xs
xsm
sm
md
lg

DELTA โกยกำไร Q3 แตะ 4.1 พันล้านบาท

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



เดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) อวดกำไตรมาส 3 ปีนี้ 4,110 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อนที่ทำไว้ 1,191.26 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น188.2% จากปีก่อนจากยอดขายที่เพิ่มขึ้น อีกทั้งบันทึกผลขาดทุนสำหรับค่าเสียหายจากเหตุการณ์น้ำท่วมและกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน 215 ล้านบาท

บริษัทเดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ DELTA แจ้งผลประกอบการไตรมาส 3 ปีนี้ มีกำไรสุทธิ 4,110 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อนที่ทำไว้ 1,191.26 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 243.5% จากปีก่อน ขณะที่งวด 9 เดือนแรกปีนี้ทำได้ 11,153.59 ล้านบาท เพิ่มจากปีก่อนที่ทำไว้ 4,603.42 ล้านบาท

โดยยอดขายยอดขายสินค้าและบริการในไตรมาสนี้อยู่ที่ 31,324 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 46.9% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน โดยส่วนงานเพาเวอร์อิเล็กทรอนิกส์ยังคงเติบโตสูงอย่างต่อเนื่อง จากแนวโน้มความต้องการของลูกค้าในกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับ Data Center, Server & Cloud Storage โดยเฉพาะเพาเวอร์ซัปพลายที่มีการออกแบบเฉพาะ (Custom Design Power) รวมถึงกลุ่มผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์กำลังไฟฟ้าที่ใช้ในรถยนต์ไฟฟ้า (Electric Vehicle Power) กลุ่มโซลูชันพัดลม และระบบ จัดการความ ร้อน (Fan & Thermal ManagementSolution) กลุ่มผลิตภัณฑ์ระบบอัตโนมัติสำหรับภาคอุตสาหกรรม (Industrial Automation) รวมถึงระบบอัตโนมัติสำหรับอาคาร (Building Automation)

ขณะที่กลุ่มผลิตภณัฑ์โครงสร้างพื้นฐานยอดขายเติบโตจากปีก่อนหน้าแต่ชะลอตัวลงจากฐานสูงในไตรมาสที่แล้ว เนื่องจากดีมานด์โซลูชันด้านการสื่อสารและระบบเครือข่ายโทรคมนาคมมีแนวโน้มอ่อนตัวลงในตลาดยุโรป

กำไรข้ันต้นในไตรมาสนี้มี 7,298 ล้านบาท คิดเป็น 23.3% ของยอดขาย เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญจากอัตรา19.2% ในไตรมาสเดียวกันของปีก่อน ซึ่งบริษัทฯ ได้ประสบเหตุการณ์น้ำท่วม ส่งผลกระทบต่อคลังจัดเก็บของแห่งหนึ่งโดยบริษัทฯ สามารถบริหารสถานการณ์ได้เป็นอย่างดีพร้อมเดินหน้าขับเคลื่อนจากการเติบโตของรายได้อย่างก้าวกระโดดในปีนี้โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มผลิตภัณฑ์เพาเวอร์ซัปพลายสำหรับดาต้าเซ็นเตอร์และยานยนต์ไฟฟ้าที่มีอัตรากำไรปรับตัวดีขึ้น สอดคลอ้งกับยอดขาย ขณะที่อัตรากำไรของกลุ่มผลิตภัณฑ์โครงสร้างพื้นฐานปรับตวัลดลงสอดคล้องกับรายได้และรูปแบบโครงการ

ทั้งนี้ บริษัทฯ วางกลยุทธ์เสริมสร้างประสิทธิภาพการผลิตโดยใช้ระบบ Smart Manufacturing และเร่งแผนการขยายกำลังการผลิตโดยการก่อสร้างโรงงานแห่งใหม่ คาดว่าจะเสร็จสิ้นกลางปี 2566 เพื่อรองรับความต้องการของกลุ่มผลิตภัณฑ์มีการเติบโตสูง

สำหรับค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร (รวมการวิจัยและพัฒนา) มีจำนวน 3,524 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 26.2% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้น 11.8% จากไตรมาสก่อน โดยค่าใช้จ่ายด้านการขายปรับตัวสูงขึ้นสอดคล้องกับรายได้พร้อมกับกิจกรรมด้านการวิจัยพัฒนาเพิ่ม เพื่อขยายขีดความสามารถในการแข่งขัน

โดยกำไรจากการดำเนินงานไตรมาสนี้ 3,774 ล้านบาท เติบโต 188.2% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน ซึ่งบริษัทฯ ได้บันทึกผลขาดทุนสำหรับค่าเสียหายจากเหตุการณ์น้ำ ท่วมในงบกำไรขาดทุนเบ็ดเสร็จงวดดังกล่าว 393 ล้านบาท นอกจากความสำเร็จในการดำเนินงานธุรกิจหลักที่กล่าวมาแล้ว บริษัทฯ รับรู้กำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน 215 ล้านบาทในไตรมาสนี้ ส่งผลให้กำไรสุทธิประจำไตรมาสที่ 3 ปีนี้สูงขึ้น


กำลังโหลดความคิดเห็น