อีลอน มัสก์ มหาเศรษฐีเบอร์หนึ่งของโลก เทขายหุ้นบริษัทรถยนต์ไฟฟ้าเทสลา (Tesla) จำนวน 19.5 ล้านหุ้น รวมมูลค่า 3,950 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หลังเพิ่งจะปิดดีลเทกโอเวอร์ทวิตเตอร์สำเร็จเมื่อปลายเดือนที่แล้ว
การเทขายหุ้นเทสลาของ มัสก์ เป็นเรื่องที่หลายฝ่ายคาดการณ์กันอยู่แล้ว นับตั้งแต่ซีอีโอเทสลาตัดสินใจซื้อกิจการทวิตเตอร์ด้วยวงเงินสูงถึง 44,000 ล้านดอลลาร์
ก่อนหน้านี้ มัสก์ ได้ขายหุ้นเทสลาไปแล้วราวๆ 15,400 ล้านดอลลาร์เมื่อช่วงต้นปี หลังจากที่ยื่นข้อเสนอเข้าซื้อทวิตเตอร์เมื่อเดือน เม.ย.
ทวิตเตอร์ยืนยันว่า มัสก์ เข้าซื้อกิจการสำเร็จตั้งแต่วันที่ 27 ต.ค.ที่ผ่านมา แต่เจ้าตัวได้ประวิงเวลามาจนถึงวันที่ 4 พ.ย. จึงเริ่มเทขายหุ้นเทสลาเพิ่มเติม
จากข้อมูลในเอกสารที่ยื่นต่อคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (Securities and Exchange Commission) เมื่อค่ำวันอังคาร (8 พ.ย.) มัสก์ ได้เทขายหุ้นเทสลาออกไปทั้งหมด 19.5 ล้านหุ้น รวมมูลค่า 3,950 ล้านดอลลาร์สหรัฐในช่วงวันจันทร์ (7) และวันอังคาร (8)
ทั้งนี้ ยังไม่ชัดเจนว่า มัสก์ จะนำเงินที่ได้จากการขายหุ้นรอบนี้ไปใช้ซื้อทวิตเตอร์ หรือเอาไป “โปะ” ชดเชยรายได้ของทวิตเตอร์ที่สูญเสียไปมากนับตั้งแต่โดนเทกโอเวอร์
สัปดาห์ที่แล้ว มัสก์ ออกมายอมรับว่า ทวิตเตอร์ “มีรายได้ลดลงอย่างมาก” เนื่องจากผู้ซื้อโฆษณารายใหญ่ๆ พากันถอดโฆษณาออกจากแพลตฟอร์มหลังจากที่ตนเข้าซื้อกิจการ ซึ่ง มัสก์ เชื่อว่าเป็นเพราะมี “กลุ่มนักเคลื่อนไหว” ไปรุมกดดันบริษัทเหล่านั้น
มัสก์ ประกาศจะคิดค่าบริการเดือนละ 8 ดอลลาร์สำหรับบัญชีผู้ใช้ที่ต้องการยืนยันตัวตนด้วย “เครื่องหมายถูกสีฟ้า” และได้รับสิทธิประโยชน์อื่นๆ นอกจากนี้ ยังปลดพนักงานทวิตเตอร์ออกอีกราวๆ 50% เพื่อลดรายจ่าย