Elon Musk มหาเศรษฐีอันดับ 1 ของโลกเจ้าของแบรนด์รถยนต์ TESLA และธุรกิจด้านอวกาศ SpaceX ประกาศปลดคณะกรรมการบริหาร Twitter ทั้งหมด หลังจากที่เขาซื้อบริษัทมาด้วยข้อตกลงมูลค่า 44 พันล้านดอลลาร์ (38.3 พันล้านดอลลาร์) เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
จากการเปิดเผยของสำนักข่าว BBC ระบุว่าเขาได้ดำเนินการปลดกรรมการบริหาร Twitter ทั้งหมดยกชุดในครั้งเดียว หลังจากที่ก่อนหน้านี้อีลอน ได้มีการโต้เถียงอย่างรุนแรงกับทางผู้บริหารชุดเก่าของ Twitter ถึงการชี้แจงข้อมูลบอทสแปมในระบบ ซึ่งทางบอร์ดบริหารทำข้อมูลออกมา มีตัวเลขน้อยกว่าความเป็นจริง ไม่ตรงกับข้อมูลที่ทางอีลอนตรวจสอบ อย่างไรก็ตามการประกาศปลดคณะกรรมการบริหารออกไป ได้แสดงถึงจุดยืนของเขาถึงการสร้างความโปร่งใสและความปลอดภัยในการสร้างพื้นที่โซเชียลร่วมกัน ซึ่ง Twitter ได้รับการยอมรับว่าเป็นโซเชียลมีเดียที่ได้รับความนิยมในชุมชนคริปโตและถูกใช้เป็นกระบอกเสียงชี้นำของนักการเมืองและนักข่าวทั่วโลก
นอกจากนี้ขั้นตอนการเดินหน้าปฏิรูปที่เขากำลังดำเนินการนั้น จะมีการพิจารณาใหม่ทั้งหมด รวมไปถึงการเปลี่ยนแปลงวิธีที่ Twitter ตรวจสอบบัญชี และการเลิกจ้างงานพนักงานอีกด้วย
ขณะเดียวกันด้าน Washington Post รายงานว่าจะมีการปรับลดพนักงานในรอบแรก ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจา โดยอาจส่งผลกระทบต่อพนักงานของบริษัทไม่น้อยกว่า 25%
ด้าน Jack Dorsey ผู้ร่วมก่อตั้ง Twitter ได้ประกาศว่าเขาได้เพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นเป็นจำนวนทั้งหมด 18 ล้านหุ้น ซึ่งมีมูลค่าเกือบ 978 ล้านดอลลาร์ ณ ราคาซื้อคืนที่ 54.20 ดอลลาร์ ให้กับบริษัทเอกชนแห่งใหม่ ตามคำฟ้องของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์แห่งสหรัฐฯ เมื่อวันจันทร์ Jack Dorsey ซึ่งลาออกจากการเป็นผู้บริหารของ Twitter เมื่อเดือนพฤษภาคมหลังจากจากมีข่าวลือออกมาว่าเกิดความขัดแย้งในการบริหารงานภายในหลังแนวทางการเชื่อมโยง NFT กับทวิตเตอร์ประสบความสำเร็จตามเป้าหมายที่วางไว้ แต่ขณะเดียวกันเขาเองก็ยังสนับสนุนให้อีลอนเข้ามาซื้อบริษัท Twitter อีกด้วย
“Elon เป็นทางออกเดียวที่ผมไว้วางใจ ซึ่งผมเชื่อมั่นในภารกิจของเขาในการขยายการเติบโตของทวิตเตอร์ออกไป” Jack Dorsey กล่าวในทวีต
ทั้งนี้หลังจากที่ Elon Musk นายมัสค์ ได้เปลี่ยนรายละเอียดโปรไฟล์ของเขาบน Twitter เป็น "Chief Twit" หลังจากการเทคโอเวอร์ โดยตั้งแต่นั้นมาได้มีการอัปเดตเป็น "Twitter Complaint Hotline Operator" ซึ่งหลังจากการปลดคณะกรรมการบริหารทั้งหมดออกไป ทำให้ตอนนี้เขาเป็นผู้อำนวยการเพียงคนเดียวของ Twitter จากที่ระบุในการยื่นเอกสารเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา
ขณะที่กรรมการที่ถูกไล่ออกไปทั้ง 9 คน ได้แก่ Bret Taylor อดีตประธานคณะกรรมการ และParag Agrawal อดีตผู้บริหารระดับสูง
นอกจากนี้ยังมี Baroness Martha Lane Fox ซึ่งปัจจุบันเป็นประธานหอการค้าอังกฤษ ซึ่งเป็นหนึ่งในสมาชิกคณะกรรมการที่จะถูกถอดออกภายใต้ข้อตกลงการควบรวมกิจการ ปฏิเสธที่จะแสดงความคิดเห็นเมื่อได้รับการติดต่อจาก BBC
'ปัญหาโซเชียลมีเดียชี้นำ กระทบความมั่นคงแห่งชาติ'
การเข้าซื้อกิจการของอีลอนทำให้เกิดการตรวจสอบอย่างถี่ถ้วนมากขึ้น ในขณะที่เขาส่งสัญญาณว่ามีแผนจะยกเครื่องว่า Twitter ครั้งใหญ่ โดยมีคำถามถึงประเด็นในการดูแล การเผยแพร่ของข้อมูลบนแพลตฟอร์มของตนอย่างไร รวมถึงการชีนำของข้อมูลจากผู้ทรงอิทธิพลทางสังคมจากแหล่งต่างๆ เช่น สื่อของรัฐ นักการเมือง และคนดัง ฯลฯ
โดยอีลอนกล่าวว่าบริษัทจะจัดตั้งสภากรรมการตรวจสอบขึ้นมาใหม่ เพื่อควบคุมการตัดสินใจเหล่านั้น และจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ เกิดขึ้น
ขณะที่วันจันทร์ที่ผ่านมา วุฒิสมาชิกคริส เมอร์ฟี ซึ่งเป็นพรรคเดโมเคร็ตกล่าวว่าเขาได้ขอให้รัฐบาลทบทวนผลกระทบด้านความมั่นคงแห่งชาติของข้อตกลงดังกล่าว เนื่องจากอีลอยถือหุ้นใหญ่ในบริษัท ซึ่งมีสัมพันธ์อันดีที่เชื่อมโยงกับซาอุดิอาระเบีย ซึ่งมีความสัมพันธ์ที่ตึงเครียดมากขึ้นกับสหรัฐ
“เราควรกังวลว่าชาวซาอุดิอาระเบียซึ่งมีความสนใจอย่างชัดเจนในการโจมตีคำพูดที่มีความเห็นแย้งทางการเมือง และส่งผลกระทบต่อการเมืองของสหรัฐฯ โดยตอนนี้อีลอนเป็นเจ้าของโซเชียลมีเดียอันดับ 2 ของแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียรายใหญ่ และแน่นอนว่าสิ่งที่จะตามมาเป็นปัญหาด้านความมั่นคงของชาติที่ชัดเจน และ CFIUS (คณะกรรมการการลงทุนจากต่างประเทศในสหรัฐอเมริกา) ควรทำการตรวจสอบ" นายเมอร์ฟีโพสต์ใน Twitter