“เอพี” รุกบ้านลักชัวรีใจกลางเมือง เปิดตัว “บ้านกลางเมือง คลาสเซ่ สุขุมวิท 77” แฟล็กชิปทาวน์โฮมลักชัวรีใจกลางเมืองรูปแบบใหม่ พลิกทุกมิติการพัฒนาบนทำเลสุขุมวิท 77 เปิดราคา 14.9-25 ล้านบาท มูลค่ารวมโครงการ 1,750 ล้านบาท เผยรายได้รวม 8 เดือน 34,636 ล้านบาท แจงยอดขายรอรับรู้รายได้ในมือ 38,310 ล้านบาท คาดรับรู้ในปีนี้ 5,916 ล้านบาท
นายเมธา รักธรรม รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานพัฒนาธุรกิจกลุ่มสินค้าทาวน์โฮม บริษัท เอพี ไทยแลนด์ ประเทศไทย จำกัด (มหาชน) หรือ AP กล่าวว่า เตรียม เปิดพรีเซลบ้านกลางเมือง คลาสเซ่ ‘ลักชัวรีเรสซิเดนซ์ใจกลางเมือง’ อย่างเป็นทางการในวันที่ 8-9 ต.ค.นี้ สำหรับแบรนด์บ้านกลางเมืองคลาสเซ่ เป็นการกลับมาทำตลาดบ้านลักชัวรีของเอพีฯ ในรอบ 7 ปี ถือว่าเป็นโครงการแฟล็กชิปบ้านระดับลักชัวรีใจกลางทำเลสุขุมวิท 77
โดยเอพีได้นำที่ดินกว่า 21 ไร่ ในย่านใจกลางเมืองมพัฒนาโครงการลักชัวรี เพราะเห็นถึงดีมานด์ครอบครัวเมืองเซกเมนต์ลักชัวรี 2 กลุ่มหลักคือ กลุ่มผู้ประกอบการยุคใหม่ Young Startups และกลุ่มครอบครัวนักธุรกิจ Business Successors ที่ประสบความสำเร็จ และมองหาบ้านลักชัวรีที่ตอบรับเทรนด์การใช้ชีวิตรูปแบบใหม่ใจกลางเมือง ทั้งนี้ หากย้อนดูภาพรวมตลาดแนวราบในทำเลสุขุมวิท 77 ย้อนหลัง 7 ปี จะเห็นช่องว่างตลาดบ้านในกลุ่มเซกเมนต์ลักชัวรี ระดับราคาขาย 10-20 ล้านบาท ไม่พบการเปิดขายโครงการใหม่ในย่านนี้ ดังนั้น เอพีฯ จึงเข้ามาบุกเบิกพัฒนาโครงการภายใต้แบรนด์ ‘บ้านกลางเมือง คลาสเซ่’ โดยชูจุดขายความลักชัวรีนิยามใหม่ พลิกทุกมิติการพัฒนา นำเสนอสเปซฟังก์ชันตอบรับวิถีชีวิตยุคใหม่ ในแพกเกจราคาขายที่ดีที่สุดตรงกับสิ่งที่ลูกค้ามองหา
นายเมธา กล่าวว่า บ้านกลางเมือง คลาสเซ่ สุขุมวิท 77 แฟล็กชิปบ้านระดับลักชัวรีใจกลางเมืองที่ ออกแบบภายใต้คอนเซ็ปต์ “Re - Envision Your Luxury Living” รังสรรค์ด้วยความเข้าใจถึงอินไซต์ความต้องการ และไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิต ตอบโจทย์ความเป็นปัจเจกของลูกค้าคนเมืองยุคใหม่ สะท้อนให้เห็นในทุกรายละเอียด ผ่าน 3 มิติ ความโดดเด่น ได้แก่ มิติที่ 1 - A New Twist of Vertical Design บริบทใหม่ของการออกแบบพื้นที่ชีวิตแนวตั้งเล่นระดับ ตอบอินไซต์การใช้ชีวิตที่แตกต่างกันของลูกค้า นำเสนอบ้านดีไซน์พิเศษซีรีส์ใหม่ 2 สไตล์ความโดดเด่นที่เลือกเองได้ ได้แก่ Eclectic Modern Series และ Legacy Classic Series ชูเอกลักษณ์สถาปัตยกรรมสไตล์โมเดิร์นเหนือกาลเวลา โดยแบบบ้านทาวน์โฮม
มิติที่ 2 - Elegance of Nature Connection พื้นที่ส่วนกลางอีกหนึ่งเสน่ห์ของโครงการ การออกแบบอย่างพิถีพิถันให้สามารถใช้งานพื้นที่ Indoor และ Outdoor ได้จริงทุกช่วงเวลา และ มิติที่ 3 - A Superior Prime CBD Location บ้านลักชัวรีใจกลางเมืองเพียงหนึ่งเดียวบนทำเลใจกลางสุขุมวิท 77 เชื่อมต่อถนนสุขุมวิท ใกล้รถไฟฟ้าและทางด่วน ใกล้แลนด์มาร์กศูนย์กลางธุรกิจสำคัญ
“สำหรับแฟล็กชิปแรก บ้านกลางเมือง คลาสเซ่ สุขุมวิท 77 ตั้งอยู่บนที่ดินขนาด 20-2-6.5 ไร่ มูลค่าโครงการ 1,750 ล้านบาท เอกสิทธิ์พิเศษเพียง 120 เรสซิเดนซ์ บ้านลักชัวรีนิยามใหม่ใจกลางสุขุมวิท นำเสนอแบบบ้านดีไซน์พิเศษในรูปแบบลักชัวรีทาวน์โฮมและบ้านแฝด ที่มาพร้อมแบบบ้าน 2 ซีรีส์ คือ Eclectic Modern Series ทาวน์โฮมดีไซน์เล่นระดับ 3.5 ชั้น และ 3 ชั้น หน้ากว้าง 6-8 เมตร ที่ดินเริ่มต้น 24-32 ตารางวา พื้นที่ใช้สอย 190-259 ตารางเมตร และ Legacy Classic Series ทาวน์โฮมและบ้านแฝดหลังใหญ่ 3 ชั้น หน้ากว้าง 10 เมตร ที่ดินเริ่มต้น 30 ตารางวา พื้นที่ใช้สอย 214-228 ตารางเมตร และบ้านแฝดหลังใหญ่ 3 ชั้น หน้ากว้าง 13.4 เมตร ที่ดินเริ่มต้น 40 ตารางวา พื้นที่ใช้สอย 241 ตารางเมตร ฟังก์ชันสูงสุด 4 ห้องนอน” นายเมธา กล่าวเสริม
“ตลาดอสังหาฯ แนวราบไตรมาสสุดท้ายของปี เอพีมองว่าแนวโน้มการตอบรับจากลูกค้ายังคงดีต่อเนื่อง และสามารถสร้างการเติบโตไปได้อีก สะท้อนจากยอดขายแนวราบเครือเอพี ในช่วง 8 เดือนที่ผ่านมา ซึ่งสามารถสร้างยอดขาย 26,840 ล้านบาท เติบโต 25% จากปีก่อนหน้า และคิดเป็น 70% ของเป้ายอดขายแนวราบทั้งปีซึ่งตั้งเป้าว่าจะมียอดขาย 38,000 ล้านบาท ซึ่งการันตีถึงดีมานด์ลูกค้าที่มองหาบ้านแนวราบหลังใหม่ที่มีต่อเนื่องในทุกเซกเมนต์ และมั่นใจว่าการบุกตลาดบ้านลักชัวรี ผ่านการนำแบรนด์ ‘บ้านกลางเมือง คลาสเซ่’ จะเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญของการนำสินค้าแนวราบเครือเอพี สู่การสร้างมาตรฐานใหม่ให้วงการ”
สำหรับความคืบหน้าด้านยอดขายและรายได้ของเอพีฯ ณ วันที่ 31 ส.ค.65 เอพีฯสามารถสร้างยอดขายรวมได้แล้ว 34,636 ล้านบาท เติบโต 49% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยแบ่งเป็นยอดขายจากสินค้าแนวราบมูลค่า 26,838 ล้านบาท เติบโต 25% จากปีก่อน และคอนโดมิเนียมมูลค่า 7,798 ล้านบาทโต 345% จากปีก่อน ขณะเดียวกัน เอพีฯ มียอดขายรอรับรู้รายได้ (Backlog) ในมือแล้ว 38,310 ล้านบาท แบ่งเป็น Backlog จากสินค้าแนวราบ 19,270 ล้านบาท ส่วนใหญ่รับรู้ในปีนี้ และ Backlog จากสินค้าแนวสูงรวมโครงการร่วมทุน 19,039 ล้านบาท และคาดว่าจะทยอยรับรู้รายได้ในปีนี้ 5,916 ล้านบาท
