แม้มีข่าวร้ายรอบด้าน แต่ตลาดหุ้นสามารถตีฝ่าแนวต้านระดับ 1,650 จุดมาได้อย่างพลิกความคาดหมาย เพียงแต่มีคำถามว่า แนวโน้มดัชนีจะเคลื่อนไหวไปทิศทางไหนต่อ
นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ โบรกเกอร์แทบจะทุกสำนักประเมินว่า หุ้นระยะสั้นมีความผันผวนสูง และแม้ขึ้นมาแตะระดับ 1,650 จุดได้ แต่เดินหน้าต่อไปได้อีกไม่ไกล
เพราะไม่มีข่าวดีสนับสนุน ขณะที่ปัจจัยลบรุมเร้ามากมาย ทั้งจากปัจจัยภายนอก โดยเฉพาะการขึ้นดอกเบี้ยครั้งต่อไปของธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือเฟด ในการประชุมระหว่างวันที่ 20-21 กันยายนนี้ ซึ่งคาดว่าจะขึ้นอัตรา 0.75% และไม่เพียงจะทำให้เศรษฐกิจทั่วโลกเข้าสู่ภาวะถดถอยเท่านั้น
แต่จะกระตุ้นให้เงินทุนไหลออก เพราะความแตกต่างระหว่างดอกเบี้ยในประเทศกับอัตราดอกเบี้ยสหรัฐฯ โดยนักลงทุนต่างชาติอาจชะลอการซื้อหุ้น หรือขายหุ้นขนเงินกลับ
นอกจากนั้น สถานการณ์การเมืองภายในประเทศยังมีความไม่แน่นอน โดยนักลงทุนเฝ้าจับตาปม 8 ปีการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ซึ่งอาจนำไปสู่การเปลี่ยนรัฐบาล
ช่วงนี้มีอะไรที่ผิดความคาดหมายเกิดขึ้นหลายอย่าง ดัชนีที่กูรูหุ้นมองกันว่าไม่น่าจะผ่านแนวต้าน 1,650 จุดได้ เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมากลับผ่านฉลุย โดยปิดที่ 1,654.62 จุด เพิ่มขึ้น 14.62 จุด
ส่วนนักลงทุนต่างชาติที่มองกันว่า จะชะลอการซื้อขายหรือเริ่มทยอยขายหุ้น เมื่อวันศุกร์กลับซื้อสุทธิ 1,299.52 ล้านบาท โดยเป็นผู้ซื้อรายใหญ่ และผลักดันให้ดัชนีเดินหน้าต่อ
การที่ตลาดหุ้นกลับสู่ความคึกคักได้ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะตลาดหุ้นสหรัฐฯ กระเตื้องขึ้น โดยเฉพาะดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ที่ฟื้นตัว ส่งผลจิตวิทยาเชิงบวกต่อตลาดหุ้นทั่วโลก
แต่อีกส่วนหนึ่งเป็นเพราะการขับเคลื่อนของหุ้นเพียงตัวเดียวคือ หุ้นบริษัท เดลต้า อิเล็คโทรนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ DELTA
DELTA วิ่งเป็นม้าพยศ 3 วันติด จากราคาปิดที่ 518 บาท เมื่อวัน 6 กันยายนที่ผ่านมา ทะยานขึ้นมาปิดที่ 668 บาท ในวันที่ 9 กันยายน เพิ่มขึ้น 150 บาท หรือเพิ่มขึ้น 28.95%
มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด หรือมาร์เกตแคป DELTA อยู่ที่ 833,250.92 ล้านบาท หรือมีสัดส่วน 4.18% ของมูลค่าหลักทรัพย์ตลาดรวม ซึ่งมีจำนวน 19.97 ล้านล้านบาท
น้ำหนักในการคำนวณดัชนีของ DELTA อยู่ที่ 69.16 จุด การปรับตัวขึ้นของหุ้น DELTA ในระหว่างวันที่ 7-9 กันยายน จึงดึงดัชนีขึ้นมาประมาณ 20.20 จุด
ถ้า DELTA ไม่ดีดตัวขึ้นอย่างร้อนแรง โดยตลอด 3 วันทำการก่อนหน้าราคาย่ำอยู่ที่เดิม วันนี้ดัชนียังยืนอยู่แถว 1,634 จุดเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม ดัชนีได้ก้าวพ้นแนวต้านสำคัญมา เมื่อมีแรงหนุนจากดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ที่กระเตื้องขึ้น อาจขับเคลื่อนให้หุ้นเดินหน้าต่อ มีโอกาสแตะจุดสูงสุดในรอบก่อนที่ระดับ 1,660 จุดเศษได้
แต่โบรกเกอร์ไม่ได้ฟันธงว่า ตลาดกำลังกลับตัวเข้าสู่ขาขึ้น และยังส่งสัญญาณเตือนให้นักลงทุนระวังความเสี่ยงอยู่ เพราะเพดานขาขึ้นแคบลงทุกที เนื่องจากไม่มีข่าวดีที่เป็นรูปธรรมสนับสนุน
นักลงทุนรายย่อยดูเหมือนว่าจะประเมินทิศทางตลาดได้ดี โดยขายหุ้นออกในจังหวะที่หุ้นขึ้น ซึ่งเชื่อว่าถ้าหุ้นยังเดินหน้าต่อ นักลงทุนจะเทขายหุ้นในปริมาณที่มากขึ้น
เพราะโอกาสที่รอบนี้จะวิ่งไปจนชน 1,700 จุดแทบไม่มี ดังนั้นดัชนีที่ทะลุ 1,650 จุด นักลงทุนรายย่อยจึงเห็นเป็นจังหวะขาย
หุ้นจะไปต่อได้มีเพียงเงื่อนไขเดียว ต่างชาติต้องซื้อ และซื้อหนักๆ ด้วย เพราะรายย่อยคงปักหลักขายลูกเดียว