริ่มดีขึ้น จากกันยายน 2564-สิงหาคม 2665 มีธุรกรรมอสังหาริมทรัพย์เกิดขึ้น 115 ธุรกรรม มูลค่ามากกว่า 10 ล้านปอนด์ สูงสุดในประวัติการณ์ ในรอบ 6 ปี แม้ในช่วงที่นักลงทุนเดินทางมาอังกฤษไม่ได้ แต่ตลาดบ้านยังไปได้ดี พอโควิดคลี่คลายตลาดคอนโดฯ เริ่มกลับมาฟื้นฟู ช่วงโควิดราคาตกมาก พอสิ้นสุดราคาเติบโตอย่างรวดเร็วกว่าที่มีการประมาณการ เชื่อว่ามุมมองของนักลงทุนยังเป็นบวกสำหรับตลาดบ้าน
มร.ฮามิช เอกกิ้นส์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการ บริษัท ไนท์แฟรงค์ จำกัด กล่าวถึงปัจจัยสำคัญที่สนับสนุนให้ตลาดบ้านในประเทศอังกฤษเติบโต คือ ค่าเงินปอนด์ที่อ่อนค่า โดยอ่อนค่าที่สุดเป็นประวัติการณ์ อัตราดอกเบี้ยที่ค่อนข้างต่ำเมื่อเทียบกับเงินปอนด์ที่อ่อนค่าลงกับสกุลต่างๆ หากซื้อด้วยเงินดอลลาร์ยูเอส หรือเงินออสเตรเลียจะได้ส่วนลดเป็นจำนวนมากจากเงินปอนด์อ่อนค่าลงในช่วงกันยายนที่ผ่านมา หากซื้อด้วยเงินปอนด์จะลดราคาไปเลยกว่า 30% ทำให้ตลาดอสังหาฯ อังกฤษเติบโตอย่างรวดเร็วจากที่ประมาณการไว้
ส่วนที่คนสนใจคือ เวสมินเตอร์ เพราะมีมาตรการมาช่วยกระตุ้น ในลอนดอนทุกทำเลมีการซื้อขายค่อนข้างดี ทำเลที่คนสนใจคือ นอตติ้งฮิล เชลซี และเคนซิงตัน ขณะที่ตลาดคอนโดฯ เริ่มกลับมาในทำเลนอตติ้งฮิล เคนซิงตัน เป็นทำเลสำคัญ มีปัจจัยสำคัญคือกำลังซื้อจากในประเทศ
การที่เป็นเอเยนท์จต่างชาติ คือ การต่อรองเรื่องส่วนลด ในช่วงโควิดได้ส่วนลด 11% พอหลังสถานการณ์โควิดเริ่มคลี่คลาย ส่วนลดจะค่อยๆ ลดลง เพราะตลาด UK ซัปพลายมีค่อนข้างจำกัด และมีความต้องการเยอะ ส่วนลดจึงไม่ค่อยมี
ในส่วนของตลาดคอนโดมิเนียมในทำเลวิกตอเรีย คาดว่าจะเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ เนื่องจากเป็นทำเลที่มีเพื่อนบ้านที่ดี และซัปพลายมีจำกัด
"ไม่ว่าจะมีนโยบายอะไรออกมายังเห็นการเติบโตที่ค่อนข้างมีนัยสำคัญของตลาดลอนดอน ในส่วนเรื่องเบรกซิต โควิดเป็นปัจจัยลบ แต่ถึงจะมีปัจจัยลบหลายอย่าง ก็ยังเติบโตได้ มีธุรกรรมเกิดขึ้นในอังกฤษ ในตลาด 10-20 ล้านปอนด์ มีธุรกรรมเกิดขึ้นกว่า 100 ธุรกรรม และในปี 2566 ตลาดซูเปอร์ไพรม์ คือ ตลาดราคา 10 ล้านปอนด์น่าจะเติบโตอย่างแข็งแกร่ง"
ในปีที่ผ่านมา มูลค่าธุรกรรมการโอนเกิดขึ้นในส่วนของไพรม์ไทม์เซ็นทรัลลอนดอน จะเห็นได้ว่า 1,600 กว่าล้านปอนด์ มีมูลค่าสูงมาก
ตอนนี้ตลาดอังกฤษผ่านนายกฯ มาหลายคนในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ตอนนี้นายกฯ คนใหม่มีความรู้เรื่องเศรษฐกิจ มีการลงมือไปบางส่วนในการทำให้เศรษฐกิจของอังกฤษกลับมา และดูปัญหาเรื่องยูเครนและเพิ่มอัตราดอกเบี้ยขึ้น ตลาดต่างประเทศยังให้ความสนใจกับตลาดลอนดอน ส่วนหลักที่ต่างชาติให้ความสนใจคือ ระบบการศึกษา และระบบต่างๆ ที่สามารถตรวจสอบได้
สำหรับรายละเอียดโครงการ Chelsea Barracks เฟสแรกเป็นทาวน์เฮาส์ จำนวน 13 ยูนิต พื้นที่ใช้สอย 945 ตารางเมตร ราคา 38 ล้านปอนด์ ประมาณ 1,600 ล้าน (1 ปอนด์ = 42.12 บาท) ขายไปได้แล้ว 50% และอพาร์ตเมนต์ สัญญาเช่า 999 ปี มีจำวน 76 ห้อง ราคายูนิตละ 3 ล้านปอนด์ ประมาณ 126 ล้านบาท มียอดขายแล้ว 90% พร้อมกันนี้ กำลังเปิดขายเฟส 2 เป็นอพาร์ตเมนต์อย่างเดียว ขนาดพื้นที่ใช้สอย 100 ตารางเมตร จำนวน 90 ยูนิต
