xs
xsm
sm
md
lg

ศูนย์วิจัยกสิกรไทยคาดเฟดปรับขึ้นดอกเบี้ยอีก 0.75% แรงกดดันเงินเฟ้อยังสูง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์




ศูนย์วิจัยกสิกรไทย 
คาดว่าในการประชุม FOMC ที่จะถึงนี้ในวันที่ 1-2 พ.ย. เฟดจะพิจารณาปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายอีกร้อยละ 0.75 ซึ่งจะนับเป็นการปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายร้อยละ 0.75 ต่อครั้งในการประชุม 4 รอบติดต่อกัน ทั้งนี้ แม้ว่าอัตราเงินเฟ้อทั่วไปของสหรัฐฯ ดูเหมือนว่าจะผ่านจุดสูงสุดไปแล้วในเดือน มิ.ย.ที่ผ่านมา อย่างไรก็ดี อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานยังคงเร่งตัวสูงขึ้นมาแตะระดับสูงสุดในรอบ 40 ปีที่ 6.6% ขณะที่ดัชนีราคาพื้นฐานจากรายจ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (Core PCE) ที่เฟดให้ความสำคัญนั้นยังคงเร่งสูงขึ้นเช่นเดียวกัน สะท้อนให้เห็นถึงแรงกดดันด้านเงินเฟ้อที่ยังอยู่ในระดับสูง แม้ว่าราคาพลังงานโดยเฉพาะอย่างยิ่งราคาน้ำมันนั้นจะเริ่มปรับลดลง ในส่วนของตลาดแรงงานสหรัฐฯ นั้นยังคงสะท้อนภาวะตึงตัว โดยอัตราว่างงานเดือน ก.ย. พลิกกลับมาลดลงมาอยู่ที่ 3.5% ขณะที่ตัวเลขการจ้างงานจะเริ่มส่งสัญญาณชะลอลงแต่ยังคงถือว่าอยู่ในระดับที่ค่อนข้างแข็งแกร่ง

ทั้งนี้ ในการประชุมรอบนี้ประเด็นที่ตลาดให้ความสำคัญคงเป็นการส่งสัญญาณของเฟดต่อทิศทางนโยบายการเงินในระยะข้างหน้า โดยศูนย์วิจัยกสิกรไทยมองว่าเฟดอาจมีการลดขนาดของการปรับขึ้นดอกเบี้ยลงในระยะข้างหน้าท่ามกลางเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่มีแนวโน้มชะลอตัวลง ทั้งนี้ คงต้องขึ้นอยู่กับตัวเลขเงินเฟ้อและการจ้างงานเป็นหลัก โดยหากเงินเฟ้อสหรัฐฯ มีทิศทางอ่อนแรงลง ท่ามกลางเศรษฐกิจสหรัฐฯ รวมถึงตลาดแรงงานที่ชะลอตัวลง ความจำเป็นที่เฟดต้องปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายถึงร้อยละ 0.75 คงมีลดลง ส่งผลให้เฟดอาจปรับขึ้นดอกเบี้ยในอัตราที่ชะลอลงที่ครั้งละร้อยละ 0.25-0.50 ในการประชุมครั้งต่อไปในเดือน ธ.ค. ต่อเนื่องไปจนถึงต้นปีหน้า

ซึ่งจาก CME FedWatch Tool ตลาดคาดการณ์ว่าอัตราดอกเบี้ยนโยบายของเฟดจะแตะระดับสูงที่ราว 4.75-5.00 % ในไตรมาส 1/2565 และเฟดมีแนวโน้มที่จะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับนั้นอย่างต่อเนื่องไปในระยะข้างหน้า โดยหากเงินเฟ้อยังคงไม่ลดลงอย่างชัดเจน เฟดอาจจำเป็นต้องคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายยาวนานกว่าที่คาด แต่หากเงินเฟ้อปรับลดลงมาอย่างชัดเจนพร้อมกับเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่เผชิญภาวะถดถอยอย่างมีนัยสำคัญ เฟดอาจมีการปรับลดดอกเบี้ยนโยบายได้ในช่วงครึ่งปีหลังของปีหน้า

*บาทปิดแข็งค่าที่ 37.74 รอติดตามผลประชุมเฟด*
สำหรับเงินบาทวันนี้ปิดตลาดที่ระดับ 37.74 บาทต่อดอลลาร์ แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับระดับปิดตลาดวานนี้ที่ 38.06 บาทต่อดอลลาร์ โดยเงินบาทและสกุลเงินส่วนใหญ่ในเอเชียแข็งค่าขึ้นตามเงินหยวนที่ฟื้นตัวกลับมาแข็งค่าขึ้นในช่วงบ่าย หลังจากแตะระดับอ่อนค่าสุดในรอบ 15 ปีในช่วงเช้า ขณะที่เงินดอลลาร์ขาดแรงหนุนที่ชัดเจน เนื่องจากตลาดยังคงรอติดตามสัญญาณจากผลการประชุมเฟด (1-2 พ.ย. นี้) นอกจากนี้ เงินบาทยังได้แรงหนุนเพิ่มเติมจากทิศทางฟันด์โฟลว์ในวันนี้ โดยนักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิหุ้นและพันธบัตรไทย 6,138.46 ล้านบาท และ 466 ล้านบาทตามลำดับ

สำหรับกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันพรุ่งนี้ คาดไว้ที่ 37.50-38.00 บาทต่อดอลลาร์ ปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ ผลการประชุมเฟด ทิศทางฟันด์โฟลว์ สถานการณ์ค่าเงินในภูมิภาค ดัชนี PMI ภาคการผลิตเดือน ต.ค. ของยูโรโซน และตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนโดย ADP เดือน ต.ค. ของสหรัฐฯ
กำลังโหลดความคิดเห็น