xs
xsm
sm
md
lg

ธอส.เทกออฟบริการ "ดิจิทัล" สินเชื่อบ้าน เสริมศักยภาพการแข่งขัน-ตอบสนองลูกค้าทุก Gen

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ฉัตรชัย ศิริไล
เอ็มดี ธอส.เดินหน้าสนับสนุนสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย ผลงานปล่อยใหม่ได้ถึง 3 แสนล้านบาท พร้อมประกาศลดความเหลื่อมล้ำกลุ่มกับผู้มีรายได้น้อยมีที่อยู่อาศัย ชี้กำลังซื้อเริ่มฟื้นตัว แต่ปรับขึ้นไม่ทันราคาบ้านและดอกเบี้ย เร่งพัฒนาบริการดิจิทัล ผ่าน 3 Module ทั้งด้านสินเชื่อ ด้านการบริหารจัดการทรัพย์ด้อยคุณภาพ และ Funding พัฒนาระบบแอปใหม่ Application GHB ALL GEN ตอบโจทย์ทุกวัย รองรับลูกค้ากว่า 1 ล้านราย โชว์ศักยภาพการนำระบบ Data Analytic ประเมินราคาที่อยู่อาศัยรวดเร็ว รู้ผลราคาประเมินไม่เกิน 3-7 วัน การบริหารทรัพย์สินด้อยคุณภาพ จัดวางระบบไฟแนนซ์ รองรับการปล่อยสินเชื่อ

นายฉัตรชัย ศิริไล กรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยถึงการพัฒนาบริการดิจิทัลของ ธอส.ว่า ด้วยผลการดำเนินงานในปัจจุบันของ ธอส. ที่ยังคงมีความแข็งแรง โดยคาดว่าจะปล่อยสินเชื่อใหม่ในปี 2565 ได้ถึง 300,000 ล้านบาท ขณะนี้หนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ถึง ณ วันที่ 31 สิงหาคม 2565 เพิ่มขึ้นจาก ณ สิ้นปี 2564 ประมาณ 10,000 ล้านบาท โดยอยู่ที่ 68,000 ล้านบาท คิดเป็น 4.41% ของสินเชื่อรวม 1.6 ล้านล้านบาท ขณะเดียวกัน ยังต้องบริหารจัดการให้ธนาคารมีกำไรตามเป้าหมายตัวชี้วัด 13,400 ล้านบาท เพื่อนำ 45% ของกำไรส่งเป็นรายได้ให้กระทรวงการคลังนำไปใช้จ่ายเป็นงบประมาณแผ่นดินต่อไป

ขณะที่สถานการณ์ของตลาดสินเชื่อที่อยู่อาศัยในขณะนี้มีปัจจัยที่เกี่ยวข้อง ทั้งสถานการณ์ของโควิด-19 ที่เริ่มคลี่คลาย ธนาคารพาณิชย์เริ่มกลับเข้ามาแข่งขันในตลาดมากขึ้น ที่อยู่อาศัยมีราคาสูงขึ้นตามการเพิ่มขึ้นของต้นทุนการลงทุนก่อสร้าง ภาวะดอกเบี้ยขาขึ้น และกำลังซื้อของประชาชนที่แม้จะเริ่มฟื้นตัว แต่ยังไม่เท่ากับการปรับขึ้นของราคาที่อยู่อาศัยและอัตราดอกเบี้ย

"ธอส. ต้องเร่งปรับตัวเพื่อให้ธนาคารสามารถลดความเหลื่อมล้ำด้านที่อยู่อาศัยให้ผู้มีรายได้น้อย ด้วยผลิตภัณฑ์สินเชื่ออัตราดอกเบี้ยต่ำ รวมถึงมีผลการดำเนินงานเป็นไปตามเป้าหมาย และสามารถรับมือกับปัจจัยแวดล้อมที่เกิดขึ้น" นายฉัตรชัย กล่าวถึงบทบาทในการดูแลประชาชนให้มีที่อยู่อาศัย ควบคู่ไปกับการเป็นผู้นำในระบบการเงินที่มั่นคงและยังยืน

ดังนั้น คณะกรรมการธนาคารจึงได้มีมติเห็นชอบให้ ธอส. ลงทุนพัฒนาทางด้านระบบเทคโนโลยีและบริการดิจิทัลใหม่ๆ ด้วยงบประมาณลงทุนรวมไม่เกิน 400 ล้านบาท โดยใช้ชื่อว่า end to end process หรือการให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงบริการของธนาคารได้ตั้งแต่ขั้นตอนแรกจนถึงขั้นตอนสุดท้าย ผ่านบริการด้านดิจิทัลทั้งหมด ซึ่งช่วยให้ลูกค้าได้รับความสะดวก และลดต้นทุนการดำเนินงานของธนาคารได้ไปพร้อมกัน

โดยมี 3 Module (โมดูล) หลักประกอบด้วย 1.ด้านสินเชื่อ 2.ด้านการบริหารจัดการทรัพย์ด้อยคุณภาพ และ 3.Funding ภายใต้แผนยุทธศาสตร์ Fingers Strategy คือ ให้ประชาชนจะรู้จัก ธอส. เข้าถึงใช้จริง บอกต่อ และเกิด loyalty กับธนาคาร

Module ด้านสินเชื่อ-ประเมินราคาที่อยู่อาศัยได้รวดเร็ว

ลูกค้าสามารถรู้จักและเข้าถึง ธอส.ได้ด้วย Application GHB ALL GEN ถือเป็น Application ใหม่ที่ธนาคารได้พัฒนาขึ้นมาด้วยงบลงทุนประมาณ 70 ล้านบาท เพื่อรองรับการใช้งานแทน Application GHB ALL เดิมที่ปัจจุบันมีลูกค้าสมัครและใช้บริการอยู่มากกว่า 1 ล้านคน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานให้ดียิ่งขึ้น และรองรับลูกค้าของ ธอส.ได้ทุกช่วงอายุของแต่ละวัย (Generation) ปัจจุบันการพัฒนาบริการเฟสที่ 1 เสร็จเรียบร้อยแล้ว และเริ่มเปิดให้พนักงานของธนาคารดาวน์โหลดเพื่อทดสอบใช้งานตั้งแต่วันที่ 27 กันยายน 2565 ก่อนที่จะเปิดให้ลูกค้าดาวน์โหลดใช้งานเฟสที่ 1 ได้ตั้งแต่วันที่ 26 ตุลาคม 2565

และเมื่อ GHB ALL GEN พัฒนาได้สมบูรณ์ทุกบริการแล้ว จะทำให้ลูกค้าเข้าถึง ธอส. ได้สะดวกยิ่งขึ้นโดยสามารถปรึกษากับพนักงานสินเชื่อ Digital LO(Loan Officer) ได้เสมือนเดินทางไปที่สาขา โดยธนาคารจะถ่ายโอนลูกค้าให้ย้าย Application GHB ALL ไปสู่ GHB ALL GEN ให้ได้ทั้งหมดจนถึงวันที่ 31 มีนาคม 2566 ซึ่งในขณะนั้นบริการต่างๆ ใน GHB ALL GEN จะให้บริการได้อย่างเต็มรูปแบบ

"การนำ Data Analytic ทางด้านการประเมินราคาที่อยู่อาศัยมาพัฒนาระบบ Digital Appraisal ทำให้ "ลูกค้าทราบราคาประเมินบ้าน" เบื้องต้นได้ทันที ในขณะยื่นกู้กับเจ้าหน้าที่ โดยราคาจะเบี่ยงเบนจากราคาหลังเจ้าหน้าที่เข้าประเมินจริงไม่เกินร้อยละ 8 จากเดิมต้องรอให้เจ้าหน้าที่ลงสำรวจที่อยู่อาศัยจริง ซึ่งจะทำให้ผู้กู้ทราบราคาประเมินอย่างเป็นทางการได้ในระยะเวลา 3-7 วันหลังยื่นเอกสารคำขอกู้"

เมื่อเรื่องเข้าสู่กระบวนการพิจารณาสินเชื่อ ธนาคารจะมีการแจ้งเตือนผลการพิจารณาผ่าน Notification ของ GHB BUDDY บน Line Application โดยกระบวนการแบบดิจิทัลข้างต้น กรณีที่ลูกค้ามีเอกสารประกอบการยื่นกู้ให้เจ้าหน้าที่ได้ครบถ้วน ลูกค้าทราบผลการพิจารณาภายใน 3 วันทำการ และลูกค้ายังสามารถเซ็นสัญญาเงินกู้แบบอิเล็กทรอนิกส์แทนการลงนามรูปแบบกระดาษได้ด้วย e-Contract ซึ่งธนาคารจะโอนเงินกู้ค่าซื้อที่อยู่อาศัยเข้าบัญชีเงินฝากของผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์แทนการจัดทำแคชเชียร์เช็ค ทำให้ผู้ขายไม่ต้องเสียเวลาและลดขั้นตอนนำแคชเชียร์เช็คที่ได้รับจากผู้ซื้อไปขึ้นเงินเหมือนที่ผ่านมา

และหลังทำนิติกรรมการโอนและจดจำนองที่กรมที่ดินเรียบร้อยแล้ว ลูกค้ารับโฉนดที่ดินฉบับจริงกลับบ้านได้ทันที ด้วยโครงการจัดเก็บ Electronic File แทนเอกสารสิทธิต้นฉบับ (ไม่เก็บโฉนด)

Module ด้านการบริหารจัดการทรัพย์ด้อยคุณภาพ

ปัจจุบัน ธนาคารได้พัฒนา Application : GHB ALL BFRIEND เพื่อให้บริการลูกค้าที่ประสบปัญหาในการผ่อนชำระสินเชื่อบ้าน ให้ได้รับทางเลือกและเงื่อนไขการชำระหนี้ที่เหมาะสมกับปัญหา โดยเริ่มเปิดให้ลูกค้าดาวน์โหลดได้ตั้งแต่วันที่ 15 ส.ค.ที่ผ่านมา และยังอยู่ระหว่างการพัฒนา Application : GHB ALL HOME ให้มีครบทุกความต้องการเรื่องบ้านมือสอง ธอส. ที่พัฒนาต่อยอดจาก Application GHBank Smart NPA สามารถให้บริการได้หลากหลายยิ่งขึ้น และมีกำหนดเปิดให้ลูกค้าดาวน์โหลดใช้งานได้ภายในเดือน ต.ค.นี้

Module ด้าน funding

ปัจจุบัน ธอส. มีการระดมทุนผ่านหลายช่องทาง ทั้งเงินฝากแบบปกติที่มีสมุดบัญชี เงินฝากแบบอิเล็กทรอนิกส์ สลากออมทรัพย์ พันธบัตร อนุพันธ์ (Derivatives) ซึ่งต้องดำเนินการภายใต้การบริหารความเสี่ยงที่เหมาะสม เช่นเดียวกับการจัดทำสลากออมทรัพย์ ธอส. ที่มีความแตกต่างจากสลากของสถาบันการเงินอื่นในตลาด โดยในวันที่ 1 ต.ค.ที่ผ่านมา ธอส.ได้ออกสลากออมทรัพย์ชุดใหม่ คือ ชุดวิมานเมฆ PLUS มารองรับการครบกำหนดไถ่ถอนของสลากออมทรัพย์ชุดวิมานเมฆ หน่วยละ 1 ล้านบาท กรอบวงเงินรวม 27,000 ล้านบาท รวมถึงสลากชุดใหม่ประเภทอื่นที่รองรับลูกค้าใหม่ควบคู่กันกับลูกค้าเดิม
กำลังโหลดความคิดเห็น