ทรัพย์สินของมาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก ลดลง 11,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หลังจากบริษัท เมตา แพลตฟอร์ม อิงค์ ของเขารายงานผลประกอบการมีรายได้น่าผิดหวัง 2 ไตรมาสติดต่อกัน ส่งผลเขาสูญเสียทรัพย์สินรวมแล้วมากกว่า 100,000 ล้านดอลลาร์ ภายในเวลาเพียงแค่ 13 เดือน
จากข้อมูลดัชนีมหาเศรษฐีของบลูมเบิร์ก (Bloomberg Billionaire Index) พบว่า เวลานี้ ซัคเคอร์เบิร์ก วัย 38 ปี เหลือทรัพย์สินสุทธิ 38,100 ล้านดอลลาร์สหรัฐเท่านั้น ลดลงอย่างน่าตื่นตะลึงจากช่วงเวลารุ่งโรจน์สุด 142,00 ล้านดอลลาร์ในเดือนกันยายน 2021
แม้บรรดาอภิมหาเศรษฐีโลกจำนวนมาก พบเห็นทรัพย์สินของพวกเขาดำดิ่งลงในปีนี้ แต่ซีอีโอของเมตา กลายเป็นบุคคลที่มีทรัพย์สินลดลงมากที่สุดในบรรดาผู้มั่งคั่งที่อยู่ในบัญชีอภิมหาเศรษฐีโลก
รายได้ของเมตา ลดลง 4.5% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน ถือเป็นการลดลง 2 ไตรมาสติดต่อกัน ทั้งที่ก่อนหน้านี้ก่อนเข้าสู่ปี 2022 บริษัทแห่งนี้ไม่เคยรายงานยอดขายลดลงมาก่อน
แฟลตฟอร์มสื่อสังคมออนไลน์แห่งนี้กำลังเผชิญกับค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นทวีคูณ จากการลงทุนใน Meteverse หุ้นของ เมตา ปรับลดทันที 25% หลังเปิดตลาดในนิวยอร์กในวันพฤหัสบดี (27 ต.ค.) โดยราคาหุ้นอยู่ที่ราวๆ 100 ดอลลาร์ ต่ำที่สุดนับตั้งแต่ปี 2016 ทั้งที่ช่วงพีกสุดมันเคยพุ่งทะยานแตะระดับ 382 ดอลลาร์เลยทีเดียว
"ผมรู้ว่าคนจำนวนมากอาจไม่เห็นด้วยกับการลงทุนนี้" ซัคเคอร์เบิร์ก เคยกล่าวถึงกรณีที่ทางบริษัทหันมามุ่งเน้นเกี่ยวกับ Meteverse พร้อมเน้นย้ำ เรียกมันว่าเป็น "พื้นฐานสำคัญสำหรับอนาคต"
ซัคเคอร์เบิร์ก ถือครองหุ้นมากกว่า 350 ล้านหุ้นในบริษัท ซึ่งเปลี่ยนชื่อจากเฟซบุ๊กมาเป็นเมตาเมื่อราวๆ 1 ปีก่อน มีอยู่ช่วงหนึ่งเขาเคยรั้งอันดับ 3 ของอภิมหาเศรษฐีร่ำรวยที่สุดในโลกในดัชนีมหาเศรษฐีของบลูมเบิร์ก เป็นรองเพียง เจฟฟ์ เบซอส และบิล เกตส์ แต่หลังจากปิดตลาดเมื่อวันพุธ (26 ต.ค.) เขาหล่นมารั้งอันดับที่ 23 ของโลก