หุ้นไทยปิดพุ่ง +11.87 จุด โบรกฯ มองแรงซื้อไหลเข้าหุ้นกลุ่มพลังงาน โดยเฉพาะ GULF ที่ขึ้นมาแรงและหนุนน้ำหนักต่อดัชนี หลังหุ้นกลุ่มพลังงานปรับตัวขึ้นตอบรับผลการประชุมกลุ่มโอเปกพลัส ลงมติปรับลดกำลังการผลิตเดือน ต.ค. ประมาณ 1 แสนบาร์เรล/วัน หนุนให้ราคาน้ำมันปรับตัวขึ้นได้ต่อ มองกรอบการลงทุนวันพรุ่งนี้เคลื่อนไหวแนวรับที่ 1,600-1,620 จุด
ตลาดหุ้นไทยปิดทำการซื้อขายวันที่ 6 กันยายน 2565 ปรับตัวเพิ่มขึ้น +11.87 จุด หรือ +0.73% โดยปิดตลาดที่ 1,633.87 จุด มูลค่าการซื้อขาย 70,060.33 ล้านบาท โดยภาพรวมการซื้อขายวันนี้ ดัชนีผันผวนในแดนบวกตลอดทั้งวัน โดยระหว่างวันปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 1,636.70 จุด ขณะเดียวกันปรับตัวลดลงต่ำสุดที่ 1,624.92 จุด
ขณะที่หลักทรัพย์ที่มีการเปลี่ยนแปลงในวันนี้เพิ่มขึ้น จำนวน 882 หลักทรัพย์ ไม่เปลี่ยนแปลง จำนวน 560 หลักทรัพย์ และปรับตัวลดลง จำนวน 759 หลักทรัพย์
ด้านปริมาณการซื้อขายจำแนกตามกลุ่มนักลงทุน พบว่า นักลงทุนสถาบันซื้อสุทธิกว่า +2,807.02 ล้านบาท และบัญชี บล. ซื้อสุทธิกว่า +4.75 ล้านบาท ในทางกลับกัน พบว่า นักลงทุนในประเทศขายสุทธิกว่า -2,552.64 ล้านบาท และนักลงทุนต่างประเทศขายสุทธิกว่า -259.14 ล้านบาท
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์
1.GULF มูลค่าการซื้อขาย 6,108.83 ล้านบาท ปิดที่ 56.00 บาท เพิ่มขึ้น 5.00 บาท
2.BANPU มูลค่าการซื้อขาย 3,470.19 ล้านบาท ปิดที่ 14.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.20 บาท
3.EA มูลค่าการซื้อขาย 2,413.73 ล้านบาท ปิดที่ 86.50 บาท เพิ่มขึ้น 3.75 บาท
4.SCB มูลค่าการซื้อขาย 2,107.45 ล้านบาท ปิดที่ 111.50 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง
5.PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 1,870.78 ล้านบาท ปิดที่ 165.50 บาท ลดลง 1.50 บาท
ด้านดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวบวกเพิ่มขึ้นมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1.GULF ปิดที่ 56.00 บาท เพิ่มขึ้น 5.00 บาท หรือ 9.80%
2.EA ปิดที่ 86.50 บาท เพิ่มขึ้น 3.75 บาท หรือ 4.53%
3.INTUCH ปิดที่ 75.00 บาท เพิ่มขึ้น 3.25 บาท หรือ 4.53%
4.AEONTS ปิดที่ 167.00 บาท เพิ่มขึ้น 3.00 บาท หรือ 1.83%
5.ADVANC ปิดที่ 193.50 บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาท หรือ 1.04%
ส่วนดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวลดลงมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1.KBANK ปิดที่ 151.00 บาท ลดลง 1.50 บาท หรือ 0.98%
2.PTTEP ปิดที่ 165.50 บาท ลดลง 1.50 บาท หรือ 0.90%
3.BBL ปิดที่ 137.00 บาท ลดลง 1.00 บาท หรือ 0.72%
4.MINT ปิดที่ 30.50 บาท ลดลง 0.50 บาท หรือ 1.61%
5.MTC ปิดที่ 42.75 บาท ลดลง 0.50 บาท หรือ 1.16%
ขณะที่ดัชนี SET100 ปิดที่ 2,244.90 จุด เพิ่มขึ้น 18.35 จุด หรือ 0.82% ส่วนดัชนี SET50 ปิดที่ 990.97 จุด เพิ่มขึ้น 8.38 จุด หรือ 0.85% และดัชนีตลาด mai ปิดที่ 657.24 จุด เพิ่มขึ้น 7.05 จุด หรือ 1.08%
น.ส.ธีรดา ชาญยิ่งยงค์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ผันผวนในทางบวกค่อนข้างชัดเจน โดยได้รับปัจจัยหนุนจากหุ้นขนาดใหญ่ที่ปรับตัวขึ้น โดยเฉพาะ GULF ขึ้นมาค่อนข้างแรงและมีน้ำหนักค่อนข้างมากต่อดัชนี และกลุ่มพลังงานขึ้นตอบรับผลการประชุมของกลุ่มโอเปกพลัสมีมติปรับลดกำลังการผลิตเดือน ต.ค. ประมาณ 1 แสนบาร์เรล/วัน หนุนให้ราคาน้ำมันปรับตัวขึ้นได้ต่อ อย่างไรก็ตาม ยังมีปัจจัยที่ต้องรอติดตาม คือ การประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB) ในวันที่ 8 ก.ย. ว่าจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยที่ระดับเท่าใด
สำหรับมุมมองวันพรุ่งนี้ คาดว่าดัชนี SET จะพยายามขึ้นไปทดสอบระดับ 1,640-1,650 จุด ขณะที่แนวรับให้ไว้ที่ 1,620 จุด โดยช่วงที่ผ่านมาดัชนีย่อตัวลงมาและมีแรงซื้อกลับสลับขึ้นไป ซึ่งการย่อตัวไม่หลุดแนวรับที่ 1,600-1,610 จุด เผชิญความผันผวนตามการปรับตัวขึ้นและลงของราคาน้ำมันหลังจากโอเปกพลัสเข้ามามีส่วนในการควบคุมราคาน้ำมัน แต่ราคาน้ำมันยังคงเผชิญแรงกดดันจากความกังวลต่อภาพเศรษฐกิจโลกที่อาจจะถดถอยได้
ทั้งนี้ แนะนำเน้นเลือกลงทุนในหุ้นกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในประเทศ