xs
xsm
sm
md
lg

สอท. บุกยึดทรัพย์เจ้าพ่อเหมืองทิพย์ P miner เสียหายร่วม 1.7 พันล้านบาท หนีซุกประเทศเพื่อนบ้าน พร้อมตั้งค่าหัว 5 หมื่น

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ตำรวจ สอท. สนธิกำลัง ปปง. บุกค้นบ้าน "เป้-กิติกร อินต๊ะ" เจ้าของเหมืองทิพย์ "P miner Cryptocurrency" พร้อมยึดรถหรูหรู 5 คัน ยี่ห้อปอร์เช่ แลมโบกินี บีเอ็มดับเบิลยู เฟอร์รารี เบนท์ลีย์ นาฬิกาหรู บ้าน ที่ดิน และอายัดบัญชีกว่า 10 บัญชี มูลค่ากว่า 101 ล้านบาท เหตุตุ๋นนักลงทุนเสียหายกว่า 1700 ล้านบาท
ตำรวจกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (สอท.) พร้อมเจ้าหน้าที่สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) สนธิกำลังเข้าบุกค้นบ้านนายกิติกร อินต๊ะ หรือ เป้ เจ้าของธุรกิจที่อ้างว่าประกอบการเหมืองขุดคริปโต "P miner Cryptocurrency" โดยสามารถอายัดทรัพย์สินหลายรายการประกอบด้วยรถหรู 5 คันได้แก่ รถยนต์ปอร์เช่ ลัมโบกินี บีเอ็มดับเบิลยู เฟอร์รารี เบนท์ลีย์ ตลอดจนสังหาริมทรัพย์อื่นๆอีกหลายรายการไม่ว่าจะเป็น นาฬิกาหรู บ้านและ ที่ดิน ตลอดจนถึงบัญชีเงินฝากกว่า 10 บัญชี มูลค่ารวมกว่า 101 ล้านบาท ขณะเดียวกันคาดว่าเจ้าของบ้านดังกล่าวไหวตัวทันจึงหลบหนีไปก่อนที่ทางเจ้าหน้าที่จะบุกมาถึง

สืบเนื่องจากมีผู้เสียหายรวมตัวนำหลักฐานมาแจ้งความที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เขตพื้นที่ 5 จังหวัดเชียงใหม่ เมื่อวันที่ 25 ส.ค. ที่ผ่านมา โดยหนึ่งในผู้เสียหายเปิดเผยว่า นายเป้ได้เปิดกลุ่มวีไอพีระดมทุนให้ผลตอบแทนสูง โดยให้ผู้ที่ต้องการลงทุนที่ได้รับผลตอบแทนจากเหมืองขุดคริปโต สามารถเข้ามาลงทุนได้โดยใช้วงเงินลงทุนเบื้องต้น 1 ล้านบาท ซึ่งมีนักลงทุนที่หลงเชื่อจำนวนกว่า 300 คน นำเงินมาลงทุน โดยจะเป็นการฝากเงินเทรดเหรียญคริปโตและทำเหมืองคริปโตควบคู่กันไป ซึ่งนายเป้กล่าวอ้างว่าหากมาลงทุนกับตนจะได้รับผลตอบแทนตั้งแต่ 10-15% ซึ่งหลังจากที่มีผู้ร่วมลงทุนจำนวนมาก ปรากฏว่ากลับไม่ได้เงินที่เป็นผลตอบแทนจากการลงทุนตลอดจนเงินต้นคืนกลับมา ซึ่งผู้เสียหายได้รวมตัวกันแจ้งต่อเจ้าหน้าที่โดย DSI เชียงใหม่ได้ทำการสืบสวน จนกระทั่งมีการขอศาลออกหมายจับในฐานความผิดร่วมฉ้อโกงประชาชน, ร่วมกันโดยทุจริต หรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์และความผิดเกี่ยวกับ พ.ร.บ.เงินกู้

อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้นายเป้ได้ออกมาแถลงผ่านทางหน้าเฟซบุ๊กว่า ช่วงที่ผ่านมามูลค่าของเหรียญขาดทุนอย่างหนัก ในตลาดการลงทุนตามแพลตฟอร์มต่างๆ ทำให้บริษัทขาดทุนกว่า 70% ของเหรียญที่มีอยู่ นอกจากนี้การขุดเหรียญคริปโตต้องใช้ค่าไฟจำนวนมากทำให้การขุดไม่คุ้มค่า ส่งผลให้บริษัทฯ ขาดสภาพคล่องอย่างหนักและไม่สามารถนำทุนสำรองมาใช้ได้ โดยนายเป้ให้คำมั่นสัญญาต่อนักลงทุนว่ามีแนวทางแก้ปัญหา คือให้นักลงทุนแจ้งเงินที่ลงทุนกับทนายของบริษัท เพื่อหาตัวเลขความเสียหายและหาทางเยียวยา ขณะเดียวกันทางบริษัทจะยังคงดำเนินการขุดเหรียญตามปกติต่อไป พร้อมทั้งใช้ไฟฟ้าจากโซลาร์ฟาร์มเข้ามาช่วยขุดเพื่อลดต้นทุนการผลิต และจะนำรายได้ในแต่ละเดือนมาคืนนักลงทุน พร้อมกับทั้งทางทีมงานจะยังคงเทรดเหรียญควบคู่ขนานกันไป

อย่างไรก็ดี ยืนยันว่าไม่มีเจตนาที่จะโกงหรือหลบหนี และขอความเห็นใจจากนักลงทุนให้โอกาสทำงานเพื่อพลิกวิกฤตที่เกิดขึ้น และขอร้องนักลงทุนอย่าแจ้งความเพิ่งดำเนินคดีทางกฎหมาย เพราะหากเกิดความเสียหายต่อตัวเองขึ้นมา จะถูกอายัดบัญชีธนาคาร ไม่สามารถทำธุรกรรมทางการเงินได้ ส่งผลให้ไม่สามารถดำเนินงานทั้งหมดต่อไปได้ ซึ่งจะกระทบต่อบริษัท และตัวของนักลงทุนเอง

อย่างไรก็ดีล่าสุดในโพสต์สุดท้ายของนายเป้ ลงวันที่ 24 ส.ค. 2565 ระบุว่า ต้องการที่จะขายรถยนต์เฟอร์รารี แลมโบกินี และเบนท์ลีย์ เพื่อที่จะนำเงินไปใช้หนี้

ขณะที่ล่าสุดหน่วยป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ หรือ บก.ปอท. ลงโพสต์ประกาศผ่านทางเพจเฟสบุ๊คว่า ประกาศตั้งค่าหัวรางวัลนำจับนายเป้มูลค่า 50,000 บาท ให้คนที่แจ้งเบาะแสที่นำไปสู่การจับกุม ซึ่งเบาะแสล่าสุด ทราบว่านายเป้หลบหนีไปอยู่ที่ประเทศเพื่อนบ้านแล้ว
 
ขณะที่ย้อนกลับไป 5 วันก่อนหน้านี้ผู้เสียหายพากันเดินทางเข้าร้องเรียนต่อเจ้าหน้าที่ศูนย์ปฏิบัติการคดีพิเศษเขตพื้นที่ 5 กรมสอบสวนคดีพิเศษ DSI กรณีถูกหลอกลงทุนเทรดเหรียญอิเล็กทรอนิกส์หรือคริปโตฯ สุดท้ายไม่ได้เงินปันผลกันตามสัญญา 10-11-12 ถึง 15% เบื้องต้นคาดมูลค่าความเสียหายกว่า 1,700 ล้านบาทนั้น

รายงานข่าวแจ้งว่า วันนี้ (25 ส.ค. 65) กลุ่มผู้เสียหายที่นัดหมายกันผ่านไลน์กลุ่มจะนำหลักฐานสัญญาการร่วมลงทุน-สลิปโอนเงิน-แชตข้อความต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง เดินทางเข้าแจ้งความทั้งที่ DSI ภาค 5 จ.เชียงใหม่-สภ.ท้องที่ต่างๆ เพิ่มเติมอีกจำนวนมาก รวมถึงกลุ่มผู้เสียหายท้องที่ อ.แม่แตง กลุ่มหลักที่มีผู้เสียหายจำนวนมากก็จะเดินทางมาในวันนี้ด้วย

ขณะเดียวกันมีผู้อ้างตัวว่าชื่อ “เป้-กิติกร” ซึ่งโพสต์ภาพโชว์รถหรูซูเปอร์คาร์หลายคัน รวมถึงบ้านที่กำลังก่อสร้างย่านสันทรายหลวง อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ นัยว่าเป็นบ้านหรูที่อาจจะใช้เป็นสำนักงานที่ตั้งบริษัทในอนาคต พร้อมข้อความทำนองว่า..คันสุดท้ายไม่มีอยู่จริง เครื่องราง อสังหาฯ Super Car คริปโตฯ ..50 ล้านบาทต้องจบ! เมื่อต้นเดือนกรกฎาคม 65 ที่ผ่านมาด้วยนั้น ได้ออกแถลงการณ์ในนามผู้บริหาร “P Miner” เผยแพร่ผ่านเฟซบุ๊กในกลุ่มสมาชิกวีไอพี

โดยระบุข้อความว่า..แถลงการณ์ของบริษัท P miner กระผมนายกิติกร ขอชี้แจงให้นักลงทุนทุกท่านทราบดังนี้ เนื่องจากธุรกิจของบริษัทฯ เกี่ยวกับการขุดเหรียญ "คริปโตฯ" ในช่วงที่ผ่านมาเกิดการขาดทุนเนื่องจากมูลค่าของเหรียญตกลงอย่างที่ทุกท่านทราบ ในตลาดการลงทุนตาม "แพลตฟอร์ม" ต่างๆ ทำให้บริษัทขาดทุนไปกว่า 70% ของเหรียญที่มีอยู่ ทำให้ที่ผ่านมาการขุดเหรียญจะต้องมีค่าใช้จ่ายเป็นค่าไฟฟ้าเป็นจำนวนมาก ซึ่งไม่คุ้มกับมูลค่าของเหรียญ

เป็นเหตุทำให้ในช่วงระยะเวลา 2 เดือนที่ผ่านมาทางบริษัทได้รับความเสียหายเป็นเงินจำนวนหลายล้านบาท ทรัพย์สินของทางบริษัทที่เป็นเหรียญคริปโตฯ ก็ไม่สามารถที่จะนำมาขายทอดตลาดได้อันเนื่องมาจากการตกต่ำของเหรียญ ในช่วงระยะเวลาที่ผ่านมาทางบริษัทจึงได้นำผลกำไรของทางบริษัทในช่วงระยะเวลา 2-3 ปีก่อน มาปันผลเป็นกำไรให้แก่นักลงทุนอย่างต่อเนื่องและตลอดมา โดยไม่เคยผิดนัดและจำนวนปันผลที่นักลงทุนจะได้รับแต่อย่างใด

..ณ บัดนี้ ทางบริษัทจึงขอแจ้งให้นักลงทุนทราบว่าทางบริษัทได้ขาดสภาพคล่องและไม่สามารถที่จะนำทุนสำรองมาปันผลหรือคืนทุนของนักลงทุนได้ในเวลานี้ เป็นเหตุให้นักลงทุนทุกท่านไม่ได้รับการปันผลหรือคืนทุน แนวทางการแก้ไขปัญหาให้แก่นักลงทุน คือ

1. ทางบริษัทจะให้นักลงทุนทุกท่านแจ้งเงินการลงทุนกับทางทีมทนายความของบริษัทเพื่อหาตัวเลขความเสียหายที่เป็นจริงของแต่ละท่านในการเยียวยา 2. ทางบริษัทจะยังคงดำเนินการขุดเหรียญตามปกติ โดยแก้ไขปัญหาในการใช้ทุนสำรอง โซลาร์ฟาร์มลดต้นทุนการผลิตและจะนำรายได้ในแต่ละเดือนมาคืนเงินลงทุนให้แก่นักลงทุน 3. การเทรดทางทีมงานของบริษัทจะยังคงดำเนินการตามเดิม

ดังนั้น ในวันที่ 26 สิงหาคม 2565 ทางบริษัทจึงขอให้นักลงทุนแจ้งข้อมูลการลงทุน โดยทางบริษัทจะแจ้งให้นักลงทุนทราบอีกครั้งว่าจะแจ้งข้อมูลการลงทุนกับทีมทนายความของบริษัทได้ ณ ที่ใด ทั้งนี้ การแจ้งข้อมูลดังกล่าวไม่ใช่เป็นการประนอมหนี้หรือเป็นการยอมความเพื่อให้เป็นคดีแพ่งอย่างที่ถูกกล่าวหา

คนอ้างชื่อ “เป้-กิตติกร” ยังย้ำในท้ายแถลงการณ์ด้วยว่า ไม่ได้มีเจตนาที่จะฉ้อโกงหรือหลบหนีแต่อย่างใด จึงได้ขอความเห็นใจจากนักลงทุนทุกท่านได้ให้โอกาสได้ทำงานเพื่อฟื้นตัว ทั้งได้โปรดอย่าได้ดำเนินการใดๆ ทางกฎหมาย โดยหากเกิดความเสียหายต่อตัวเองแล้วก็ไม่สามารถที่จะดำเนินงานต่อไปได้อันจะส่งผลกระทบถึงทางบริษัท ทั้งยังจะส่งผลทำให้นักลงทุนทุกท่านได้รับผลกระทบด้วย

แหล่งข่าวภายในแจ้งว่า นอกจากนี้ยังได้มีการกำชับกับทางสมาชิกระดับวีไอพีที่ลงทุนจำนวนมากว่าจะได้เงินคืนแน่นอน ขอแค่อย่าเพิ่งไปแจ้งความหรือร้องดีเอสไอเท่านั้น

อย่างไรก็ตาม มีผู้อ้างตัวแทนเป็นทีมงาน P Miner ได้โพสต์ข้อความในฐานะตัวแทนทีมงานว่า..ขอเป็นตัวแทนสมาชิกทีมงานของ p miner แสดงจุดยืนว่าพวกเราก็เป็นผู้เสียหายในการลงทุนทุกคน 1. ทางบริษัทตอนนี้มีเพียงแค่สิ่งล่องลอย ไม่มีงบพอที่จะลงทุนอะไรทั้งสิ้น ถ้ามีจริงรบกวนเปิดโพยงบทั้งหมดที่มีอยู่ให้แก่ทุกคนได้รับทราบเพื่อความสบายใจของนักลงทุน

2. ผู้ลงทุนจะไว้วางใจได้อย่างไรในเรื่องของการเทรดที่มีความเสี่ยงสูง อะไรคือหลักประกันที่พวกเราจะมั่นใจว่าจะมีกำไรมาผ่อนชำระหนี้สินหลังจากนี้ได้ 3. ทางบริษัทพนักงานทุกคนขอลาออกตั้งแต่วันนี้ ขอยุติความเกี่ยวข้องทั้งหมดเกี่ยวกับบริษัท p miner 4. ทางทีมงานได้รับการเยียวยาจริง แต่เป็นแค่ส่วนน้อยมากเมื่อรวมกับเงินต้นในการลงทุนทั้งหมด

5. เหมืองทั้งหมดได้ถูกยกเลิกการขุดทั้งหมดเรียบร้อย ถ้ายังมีการขุดอยู่รบกวนเป้ช่วยโชว์หลักฐานแรงขุดให้ทุกคนรับทราบ 6. เหมืองจีนที่ว่าตอนนี้กำลังเร่งขาย ถ้ามีจริงรบกวนแสดงหลักฐานทั้งหมดตอนนี้ให้ทุกคนรู้เห็น เพราะแม้แต่พนักงานทุกคนก็ไม่เคยเห็นของจริงอย่างที่ว่า 7. เป้ได้ทำการหลบหนีแล้ว ทิ้งพนักงานทุกคนไว้รับหน้าโดยไม่เคยแจ้งกล่าวล่วงหน้าแต่อย่างใด 8. ตอนนี้เป้อยู่ที่ไหนทีมงานทุกคนไม่มีใครทราบ ยกเว้นคนขับรถกับครอบครัว

นายกิติกร อินต๊ะ หรือ เป้ เจ้าของธุรกิจเหมืองทิพย์ P Miner
















กำลังโหลดความคิดเห็น