หลังจากสงบราบคาบ พักปรับฐานไปพักใหญ่ หุ้นบริษัท ดิทโต้ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ DITTO หุ้นบริษัทจดทะเบียนในตลาด MAI ได้พุ่งทะยาน กลับสู่ความร้อนแรงอีกครั้ง ราคาพุ่งขึ้น 7 วันทำการติดต่อ
และไม่มีข่าวถึงพัฒนาการด้านการดำเนินงานที่มีนัยแต่อย่างใด
จากราคาปิดที่ 56.75 บาท เมื่อวันที่ 2 กันยายนที่ผ่านมา เข้าสู่ขาขึ้นม้วนเดียว จนวันที่ 13 กันยายนขึ้นมาปิดที่ 78 บาท เพิ่มขึ้นอีก 3 บาท
รวม 7 วันทำการปรับตัวเพิ่มขึ้น 21.25 บาท หรือเพิ่มขึ้น 37.44%
ในรอบ 12 เดือน DITTO เคยขึ้นไปสูงสุดที่ 94 บาท ก่อนจะปรับฐานลงมาต่ำสุดที่ 47.25 บาท เมื่อวันที่ 15 กรกฎาคมที่ผ่านมา และเริ่มกระเตื้องขึ้น จนย่ำฐานแถว 50 บาทเศษพักหนึ่ง ก่อนถูกกระชากขึ้นมาใหม่ จนราคาห่างจากจุดสูงสุดเดิมไม่เท่าไหร่
และหากยังร้อนต่อ มีสิทธิที่จะสร้างสถิติสูงสุดนับจากเข้าจดทะเบียนในตลาด MAI เมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม 2564 หลังจากนำหุ้นเสนอขายนักลงทุนทั่วไปเป็นครั้งแรกที่ราคาเพียง 7.50 บาท
DITTO ประกอบธุรกิจจำหน่ายและให้บริการด้านระบบบริหารจัดการเอกสาร เครื่องถ่ายเอกสารและเครื่องพิมพ์อย่างครบวงจร รวมทั้งรับเหมาวิศวกรรมด้านเทคโนโลยีสำหรับโครงการของหน่วยราชการต่างๆ
ผลประกอบการงวด 6 เดือนแรกปีนี้ออกมาดี มีกำไรสุทธิ 121.63 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากระเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 79.79 ล้านบาท โดยราคาหุ้นซึมซับรับผลประกอบการที่ประกาศเมื่อวันที่ 15 สิงหาคมที่ผ่านมาในระดับหนึ่งแล้ว
แต่ราคาที่ร้อนจัดขึ้นมานับจากต้นสัปดาห์ก่อน น่าจะเกิดจากการคาดหมายแนวโน้มผลประกอบการของบริษัทที่เติบโตต่อเนื่อง
อย่างไรก็ตาม การวิ่งขึ้นรอบใหม่ DITTO ผ่านไฟเขียวมาตลอด จนค่าพี/อี เรโชขยับขึ้นมากว่า 170 เท่า และจัดว่าเป็นหุ้นที่มีค่าพี/อี เรโชสูง แต่เพราะคววาคาดหวังผลกำไรที่เติบโต จะฉุดให้ค่าพี/อี เรโชลดลง จึงมีการไล่ซื้อหุ้นเก็งกำไร
นักลงทุนรายใหญ่หลายรายเข้าไปเก็บหุ้น DITTO ในราคาต้นทุนต่ำไว้ล่วงหน้าแล้ว ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มเซียนฮง หรือนายสถาพร งามเรืองพงศ์ โดยถือหุ้นในสัดส่วนรวมกันประมาณ 10% ของทุนจดทะเบียน และนายสมพงษ์ ชลคดีดำรงกุล หรือเสี่ยปู่ ซึ่งถือหุ้นในสัดส่วน 3.47% ของทุนจดทะเบียน
ส่วนจำนวนผู้ถือหุ้นรายย่อยยังไม่มากนัก โดยเมื่อปิดสมุดทะเบียนผู้ถือหุ้นวันที่ 16 มีนาคม 2565 จำนวนผู้ถือหุ้นรายย่อยมีทั้งสิ้น 2,165 ราย ถือหุ้นรวมกันสัดส่วน 47.44% แต่จำนวนผู้ถือหุ้นรายย่อยปัจจุบันอาจเพิ่มมากขึ้น
ผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับหนึ่งคือ กลุ่มนายธีระชัย รัตนกมลพร ถือหุ้นรวมกันประมาณ 50% ของทุนจดทะเบียน
จุดสูงสุดเดิมที่ 94 บาท ถ้า DITTO จะตีฝ่า เพื่อสร้างสถิติใหม่ ราคาหุ้นจะต้องพุ่งขึ้นกว่า 16 บาท หรืออีกกว่า 20% จากราคาปิดล่าสุด แต่ราคาล่าสุดถือว่ามาแรงและมาไกล จนเป็นราคาที่ต้องซื้อกันด้วยความคาดหวังการเติบโตของผลประกอบการในอนาคต
ราคา DITTO วันนี้ ถ้าจะตามแห่เข้าไปลุย ต้องพร้อมสำหรับการถือระยะยาว พร้อมจะถือเพื่อรอคอยผลประกอบการที่คาดหวังว่าจะเติบโตต่อเนื่อง
แต่สำหรับนักเก็งกำไรระยะสั้นอาจต้องระวังความเสี่ยง เพราะถ้าภาวะตลาดหุ้นไม่เป็นใจ DITTO อาจไปต่อไหว ต้องหยุดพักเหนื่อยบ้างเหมือนกัน