อสังหาฯ ยังไม่สิ้นมนต์ขลัง ศูนย์ข้อมูลอสังหาฯ ระบุ ตลาดต่างชาติไม่ทิ้งโอนห้องชุด เผยไตรมาส 2 ปี 65 พี่จีนยังเป็นดีมานด์หลัก โอนห้องชุดไทยสูงสุด ทั้งจำนวนหน่วยและมูลค่า ลูกค้าอินเดียมาแรงเกือบแซงทางโค้ง ซื้ออสังหาฯ ไทยมากขึ้น มูลค่าติดอันดับ 7
ดร.วิชัย วิรัตกพันธ์ รักษาการผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (REIC) เผยถึงสถานการณ์การโอนกรรมสิทธิ์ที่อยู่อาศัยของคนต่างชาติไตรมาส 2 ปี 2565 (เมษายน-มิถุนายน) และคาดการณ์ ปี 2565 (มกราคม-ธันวาคม) ว่า ด้านอุปสงค์ (ความต้องการ) ในตลาดที่อยู่อาศัยของของคนต่างชาติ โดย REIC ประมวลผลจากข้อมูลการจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ของกรมที่ดิน พบว่า หน่วยโอนกรรมสิทธิ์อาคารชุดของคนต่างชาติทั่วประเทศในปี 2564 มีจำนวน 8,198 หน่วย จากจำนวนหน่วยการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดทั้งสิ้น 89,836 หน่วย มูลค่า 36,610 ล้านบาท จากมูลค่าการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดทั้งสิ้น 253,907 ล้านบาท
สำหรับสถานการณ์หน่วยโอนกรรมสิทธิ์อาคารชุดของคนต่างชาติ ใน 6 เดือนแรกของปี 2565 (ม.ค.-มิ.ย.) มีจำนวน 4,433 หน่วย เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.4 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน ซึ่งมีจำนวน 4,370 หน่วย มีมูลค่าการโอนกรรมสิทธิ์อาคารชุดคนต่างชาติ จำนวน 22,331 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 9.1 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน ซึ่งมีจำนวน 20,472 ล้านบาท
โดย 10 อันดับแรกของหน่วยโอนกรรมสิทธิ์และมูลค่าการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดของคนต่างชาติ พบว่า อันดับ 1 ยังคงเป็นผู้ซื้อสัญชาติจีน ที่มีการโอนกรรสิทธิ์สูงสุด ทั้งจำนวนหน่วยและมูลค่า โดยมีการโอนกรรมสิทธิ์จำนวน 1,124 หน่วย สัดส่วนร้อยละ 48 ของหน่วยโอนกรรมสิทธิ์ทั้งหมด ราคาเฉลี่ยต่อหน่วย 5.3 ล้านบาท
มูลค่าการโอนกรรมสิทธิ์ของชาวจีน 5,931 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 49 ของมูลค่าการโอนกรรมสิทธิ์ทั้งหมด
โดยลำดับ 2 ทั้งจำนวนหน่วยและมูลค่าจะมีความแตกต่างกัน โดยสัญชาติที่มีการโอนกรรมสิทธิ์จำนวนหน่วยสูงสุดเป็นลำดับ 2 คือ รัสเซีย จำนวน 129 หน่วย มูลค่า 415 ล้านบาท ลำดับ 3 สหรัฐอเมริกา จำนวน 116 หน่วย มูลค่า 643 ล้านบาท ลำดับ 4 เยอรมนี จำนวน 80 หน่วย มูลค่า 266 ล้านบาท ลำดับ 5 อินเดีย จำนวน 79 หน่วย มูลค่า 353 ล้านบาท
"ตัวเลขการโอนกรรมสิทธิ์ของชาวต่างชาติ ในไตรมาส 2 เริ่มดีขึ้น โดยกลุ่มหลักยังคงเป็นลูกค้าชาวจีน แต่ที่น่าสังเกต กลุ่มสัญชาติอินเดียมาแรง มีบทบาทต่อตลาดอาคารชุด และท่องเที่ยวภายในประเทศไทยมากขึ้น ซึ่งหากพิจารณาในมูลค่าแล้ว อินเดียอยู่ในอันดับที่ 7 แต่ยังคงไม่ใช่กำลังซื้อหลักในตลาดอาคารชุดไทยเท่ากับลูกค้าชาวจีน" ดร.วิชัย กล่าว
ดร.วิชัย ยังกล่าวถึงโลเกชันที่ได้รับความนิยมในการโอนกรรมสิทธิ์ของคนต่างชาติทั่วประเทศในไตรมาส 2 ปี 65 โดย
1.ลูกค้าสัญชาติจีน มีหน่วยการโอนห้องชุดในพื้นที่กรุงเทพฯ มากถึง 726 หน่วย คิดเป็นร้อยละ 64.6 ของจำนวน 1,124 หน่วย มีมูลค่ารวม 4,867 ล้านบาท รองลงมาเป็น จังหวัดชลบุรี สมุทรปราการ เชียงใหม่ และภูเก็ต
2.ลูกค้ารัสเซีย จังหวัดหลัก ได้แก่ ชลบุรี 90 หน่วย (ร้อยละ 69.8) มูลค่า 226 ล้านบาท ภูเก็ต จำนวน 32 หน่วย มูลค่า 131 หน่วย
3.ลูกค้าสหรัฐฯ มีการโอนในจังหวัดชลบุรี 54 หน่วย (ร้อยละ 46.6) มูลค่า 175 ล้านบาท กรุงเทพฯ จำนวน 41 หน่วย มูลค่า 391 ล้านบาท เชียงใหม่ จำนวน 11 หน่วย มูลค่า 42 ล้านบาท
4.ลูกค้าเยอรมนี มีการโอนในจังหวัดชลบุรีมาเป็นอันดับ 1 จำนวน 33 หน่วย มูลค่า 79 ล้านบาท กรุงเทพฯ จำนวน 14 หน่วย มูลค่า 76 ล้านบาท
และ 5.ลูกค้าสัญชาติอินเดีย กรุงเทพฯ จำนวน 40 หน่วย มูลค่า 295 ล้านบาท สมุทรปราการ จำนวน 24 หน่วย และชลบุรี จำนวน 13 หน่วย