รมว.คลังเผยแบงก์พยายามตรึงดอกเบี้ยนานที่สุดช่วยประชาชน ฝั่ง ธปท.ติดตามผลกระทบใกล้ชิด คาดเฟดปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายอีก 1-2 ครั้ง
วันนี้ (3 พ.ย.) นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า กรณีที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายขึ้นอีก 0.75% นั้น สถาบันการเงินพยายามตรึงดอกเบี้ยไว้ให้ได้นานที่สุดในแต่ละแบงก์ โดยเฉพาะเป็นเรื่องที่เพิ่มต้นทุนให้ผู้ประกอบการ ว่าในแง่หนี้รายย่อยก็ตรึงไว้ ขณะที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ติดตามภาระผลกระทบว่ามีกับใครบ้าง ซึ่งพยายามบรรเทาผลกระทบให้ดีที่สุด
"เราอยู่ในช่วงการฟื้นตัว แต่ยอมรับว่าสหรัฐฯ ยังไม่หยุดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย และครั้งนี้ขึ้นเยอะหน่อย แต่อาจจะมีอีก 1-2 ครั้ง คงต้องช่วยกันประคองให้ระบบการเงินของเราพยุงไปได้และไม่เป็นหนี้เสีย เราจึงออกโครงการมหกรรมแก้ไขหนี้ขึ้นมา"
ทั้งนี้ สาเหตุที่อัตราส่วนหนี้สินที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL ratio) ของสถาบันการเงินของรัฐสูงกว่าแบงก์พาณิชย์นั้น เนื่องจากแบงก์รัฐได้ช่วยเหลือประชาชนมาโดยตลอด ไม่ว่าจะเป็นการพักชำระหนี้ การปรับโครงสร้างหนี้ ซึ่งเป็นกลไกของรัฐในการช่วยประชาชนและธุรกิจ ขณะที่แบงก์พาณิชย์ประกอบธุรกิจและป้องกันความเสี่ยง