ตลาดหุ้นไทยปิดตลาดปรับตัว +1.48 จุด โบรกฯ เผยแม้ไร้ปัจจัยใหม่ๆเข้าหนุนดัชนีฯ แต่ยังมีข่าวดีของการปรับตัวขึ้นของตัวเลข GDP ในไตรมาส 3/65 ซึ่งเพิ่มขึ้นสูงถึง 4.5% เป็นไปตามที่ประเมินไว้ มองแนวโน้มการลงทุนวันพรุ่งนี้ตลาดจะยังคงเคลื่อนไหวในกรอบแคบๆ หลังจากที่ไม่มีปัจจัยใหม่ โดยประเมินแนวรับที่ 1,610 จุด และแนวต้านที่ 1,630 จุด
ตลาดหุ้นไทยปิดทำการซื้อขายวันที่ 21 พ.ย. 2565 ปรับตัวขึ้นเล็กน้อย +1.48 จุด หรือ +0.09% โดยปิดตลาดที่ 1,618.86 จุด มูลค่าการซื้อขาย 52,580.38 ล้านบาท ซึ่งภาพรวมการลงทุนวันนี้ ดัชนีแกว่งตัวในกรอบแคบๆ โดยระหว่างวันปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 1,623.30 จุด และปรับตัวลดลงต่ำสุดที่ 1,611.45 จุด
ขณะที่หลักทรัพย์ที่มีการเปลี่ยนแปลงในวันนี้เพิ่มขึ้นจำนวน 707 หลักทรัพย์ ไม่เปลี่ยนแปลงจำนวน 561 หลักทรัพย์ และปรับตัวลดลงจำนวน 900 หลักทรัพย์
ด้านปริมาณการซื้อขายจำแนกตามกลุ่มนักลงทุนพบว่า นักลงทุนต่างประเทศ ซื้อสุทธิกว่า +1,524.00 ล้านบาท ในทางกลับกันพบว่า นักลงทุนในประเทศขายสุทธิกว่า -861.90 ล้านบาท บัญชี บล. ขายสุทธิกว่า -253.39 ล้านบาท นักลงทุนสถาบันขายสุทธิกว่า -408.71 ล้านบาท
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์
1.AAI มูลค่าการซื้อขาย 2,595.75 ล้านบาท ปิดที่ 8.15 บาท เพิ่มขึ้น 0.10 บาท
2.PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 1,833 68 ล้านบาท ปิดที่ 186.50 บาท ลดลง 0.50 บาท
3.HANA มูลค่าการซื้อขาย 1,495.01 ล้านบาท ปิดที่ 49.75 บาท ลดลง 0.75 บาท
4.KBANK มูลค่าการซื้อขาย 1,427.32 ล้านบาท ปิดที่ 142.50 บาท ลดลง 0.50 บาท
5.AOT มูลค่าการซื้อขาย 1,426.92 ล้านบาท ปิดที่ 74.75 บาท เพิ่มขึ้น 0.75 บาท
ส่วนดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวเพิ่มขึ้นมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1.BH ปิดที่ 217.00 บาท เพิ่มขึ้น 5.00 บาท หรือ 2.36%
2.FORTH ปิดที่ 39.25 บาท เพิ่มขึ้น 1.50 บาท หรือ 3.97%
3.SAWAD ปิดที่ 43.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.00บาท หรือ 2.38%
4.EA ปิดที่ 95.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท หรือ 1.06%
5.EGCOปิดที่ 169.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท หรือ 0.60%
ส่วนดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวลดลงมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1.KCE ปิดที่ 49.25 บาท ลดลง 2.00 บาท หรือ 3.90 %
2.CBG ปิดที่ 95.25 บาท ลดลง 1.25 บาท หรือ 1.30 %
3.HANAปิดที่ 49.75 บาท ลดลง 0.75 บาท หรือ 1.49 %
4.PTTGCปิดที่ 46.50 บาท ลดลง 0.75 บาท หรือ1.59%
5.TOP ปิดที่ 53.75 บาท ลดลง 0.75 บาท หรือ 1.38 %
ขณะที่ดัชนี SET100 ปิดที่ 2,212.70 จุด เพิ่มขึ้น 7.29 จุด หรือ 0.33% ด้านดัชนี SET50 ปิดที่ 984.74 จุด เพิ่มขึ้น 3.12 จุด หรือ 0.32% และดัชนีตลาด mai ปิดที่ 595.44 จุด ลดลง -5.24 จุด หรือ -0.87%
นายวทัญ จิตต์สมนึก ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์กลยุทธ์ บล.พาย (PI) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้เคลื่อนไหวในกรอบแคบๆ เนื่องจากยังไม่มีปัจจัยใหม่ๆ เข้ามาสนับสนุน หลังจากตลาดปรับตัวขึ้นมาตอบรับความกังวลเงินเฟ้อคลี่คลายลง และบริษัทจดทะเบียนไทยสิ้นสุดการประกาศผลประกอบการไตรมาส 3/65 ไปแล้ว แม้วันนี้จะได้ปัจจัยบวกจากตัวเลข GDP ไตรมาส 3/65 โตสูงถึง 4.5% แต่ก็เป็นไปตามคาดการณ์ จึงไม่ได้เซอร์ไพร์ตลาดมากนัก ส่วนตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียวันนี้ส่วนใหญ่เคลื่อนไหวอยู่ในแดนลบ ยกเว้นตลาดหุ้นญี่ปุ่น
แนวโน้มการลงทุนวันพรุ่งนี้ คาดว่าตลาดน่าจะยังเคลื่อนไหวในกรอบแคบๆ จากยังไม่เห็นปัจจัยใหม่ ให้แนวรับ 1,610 จุด และแนวต้าน 1,630 จุด