กิจเจริญ เอ็นจิเนียริ่ง อีเลคทริค ปิดเทรดวันแรกเหนือจอง 4.30 บาท หรือ 31.85% มูลค่าซื้อขาย 3,722.94 ล้านบาท ผู้บริหารเดินหน้าลุยงานตามแผนเพื่อสร้างผลตอบแทนที่ดีให้แก่นักลงทุน ด้านที่ปรึกษาการเงินเผยราคาหุ้น KJL ที่เปิดตลาดเหนือจองผลจากปัจจัยพื้นฐานแกร่ง แนวโน้มผลประกอบการเติบโตต่อเนื่อง
หุ้น KJL หรือบริษัท กิจเจริญ เอ็นจิเนียริ่ง อีเลคทริค จำกัด (มหาชน) เปิดเทรดวันแรก พบว่าราคาหุ้นอยู่ที่ 17.20 บาท เพิ่มขึ้น 27.41% จากราคา IPO ที่กำหนดไว้หุ้นละ 13.50 บาท และปิดเทรดเช้าที่ 17.50 บาท เพิ่มขึ้น 4.00 บาท หรือ 29.63% เมื่อปิดตลาดราคาหุ้นอยู่ที่ 17.80 บาท เพิ่มขึ้น 4.30 บาท หรือ 31.85% มูลค่าซื้อขาย 3,722.94 ล้านบาท ระหว่างวันราคาหุ้นปรับขึ้นไปสูงสุดที่ 19.10 บาท ต่ำสุดที่ 16.90 บาท
นายเกษมสันต์ สุจิวโรดม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร KJL เผยว่า การเข้าซื้อขายหลักทรัพย์วันแรกในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai) พบว่าราคาเปิดอยู่ที่ 17.20 บาท เพิ่มขึ้น 3.70 บาท หรือ 27.41% จากราคา IPO ที่ 13.50 บาท สะท้อนถึงผลตอบรับที่ดีจากนักลงทุนที่เชื่อมั่นต่อปัจจัยพื้นฐานธุรกิจที่มีประสบการณ์มาเกือบ 30 ปี มีผลดำเนินงานโดดเด่น มั่นคง และมั่นใจในกลยุทธ์สร้างโอกาสการเติบโตของบริษัท
“นับเป็นก้าวสำคัญและความภาคภูมิใจของ KJL ที่เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai) ได้สำเร็จ ขอขอบคุณนักลงทุนที่ให้การต้อนรับหุ้น KJL อย่างอบอุ่น โดยทีมผู้บริหารและพนักงานทุกคนพร้อมมุ่งมั่นดำเนินธุรกิจเพื่อมุ่งสู่เป้าหมายการเติบโตอย่างยั่งยืน ตลอดจนสร้างผลตอบแทนที่ดีให้แก่นักลงทุน” นายเกษมสันต์ กล่าว
นายพายุพัด มหาผล กรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวาณิชธนกิจ บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุนของ KJL กล่าวว่า การเปิดซื้อขายหุ้นวันแรกในราคาเปิดเหนือจองถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีของ KJL โดยบริษัทมีแผนนำเงินที่ได้จากการขายหุ้น IPO 30 ล้านหุ้น ราคาหุ้นละ 13.50 บาท จำนวนเงินที่ได้ 384.97 ล้านบาท จะนำไปต่อยอดธุรกิจ สร้างความเข้มแข็ง พร้อมทั้งผลักดันการเติบโตให้เป็นไปตามที่ตั้งเป้าหมาย
สำหรับแนวโน้มการดำเนินธุรกิจในไตรมาส 4 ยังคงเติบโตในทิศทางบวกต่อเนื่องจากไตรมาส 3/2565 จากภาวะเศรษฐกิจที่ปรับตัวดีขึ้น การฟื้นตัวของภาคอสังหาริมทรัพย์ การใช้พลังงานไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้น การเติบโตของอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า (EV) และเป็นช่วงไฮซีซันของธุรกิจ นับเป็นปัจจัยในการเติบโตของธุรกิจโตในระยะยาว โดยเชื่อว่า KJL จะเป็นหุ้นที่ผสมระหว่าง Growth Stock และ Dividend Stock ที่พร้อมสร้างผลตอบแทนให้นักลงทุนอย่างเหมาะสม
“ราคาหุ้น KJL ที่เปิดตลาดเหนือจอง นอกเหนือจากความมั่นใจในการบริหารและปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่งของบริษัทแล้ว นักลงทุนยังเห็นถึงแนวโน้มหุ้นที่จะเติบโตอย่างต่อเนื่อง จากผลประกอบการของบริษัทที่มีโอกาสเติบโตได้อีกไกลในอนาคต” นายพายุพัดกล่าว
สำหรับ KJL มีทุนชำระหลังเสนอขาย 58 ล้านบาท มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท ประกอบด้วยหุ้นสามัญเดิม 86 ล้านหุ้น และหุ้นสามัญเพิ่มทุน 30 ล้านหุ้น โดยเสนอขายต่อบุคคลตามดุลพินิจของผู้จัดจำหน่ายหลักทรัพย์ 22.5 ล้านหุ้น เสนอขายต่อผู้มีอุปการคุณของบริษัท 4.5 ล้านหุ้น และกรรมการ ผู้บริหาร และพนักงานของบริษัท 3 ล้านหุ้น เมื่อวันที่ 9-11 พฤศจิกายน 2565 ที่ผ่านมาในราคาหุ้นละ 13.50 บาท คิดเป็นมูลค่าระดมทุน 405 ล้านบาท มูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคาไอพีโอ (IPO) 1,566 ล้านบาท ส่วนเงินที่ได้จากการระดมทุนครั้งนี้ 384.97 ล้านบาท เพื่อนำไปใช้ในการขยายงาน
