xs
xsm
sm
md
lg

อสังหาฯ โชว์ยอดขาย 9 เดือนฉลุย รับแรงบวกดีมานด์แนวราบ-ปิดขายคอนโดฯ มั่นใจ ศก.ไทยฟื้น

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ปัจจัยบวก ศก.เริ่มฟื้นตัว หนุนตัวเลขการขายภาคอสังหาฯ งวด 9 เดือนโต "SC Asset" โชว์ยอดพรีเซลโตทั้งแนวราบแนวสูง กวาดยอดขาย 78% ของเป้าทั้งปี 22,000 ล้านบาท พร้อมลงทุนพัฒนาธุรกิจโรงแรม เพื่อสร้างกำไรบนน่านน้ำใหม่ ด้าน “บริทาเนีย” เครือ ORI กวาด 7,840 ล้านบ.าท เติบโต 23% มั่นใจปี 2565 ทำยอดขาย 11,000 ล้านบาทตามแผน

นายอรรถพล สฤษฎิพันธาวาทย์ ประธานเจ้าหน้าที่ด้านสนับสนุนองค์กร บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SC กล่าวว่า ภายใต้ยุทธศาสตร์หลัก คือ เติบโตบนสมรภูมิเดิมและหาโอกาสจากน่านน้ำใหม่ ซึ่งที่ประชุมคณะกรรมบริษัทเมื่อ 29 ก.ย.ที่ผ่านมา ได้มีมติอนุมัติให้บริษัท เอสซี เอ็กซ์เพดิชั่น จํากัด (SCX) ซึ่งเป็นบริษัทย่อย เข้าลงทุนในบริษัท เอฟเจ บีเคเค จํากัด (FJBKK) มีทุนจดทะเบียน 1,420 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนการถือหุ้น 100% โดยมีวัตถุประสงค์การลงทุนเพื่อพัฒนาธุรกิจโรงแรม เพื่อสร้างกำไรจากธุรกิจบนน่านน้ำใหม่

ขณะที่ภาพรวมของ SC ช่วง 9 เดือนที่ผ่านมา ทำยอดขายคิดเป็น 78% จากเป้ายอดขายทั้งปีที่ 22,000 ล้านบาท โดยที่ยอดขายรวม 17,182 ล้านบาท เติบโต 7% แบ่งเป็นยอดขายแนวราบ 14,018 ล้านบาท เติบโต 6% และมียอดขายแนวสูง 3,164 ล้านบาท เติบโต 12% การเติบโตที่ดีของยอดขาย 9 เดือน ปัจจัยสำคัญมาจากความเชื่อมั่นของผู้บริโภคภายใต้แบรนด์ที่แข็งแกร่งและสินค้าบริการคุณภาพสูง พร้อมกับกลยุทธ์ในการพัฒนาสินค้าทั้งบ้านและคอนโดฯ ดีไซน์ตอบโจทย์การอยู่อาศัยในทุกเจเนอเรชันอย่างต่อเนื่อง จึงทำให้โครงการแนวราบทุกราคาขายดี พร้อมกับการฟื้นตัวของคอนโดฯ โดยเฉพาะระดับกลางถึงบน

สำหรับผลประกอบการไตรมาส 3/2565 บริษัทมียอดขายรวม 5,161 ล้านบาท เติบโต 9% นอกจากนี้ สามารถปิดการขาย 3 คอนโดฯ ได้แก่ โครงการเซ็นทริค รัชโยธิน โครงการแชมเบอร์ส อ่อนนุช และโครงการเดอะ เครสท์ ซานโตรา หัวหิน

บริษัทมั่นใจว่าจะทำได้ตามเป้ายอดขายและรายได้รวมที่ 22,000 ล้านบาทอย่างแน่นอน มาจาก ณ 30 กันยายน 2565 บริษัทมีโครงการเพื่อขายทั้งหมด 43 โครงการ มูลค่า 37,500 ล้านบาท แบ่งเป็นแนวราบและแนวสูงในสัดส่วน 66 : 34 และพร้อมเปิด 11 โครงการใหม่ มูลค่ารวม 20,000 ล้านบาท ในไตรมาส 4/2565

พร้อมกันนี้ ในไตรมาส 4/2565 จะเริ่มโอนกรรมสิทธิ์คอนโดมิเนียม 3 โครงการ ได้แก่ คอนโด The Crest Park Residences มูลค่า 3,100 ล้านบาท รวมถึงโครงการ SCOPE Langsuan มูลค่า 8,600 ล้านบาท และ SCOPE Promsri มูลค่า 1,100 ล้านบาท ซึ่ง 3 โครงการนี้มียอดขายรอโอนรวมมูลค่ากว่า 5,000 ล้านบาท

‘บริทาเนีย’ พรีเซล 9 ทะลุ 7,800 ล้านบาท แย้ม Q4 โตต่อ

นางศุภลักษณ์ จันทร์พิทักษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บริทาเนีย จำกัด (มหาชน) หรือ BRI เปิดเผยว่า จากแผนธุรกิจช่วงครึ่งปีหลังของปีนี้ที่มุ่งเน้นเปิดโครงการใหม่เพิ่มขึ้นกว่าครึ่งปีแรกที่ผ่านมา ประกอบกับภาพรวมเศรษฐกิจในประเทศทยอยฟื้นตัว ส่งผลดีต่อความเชื่อมั่นของผู้บริโภคในการตัดสินใจซื้อที่อยู่อาศัย

ล่าสุด บริษัทฯ สามารถทำยอดขาย (พรีเซล) ไตรมาส 3/2565 ได้ทั้งสิ้น 2,843 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 29% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่งผลให้มียอดขายสะสมใน 9 เดือนแรกของปีนี้รวมทั้งสิ้น 7,840 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 23% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ย้ำเปิดโครงการไตรมาสสุดท้ายตามแผน มั่นใจเป็นไปตามเป้าหมายการเติบโตที่วางไว้

ยอดขายไตรมาส 3/2565 และ 9 เดือนแรกของปีนี้ที่เติบโตได้ดีมาจากโครงการที่อยู่อาศัยแนวราบที่อยู่ระหว่างการขายรวมทั้งสิ้น 25 โครงการ ในจำนวนดังกล่าวเป็นโครงการที่เปิดตัวใหม่ในไตรมาส 3 ที่ผ่านมา จำนวน 4 โครงการ มูลค่าโครงการรวมทั้งสิ้น 4,350 ล้านบาท ได้แก่

1) โครงการบริทาเนีย วงแหวน&ปิ่นเกล้า มูลค่าโครงการ 550 ล้านบาท
2) โครงการบริทาเนีย โฮม บางนา กม.17 มูลค่าโครงการ 1,500 ล้านบาท
3) โครงการบริทาเนีย ทาวน์ บางนา กม.17 มูลค่าโครงการ 1,100 ล้านบาท
และ 4) โครงการแกรนด์ บริทาเนีย คูคต สเตชั่น มูลค่าโครงการ 1,200 ล้านบาท

ทั้งนี้ โครงการใหม่ที่ทยอยเปิดตัวในปีนี้มีจุดเด่นด้านทำเลที่มีการคมนาคมสะดวกและแวดล้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ เช่น ใกล้ทางด่วน สถานีรถไฟฟ้า ใกล้ศูนย์การค้า โรงพยาบาล เป็นต้น และบริษัทฯ ได้ศึกษาความต้องการของผู้อยู่อาศัยหลากหลายเจเนอเรชัน ไลฟ์สไตล์ที่เปลี่ยนแปลงไปและปัญหาต่างๆ ในการอยู่อาศัย เพื่อนำมาเน้นการพัฒนารูปแบบบ้านและฟังก์ชันใช้สอยภายในให้ตรงกับความต้องการของผู้บริโภคสำหรับรองรับการขยายครอบครัว พร้อมนำเทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามาตอบสนองการใช้ชีวิตและอำนวยความสะดวกสบายยิ่งขึ้น

สำหรับภาพรวมเศรษฐกิจในช่วงที่ผ่านมา ถือว่าเป็นสิ่งที่ท้าทายกับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เป็นอย่างมาก ทั้งเรื่องต้นทุนวัสดุก่อสร้าง สภาพอากาศที่ไม่เอื้ออำนวย และการปรับขึ้นของอัตราดอกเบี้ย ปัจจัยเหล่านี้ส่งผลกระทบต่อทั้งบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์และต่อกำลังการซื้อของผู้บริโภค โดยบริษัทฯ ได้วางแผนและแนวทางการรับมืออย่างเคร่งครัด มีการบริหารต้นทุนและควบคุมการใช้จ่ายให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด เพื่อรักษามาตรฐานการดำเนินงานที่ดีและมุ่งหวังส่งมอบบ้านที่ดีที่สุดให้ผู้บริโภคต่อไป

ยอดขายที่ทำได้ในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้อยู่ในเกณฑ์ที่พอใจ และมั่นใจว่าบริษัทฯ จะทำยอดขายรวมในปีนี้ได้ถึง 11,000 ล้านบาทตามเป้าหมาย หากไม่มีปัจจัยใหม่เข้ามากระทบภาพรวมเศรษฐกิจและกำลังซื้อที่อยู่อาศัยที่กำลังฟื้นตัว โดยแผนงานไตรมาสสุดท้ายจะเปิดตัวโครงการตามแผนที่กำหนด ทั้งในพื้นที่กรุงเทพฯ และต่างจังหวัด เน้นทำเลศักยภาพที่มีเศรษฐกิจเติบโตและความต้องการที่อยู่อาศัยสูงที่ได้รับประโยชน์จากการขยายการลงทุนในอุตสาหกรรมและอัตราการขยายตัวของประชากร และเป็นโอกาสของการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยแนวราบ”
กำลังโหลดความคิดเห็น