ผู้บริหาร DRT มองตลาดวัสดุก่อสร้างโค้งท้ายปลายปีคึกคัก รับดีมานด์สินค้าขยายตัวต่อเนื่อง ชูช่องทางการจำหน่ายที่หลากหลายและการบริหาร Product Mix สู้ศึกต้นทุนการผลิต ชี้ลูกค้าโครงการอสังหาริมทรัพย์เติบโตต่อเนื่อง "เมกาโฮม" ในเครือโฮมโปร ปักหมุดสาขาฉะเชิงเทรา ทำเลเศรษฐกิจอีอีซี รองรับการขยายตัว และความต้องการด้านที่อยู่อาศัยที่เพิ่มมากขึ้น
นายสาธิต สุดบรรทัด ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ผลิตภัณฑ์ตราเพชร จำกัด (มหาชน) หรือ DRT ผู้ผลิตและจำหน่ายระบบหลังคา ไม้สังเคราะห์และบอร์ดไฟเบอร์ซีเมนต์ บอร์ดตกแต่งผนัง อิฐมวลเบา คานทับหลัง เคาน์เตอร์มวลเบาสำเร็จรูป ร้านกาแฟสำเร็จรูป (DIAMOND Cafe) และบริการติดตั้งโครงหลังคาและกระเบื้องหลังคา ภายใต้เครื่องหมายการค้า “ตราเพชร” กล่าวถึงแนวโน้มตลาดวัสดุก่อสร้างปลายปีนี้มีความคึกคัก จากความต้องการสินค้าที่เพิ่มขึ้นทั้งช่องทางจำหน่ายห้างค้าปลีกวัสดุก่อสร้างสมัยใหม่ที่มีแผนเปิดสาขาใหม่ รวมถึงกลุ่มลูกค้าผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ได้เร่งพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัย ทั้งบ้านเดี่ยว ทาวน์โฮมและคอนโดมิเนียมเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มผู้ประกอบการชั้นนำที่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์ฯ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นลูกค้าของ DRT ส่งผลให้มีความต้องการใช้สินค้าทั้งกลุ่มหลังคาและกลุ่มผนังเพิ่มขึ้น
ทั้งนี้ บริษัทฯ จะนำข้อได้เปรียบเชิงการแข่งขันด้านความหลากหลายผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์ ‘ตราเพชร’ ที่สามารถก่อสร้างบ้านได้ทั้งหลัง และการบริหาร Product Mix โดยมุ่งเพิ่มการขายสินค้าที่มีอัตราการทำกำไรต่อหน่วยที่ดีให้มากขึ้น พร้อมรักษาอัตราการเดินเครื่องจักรเฉลี่ยทั้งปีอยู่ที่ระดับ 80-90% เพื่อบริหารจัดการความเสี่ยงด้านต้นทุนการผลิตที่ยังทรงตัวในระดับสูง โดยคงเป้าหมายรักษาอัตราการทำกำไรขั้นต้นเฉลี่ย 27-29%
“การทำตลาดในช่วงที่เหลือของปีนี้ เราจะนำความแข็งแกร่งของ DRT ทั้งช่องทางจำหน่ายที่หลากหลายและประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเพื่อป้อนความต้องการของลูกค้า โดยเฉพาะลูกค้าโครงการที่มีความต้องการสินค้าเข้ามาอย่างต่อเนื่อง”
เมกา โฮมปักหมุดเปิดสาขาอีอีซี รับ ศก.-อสังหาฯ โต
นายวิเชียร เจียมวิจิตรกุล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท เมกา โฮม เซ็นเตอร์ จำกัด ศูนย์รวมวัสดุก่อสร้าง ถูก ดี ครบ จบทุกงานช่าง ในเครือโฮมโปร กล่าวถึงทิศทางตลาดวัสดุก่อสร้างครึ่งปีหลังว่า เริ่มกลับมาฟื้นตัว จากปัจจัยด้านอสังหาฯ ที่มีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง เพื่อรองรับกับพฤติกรรมของผู้บริโภคที่มองถึงที่อยู่อาศัยรอบนอกเมืองมากขึ้น ซึ่งในปีนี้ เมกาโฮมได้ขยายสาขาให้สอดรับกับความต้องการของตลาด ด้วยการเดินหน้าเปิดสาขาใหม่อย่างต่อเนื่อง รวมถึงการเปิด “เมกาโฮม ฉะเชิงเทรา” ซึ่งเป็นสาขาที่ 16 และเป็นอีกสาขาที่ตั้งอยู่บนเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) ต่อจากสาขาพัทยา ซึ่งเป็นทำเลที่มีศักยภาพการเติบโตที่ดีทั้งในด้านที่อยู่อาศัยและเศรษฐกิจ
เมกาโฮม ฉะเชิงเทรา สาขาที่ 16 ได้เปิดบริการแล้ว ภายใต้งบประมาณกว่า 479 ล้านบาท บนพื้นที่ขาย 8,742 ตารางเมตร นำเสนอการออกแบบอาคารเปิดให้เห็นพื้นที่ของสินค้า วัสดุคุณภาพดีอย่างครบวงจร ตอบโจทย์ช่างรุ่นใหม่ กลุ่มผู้รับเหมา เจ้าของโครงการ ร้านค้าปลีก รวมถึงคนรักบ้าน ครอบคลุมพื้นที่บริการ 20 กิโลเมตรในจังหวัดฉะเชิงเทรา
พร้อมกับจัดโปรโมชันพิเศษให้สมาชิกโฮมการ์ดในการซื้อสินค้า และพิเศษเฉพาะช่าง ผู้รับเหมา เจ้าของโครงการ กับการเปิดสาขา เมกาโฮม ฉะเชิงเทรา พบกับสินค้าราคาพิเศษลดทั้งร้าน และโปรแรงเพื่อช่าง สมาชิกช่าง ลดทันที 3% รับฟรี 3 คุ้มพร้อมความพิเศษที่ช่างต้องไม่พลาด เพียงสะสมยอดซื้อต่อเนื่องครบ 3 เดือน รับทองหนัก 1 สลึง ฟรี! สมัครก่อน รับสิทธิก่อน สมาชิกบัตรช่างที่ เมกาโฮม ฉะเชิงเทรา หรือรู้จักช่าง แนะนำช่าง ให้เมกาโฮม รับคูปองส่วนลด 100 บาท ยิ่งแนะนำ ยิ่งได้ ทั้งคุณ ทั้งช่าง
ซีอาร์ซี ไทวัสดุ เร่งปลุกกำลังซื้อปลายปี
นายสุทธิสาร จิราธิวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซีอาร์ซี ไทวัสดุ จำกัด ในเครือเซ็นทรัล รีเทล กล่าวว่า ถึงแม้ว่าสถานการณ์เงินเฟ้อจะส่งผลให้ผู้บริโภคระมัดระวังในการใช้จ่าย แต่สินค้าในกลุ่มสินค้าตกแต่งบ้าน สุขภัณฑ์ ห้องครัว ห้องน้ำ และเครื่องใช้ไฟฟ้ายังถือว่าเป็นสินค้าจำเป็น ส่งผลให้แนวโน้มตลาดสินค้าตกแต่งบ้าน สุขภัณฑ์ ห้องครัว ห้องน้ำ และเครื่องใช้ไฟฟ้า ปี 2565 มีการเติบโตต่อเนื่อง สอดคล้องกับพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป ใช้ชีวิตอยู่กับบ้าน และมีกิจกรรมภายในบ้านมากขึ้น ประกอบกับทิศทางของตลาดอสังหาฯ ครึ่งปีหลังมีแนวโน้มฟื้นตัว จากความร่วมมือทั้งภาครัฐและเอกชนที่กระตุ้นให้มีการซื้อขายอสังหาฯ จึงทำให้สินค้าในกลุ่มสินค้าเพื่อบ้านยังเป็นที่ต้องการในตลาดอย่างต่อเนื่อง
เพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจและยอดขายก่อนปิดปี 2565 ซีอาร์ซี ไทวัสดุ ได้กำหนดจัดงาน BnB home EXPO 2022 ในวันที่ 30 กันยายน-9 ตุลาคม 2565 ซึ่งการจัดงานในปลายปีครั้งนี้ สถานการณ์ทางเศรษฐกิจมีแนวโน้มกลับเข้าสู่ภาวะปกติ จะเป็นปัจจัยบวกส่งเสริมให้ลูกค้าเข้ามาเดินชมงาน และจับจ่ายใช้สอยกันมากขึ้น คาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมงานกว่า 200,000 คน มียอดเงินสะพัดภายในงานกว่า 400 ล้านบาท