หุ้นไทยปิดตลาดพลิกกลับ +0.08 จุด หลังไม่มีปัจจัยบวกเข้าหนุน และนักลงทุนเทขายหุ้นเพื่อรอฟังผลการประชุมธนาคารกลางยุโรป ในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% เพื่อต่อสู้กับวิกฤตเงินเฟ้อ รวมถึงท่าทีของประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ที่จะแถลงออกมา ซึ่งอาจส่งผลต่อแนวโน้มดัชนีตลาด พร้อมประเมินกรอบการลงทุนวันศุกร์สุดสัปดาห์พรุ่งนี้แนวรับที่ 1,625-1,630 จุด และแนวต้านที่ 1,660-1,665 จุด
ตลาดหุ้นไทยปิดทำการซื้อขายวันที่ 8 กันยายน 2565 พลิกปิดตลาดในแนวบวก +0.08 จุด หรือ +0.00% โดยปิดตลาดที่ 1,640.00 จุด มูลค่าการซื้อขาย 76,667.56 ล้านบาท โดยภาพรวมการซื้อขายในวันนี้ ดัชนีปรับตัวขึ้นในช่วงเช้า ก่อนที่จะแกว่งตัวไซด์เวย์สลับทั้งแนวบวกและแนวลบในช่วงบ่าย โดยระหว่างวันปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 1,649.17 จุด ขณะเดียวกันก็ปรับตัวลดลงระดับต่ำสุดที่ 1,636.33 จุด
ขณะที่หลักทรัพย์ที่มีการเปลี่ยนแปลงในวันนี้เพิ่มขึ้นจำนวน 656 หลักทรัพย์ ไม่เปลี่ยนแปลงจำนวน 576 หลักทรัพย์ และปรับตัวลดลงจำนวน 1,021 หลักทรัพย์
ด้านปริมาณการซื้อขายจำแนกตามกลุ่มนักลงทุนพบว่า นักลงทุนต่างประเทศ ขายสุทธิกว่า -1,439.27 ล้านบาท ในทางกลับกันพบว่า นักลงทุนในประเทศซื้อสุทธิกว่า +95.70 ล้านบาท บัญชี บล. ซื้อสุทธิกว่า +903.21 ล้านบาท และ นักลงทุนสถาบันซื้อสุทธิกว่า +440.35 ล้านบาท
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์
1.DELTA มูลค่าการซื้อขาย 3,823.28 ล้านบาท ปิดที่ 604.00 บาท เพิ่มขึ้น 32.00 บาท
2.PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 2,773.51 ล้านบาท ปิดที่ 160.00 บาท ลดลง 5.00 บาท
3.PTT มูลค่าการซื้อขาย 2,455.94 ล้านบาท ปิดที่ 36.25 บาท ลดลง 0.75 บาท
4.GULF มูลค่าการซื้อขาย 2,298.88 ล้านบาท ปิดที่ 55.50 บาท ลดลง 0.50 บาท
5.EA มูลค่าการซื้อขาย 2,272.45 ล้านบาท ปิดที่ 86.00 บาท ลดลง 0.50 บาท
ด้านดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวบวกเพิ่มขึ้นมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1.BH ปิดที่ 225.00 บาท เพิ่มขึ้น 7.00 บาทหรือ 3.21%
2.GPSC (XD) ปิดที่69.00 บาท เพิ่มขึ้น 2.50 บาทหรือ 3.76%
3.BGRIM ปิดที่37.75 บาท เพิ่มขึ้น 1.50 บาทหรือ 4.14%
4.SCGP ปิดที่55.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.25 บาทหรือ 2.33%
5.CRC ปิดที่ 40.50 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาทหรือ 2.53 %
ส่วนดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวลดลงมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1. PTTEP ปิดที่ 160.00 บาท ลดลง 5.00 บาท หรือ 3.03%
2.TOP ปิดที่ 55.25 บาท ลดลง 2.00 บาท หรือ 3.49%
3.ESSO ปิดที่ 13.10 บาท ลดลง 1.00 บาท หรือ 7.09%
4.MINT ปิดที่ 30.00 บาท ลดลง 1.00 บาท หรือ 3.23%
5.BBL ( XD) ปิดที่ 133.00 บาท ลดลง 1.00 บาท หรือ 0.75%
ส่วนดัชนี SET100 ปิดที่ 2,236.50 จุด ลดลง -4.26 จุด หรือ -0.19% ดัชนี SET50 ปิดที่ 987.49 จุด ลดลง -1.84 จุด หรือ -0.19% และดัชนีตลาด mai ปิดที่ 669.70 จุด เพิ่มขึ้น 6.51 จุด หรือ 0.98%
นายชัยพร น้อมพิทักษ์เจริญ รองกรรมการผู้จัดการสายงานค้าหลักทรัพย์บุคคล บล.บัวหลวง กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ช่วงเช้าดีดขึ้นมาได้ดีก่อนจะค่อยๆ ย่อตัวลงมาแกว่งไซด์เวย์บวกสลับลบในช่วงบ่าย จากแรงขายทำกำไรลดความเสี่ยงก่อนที่คืนนี้จะมีปัจจัยสำคัญต่อตลาด ได้แก่ การประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB) ซึ่งตลาดคาดว่ามีโอกาสจะปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.75% เพื่อสู้กับเงินเฟ้อ รวมถึงรอติดตามถ้อยแถลงของประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด)
ขณะเดียวกันยังมีปัจจัยกดดันส่วนหนึ่งมาจากกลุ่มพลังงาน หลังจากราคาน้ำมันยังมีทิศทางปรับตัวลงต่อ ส่งผลกดดันดัชนีในช่วงบ่ายนี้ แต่ภาพรวมยังสามารถยืนบวกได้เล็กน้อย ส่วนตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียส่วนใหญ่วันนี้ปรับตัวเพิ่มขึ้นรับปัจจัยหนุนเงินดอลลาร์สหรัฐฯ อ่อนค่าลงมาเล็กน้อย และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ (Bind yield) ย่อตัวลง
ส่วนแนวโน้มตลาดหุ้นไทยพรุ่งนี้คาดว่าแกว่งไซด์เวย์ คืนนี้เกาะติดการประชุม ECB หากออกมาเป็นไปตามตลาดคาดจะแกว่งตัวไซด์เวย์ต่อ แต่มองดัชนีตลาดหุ้นไทยตอนนี้อัพไซด์เริ่มจำกัดทำให้ไปต่อค่อนข้างยาก และนักลงทุนต่างชาติยังคงขายออกมาต่อเนื่อง ทำให้แรงหนุนดัชนีที่ส่งผลอย่างมีนัยสำคัญยังมีไม่มาก โดยมองกรอบการลงทุนแนวต้านที่ 1,660-1,665 จุด แนวรับ 1,625-1,630 จุด