xs
xsm
sm
md
lg

KLINIQ เตรียมขาย IPO เข้า mai หลัง ก.ล.ต.นับหนึ่งไฟลิ่ง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



นายรัฐชัย ธีระธนาวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วมสายงานวาณิชธนกิจ - ด้านตลาดทุน บล.ดาโอ (ประเทศไทย) (DAOL) ในฐานะปรึกษาทางการเงิน บมจ.เดอะคลีนิกค์ คลินิกเวชกรรม (KLINIQ) เปิดเผยว่า KLINIQ เตรียมพร้อมเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวนไม่เกิน 60,000,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) 0.50 บาท/หุ้น ให้แก่ประชาชน (IPO) หรือคิดเป็น 27.27% ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมดภายหลังการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนครั้งนี้ หลังจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้เริ่มนับหนึ่งแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์ และร่างหนังสือชี้ชวนแล้ว และจะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai) กลุ่มอุตสาหกรรม : บริการ

KLINIQ เป็นหนึ่งในผู้นำในธุรกิจให้บริการด้านเลเซอร์ผิวหนัง การยกกระชับและปรับรูปหน้า การดูแลรูปร่างและกระชับสัดส่วน ศัลยกรรมตกแต่ง รวมถึงการดูแลป้องกันและฟื้นฟูสุขภาพแบบองค์รวม (Wellness & Regenerative Medicine) ที่ทันสมัยตามหลักการแพทย์ ภายใต้แบรนด์ "เดอะคลีนิกค์" (THE KLINIQUE) ซึ่งให้การดูแลโดยทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านความงามและศัลยกรรมตกแต่ง ร่วมกับการใช้เครื่องมือทางการแพทย์และตัวยาที่ได้มาตรฐานสหรัฐอเมริกา ด้วยการอัปเดตนำนวัตกรรมทางการแพทย์ที่ทันสมัยและปลอดภัยมาใช้ในการรักษาอย่างต่อเนื่อง จึงมีโปรแกรมการรักษาที่หลากหลาย เพื่อให้ครอบคลุมทุกความกังวลของลูกค้าและตอบโจทย์ทุกความต้องการได้เป็นอย่างดี

นายแพทย์อภิรุจ ทองวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร KLINIQ กล่าวว่า บริษัทฯ เตรียมนำเงินที่ได้จากการระดมทุนครั้งนี้ไปใช้ลงทุนในการขยายกิจการ โดยมีแผนขยายสาขาใหม่เพิ่มเติมประมาณ 6-10 สาขา/ปี ครอบคลุมทั้งในกรุงเทพฯ และหัวเมืองใหญ่ในต่างจังหวัด รวมทั้งจัดซื้อเครื่องมือทางการแพทย์เพื่อเสริมความแข็งแกร่งด้านการเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมการแพทย์ ขยายกิจการศูนย์ศัลยกรรม เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าเป้าหมายยุคใหม่ที่ให้ความสำคัญกับเรื่องของภาพลักษณ์ และสุขภาพ สอดคล้องเมกะเทรนด์ และพัฒนาระบบ IT เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของฝ่ายสนับสนุน และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน ผลักดันผลการดำเนินงานในช่วง 1-3 ปีข้างหน้าเติบโตอย่างก้าวกระโดด

ณ วันที่ 30 มิ.ย.65 บริษัทมีสาขารวมทั้งสิ้น 39 สาขาทั่วประเทศไทย แบ่งเป็นคลินิกเวชกรรม จำนวน 35 สาขา ศูนย์ศัลยกรรม จำนวน 1 สาขา และร้านทำเล็บ จำนวน 3 สาขา มีกลุ่มลูกค้าเป้าหมายหลักทั้งผู้หญิงและผู้ชาย ในช่วงอายุระหว่าง 20-55 ปี ด้วยโปรแกรมการรักษาที่หลากหลายอันเกิดจากการผสมผสานนวัตกรรมทางการแพทย์ที่ทันสมัย กับความเชี่ยวชาญในการให้การรักษา รวมถึงงานบริการที่ได้มาตรฐาน จึงตอบโจทย์ทุกความต้องการ และสามารถสร้างความประทับใจให้ลูกค้าได้อย่างต่อเนื่อง

สำหรับผลการดำเนินงานสิ้นสุดปี 64 บริษัทมีรายได้จากการขายและการให้บริการรักษาพยาบาล 949.93 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 129.25 ล้านบาท

และล่าสุดงวด 6 เดือนของปี 65 มีรายได้จากการขายและการให้บริการรักษาพยาบาล 714.72 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อนหน้า 263.13 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 100.22 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 40.22 ล้านบาท จากงวดเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากในช่วงไตรมาส 1/64 และ 2/64 ได้รับผลกระทบจากมาตรการการสั่งปิดพื้นที่ (Lockdown) ส่งผลให้สาขาบางสาขาต้องหยุดให้บริการชั่วคราว แต่ในไตรมาสแรกปีนี้มาตรการการควบคุมของภาครัฐผ่อนคลายลง ทำให้ลูกค้าสามารถมารับบริการได้เป็นปกติทุกสาขา


กำลังโหลดความคิดเห็น