xs
xsm
sm
md
lg

อัปเดตขุมทรัพย์พอร์ตหุ้น “เจ้าสัวเจริญ” 10 หุ้นดัง มูลค่า 3.23 แสนล้าน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“เจ้าสัวเจริญ” นายเจริญ สิริวัฒนภักดี จัดเป็นบุคคลทรงอิทธิพลมากที่สุดคนหนึ่งในเมืองไทย จากการจัดอันดับของ Forbes ล่าสุด เขามีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิที่ 1.12 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ และพบว่า เจ้าสัวมีการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ผ่านบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ซึ่งอยู่ในเครือ มีจำนวน 10 บริษัท มีมูลค่ารวมกัน 323,168,803,240 บาท หรือ 3.23 แสนล้านบาท (ข้อมูล ณ 11 พ.ย.65)

1.AWC (บมจ.แอสเสท เวิรด์ คอร์ป) มาร์เกตแคป 195,204.70 ล้านบาท ประกอบธุรกิจด้าน Holding Company อสังหาริมทรัพย์แบบครบวงจร (มูลค่าหุุ้นล่าสุด ณ 11 พ.ย.65 ปิด 6.10 บาท) เดิมมีนายเจริญถือ 27.56% คุณหญิงวรรณา ถือ 19.13% ปัจจุบัน มีผู้ถือหุ้นใหญ่ในเครือ 3 อันดับ ได้แก่ บริษัท ทีซีซี บริหารธุรกิจ จำกัด ถืออันดับ 1 ถือ 14,940,000,000 หุ้น หรือ 46.69% มูลค่า 91,134,000,000 บาท 2.TCC GROUP INTERNATIONAL LIMITED ถืออันดับ 2 ถือ 9,060,000,000หุ้น หรือ 28.31% มูลค่า 55,266,000,000 บาท 3.บริษัท เพรสทีจ 2015 จำกัด ถืออันดับ 9 ถือ 233,871,900 หุ้น หรือ 0.73%มูลค่า 1,426,618,590 บาท รวม 3 บริษัทมูลค่า 147,826,618,590 บาท (1.47 แสนล้านบาท) 

AWC ราคาสิ้นปี 64 ปิดที่ 4.64 บาท ล่าสุด 11 พ.ย. ปิดที่ 6.10 บาท เพิ่มขึ้น 1.46 บาท หรือ +31.47%

2.BJC (บมจ.เบอร์ลี่ ยุคเกอร์) มาร์เกตแคป 133,259.24 ล้านบาท ธุรกิจสินค้าและบริการทางการค้าปลีกสมัยใหม่ มีบริษัทในเครือเจ้าสัวเจริญถือหุ้นใหญ่ 2 บริษัท คือ 1.บริษัท ทีซีซี คอร์ปอเรชั่น จำกัด ถืออันดับ 1 ถือ 1,980,730,550 หุ้น หรือ 49.42% มูลค่า 65,859,290,787 บาท 2.บริษัท ทีซีซี โฮลดิ้งส์ (2519) จำกัด ถืออันดับ 2 ถือ 1,002,094,000 หุ้น หรือ 25.00% มูลค่า 33,319,625,500 บาท รวม 2 อันดับ มูลค่า 99,178,916,287 บาท (9.91 หมื่นล้านบาท)

BJC ราคาสิ้นปี 64 ปิดที่ 31.00 บาท ล่าสุด 11 พ.ย.65 ปิดที่ 33.25 บาท เพิ่ม 2.25 บาท หรือ +7.26%

3.FPT (บมจ.เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้) มาร์เกตแคป 35,716.87 ล้านบาท ธุรกิจพัฒนาและบริหารจัดการกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ในรูปแบบครบวงจร มีบริษัทในเครือเจ้าสัวเจริญถือหุ้นใหญ่ 3 บริษัท คือ1.บริษัท เฟรเซอร์ส แอสเซ็ทส์ จำกัด ถืออันดับ 1 ถือ 1,009,531,269 หุ้น หรือ 43.53% มูลค่า 15,546,781,542 บาท 2.บริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ โฮลดิ้งส์ (ประเทศไทย) จำกัดถืออันดับ 2 ถือ 888,390,839 หุ้น หรือ 38.30% มูลค่า 13,681,218,920 บาท 3.บริษัท อาคเนย์ประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) ถืออันดับ 10 ถือ 7,660,035 หุ้น หรือ 0.33% มูลค่า 117,964,539 บาท รวม 3 อันดับ มูลค่า 29,345,965,001 บาท (2.93 หมื่นล้านบาท)

FPT ราคาสิ้นปี 64 ปิดที่ 12.10 บาท ล่าสุด 11 พ.ย.65 ปิดที่ 15.40 บาท เพิ่ม 3.30 บาท หรือ +27.27%

4.OISHI (บมจ.โออิชิ กรุ๊ป) มาร์เกตแคป 18,093.75 ล้านบาท ธุรกิจผลิตและจำหน่ายอาหารญี่ปุ่น และเครื่องดื่มภายใต้เครื่องหมายการค้า "โออิชิ" มีบริษัทในเครือเจ้าสัวเจริญถือหุ้นใหญ่ 1 บริษัท คือบริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) ถืออันดับ 1 ถือ 298,720,398 หุ้น หรือ 79.66% มูลค่า 14,413,259,203 บาท (1.44 หมื่นล้านบาท)

OISHI ราคาสิ้นปี 64 ปิดที่ 43.50 บาท ล่าสุด 11 พ.ย. ปิดที่ 48.25 บาท เพิ่ม 4.75 บาท หรือ +10.92%

5.TGH (บมจ.ไทยกรุ๊ป โฮลดิ้งส์) มาร์เกตแคป 15,117.17 ล้านบาท บริษัทในเครือเจ้าสัวเจริญถือหุ้นใหญ่ 4 บริษัท คือ 1.บริษัท มงคลสิริ จำกัด ถืออันดับ 1 ถือ 574,570,802 หุ้น หรือ 76.40% มูลค่า 11,548,873,120 บาท 2.บริษัท ไทยสิริวัฒน จำกัด ถืออันดับ 2 ถือ 37,500,000 หุ้น หรือ 4.99% มูลค่า 753,750,000 บาท 3.บริษัท เพรสทีจ 2015 จำกัด ถืออันดับ 3 ถือ 37,367,000 หุ้น หรือ 4.97% มูลค่า 751,076,700 บาท 4.บริษัท สินธนรัตน์ จำกัด ถืออันดับ 4 ถือ 37,000,000 หุ้น หรือ 4.92% มูลค่า 743,700,000 บาท รวม 4 อันดับ มูลค่า 13,797,399,820 บาท (1.37 หมื่นล้านบาท)

ราคาสิ้นปี 64 ปิดที่ 24.90 บาท ล่าสุด 11 พ.ย. ปิดที่ 20.10 บาท ลดลง 4.80 บาท หรือ -19.28%

6.SSC (บมจ.เสริมสุข) มาร์เกตแคป 7,844.06 ล้านบาท ธุรกิจผลิตและจัดจำหน่ายเครื่องดื่ม เครื่องดื่มน้ำอัดลม "เอส" และ "ซาสี่" น้ำดื่ม "คริสตัล" มีบริษัทในเครือเจ้าสัวเจริญถือหุ้นใหญ่ 2 บริษัท คือ 1.บริษัท โซ วอเตอร์ จำกัด ถืออันดับ 1 ถือ 171,954,804 หุ้น หรือ 64.67% มูลค่า 5,072,666,718 บาท 2.บริษัท เอสเอส เนชั่นแนล โลจิสติกส์ จำกัด ถืออันดับ 2 ถือ 56,199,807 หุ้น หรือ 21.14% มูลค่า 1,657,894,306 บาท รวม 2 อันดับ มูลค่า 6,730,561,024 บาท (6.73 พันล้านบาท)

SSC ราคาสิ้นปี 64 ปิดที่ 30.25 บาท ล่าสุด 11 พ.ย.65 ปิดที่ 29.50 บาท ลดลง 0.75 บาท หรือ -2.48%

7.UV (บมจ.ยูนิเวนเจอร์) มาร์เกตแคป 5,850.50 ล้านบาท ธุรกิจลงทุนและพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจให้เช่าและบริหารอาคารเพื่อการพาณิชย์ มีบริษัทในเครือเจ้าสัวเจริญถือหุ้นใหญ่ 2 บริษัท คือ 1.บริษัท อเดลฟอส จำกัด ถืออันดับ 1 ถือ 1,038,732,605 หุ้น หรือ 54.33% มูลค่า 3,178,521,771 บาท 2.บริษัท สิริภักดีธรรม จำกัดถืออันดับ 2 ถือ 228,800,000 หุ้น หรือ 11.97% มูลค่า 700,128,000 บาท รวม 2 อันดับ มูลค่า 3,878,649,771 บาท (3.87 พันล้านบาท)

UV ราคาสิ้นปี 64 ปิดที่ 3.76 บาท ล่าสุด 11 พ.ย. ปิดที่ 3.06 บาท ลดลง 0.70 บาท หรือ -18.62%

8.AMARIN (บมจ.อมรินทร์พริ้นติ้ง แอนด์ พับลิชชิ่ง) มาร์เกตแคป 6,239.26 ล้านบาท ธุรกิจโรงพิมพ์และบรรจุภัณฑ์ มีเดีย หนังสือเล่ม มีบริษัทในเครือเจ้าสัวเจริญถือหุ้นใหญ่ 1 บริษัท คือ บริษัท วัฒนภักดี จำกัด ถืออันดับ 1 ถือ 602,427,400 หุ้น หรือ 60.35% มูลค่า 3,765,171,250 บาท (3.76 พันล้านบาท)

ราคาสิ้นปี 64 ปิดที่ 6.00 บาท ล่าสุด 11 พ.ย. ปิดที่ 6.25 บาท เพิ่ม 0.25 บาท หรือ +4.17%

9.SFP (บมจ.อาหารสยาม) มาร์เกตแคป 2,803.50 ล้านบาท ธุรกิจผู้ผลิตและส่งออกผลิตภัณฑ์สับปะรดบรรจุกระป๋อง ผลไม้รวมบรรจุกระป๋อง แบรนด์ SIAM FOOD มีบริษัทในเครือเจ้าสัวเจริญถือหุ้นใหญ่ 3 บริษัท คือ 1.บริษัท พรรณธิอร จำกัด ถืออันดับ 1 ถือ 14,877,767 หุ้น หรือ 70.85% มูลค่า 1,986,181,894 บาท 2.บริษัท เพรสทีจ 2015 จำกัด ถืออันดับ 6 ถือ 1,021,500 หุ้น หรือ 4.86% มูลค่า 136,370,250 บาท 3.บริษัท ยอดกิจธุรกิจ จำกัด ถืออันดับ 8 ถือ 84,900 หุ้น หรือ 0.40% มูลค่า 11,334,150 บาท รวม 3 อันดับ มูลค่า 2,133,886,294 บาท (2.13 พันล้านบาท)

ราคาสิ้นปี 64 ปิดที่ 117.00 บาท ล่าสุด 11 พ.ย. ปิดที่ 133.50 บาท เพิ่ม 16.50 บาท หรือ +14.10%

10.INSURE (บมจ.อินทรประกันภัย) มาร์เกตแคป 2,650.00 ล้านบาท บริษัทในเครือเจ้าสัวเจริญถือหุ้นใหญ่ 2 บริษัท คือ 1.บริษัท รถดีเด็ด ออโต้ จำกัด ถืออันดับ 1 ถือ 7,506,358 หุ้น หรือ 75.06% มูลค่า 1,989,184,870 บาท 2.บริษัท เพรสทีจ 2015 จำกัด ถืออันดับ 5 ถือ 412,042 หุ้น หรือ 4.12% มูลค่า 109,191,130 บาท รวม 2 อันดับ มูลค่า 2,098,376,000 บาท (2.09 พันล้านบาท)

ราคาสิ้นปี 64 ปิดที่ 37.00 บาท ล่าสุด 11 พ.ย. ปิดที่ 265.00 บาท เพิ่ม 228.00 บาท หรือ +616.22%

อย่างไรก็ตาม เป็นที่น่าสังเกตว่า 10 บริษัทเจ้าสัว มี 7 บริษัทที่มีอัตราผลตอบแทนในปี 2565 ที่เป็นบวก โดยเฉพาะ INSURE บวกมาก +616.22% และมีเพียง 3 บริษัทเท่านั้นที่เป็นลบ


กำลังโหลดความคิดเห็น