ในที่สุด บริษัท เอสซีบี เอ็กซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCB ได้ประกาศอย่างชัดเจน ยกเลิกธุรกรรมการซื้อขายหุ้น ระหว่างบริษัทหลักทรัพย์ ไทยพาณิชย์ ซึ่งเป็นบริษัทย่อย กับบริษัท บิทคับ ออนไลน์ จำกัด มีผลตั้งแต่วันที่ 25 สิงหาคม 2565
SCB แจงเหตุผลว่า “บิทคับ ออนไลน์” ยังมีประเด็นคงค้างที่ต้องดำเนินการหาข้อสรุปตามคำแนะนำและคำสั่งของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ซึ่งยังมีความไม่แน่นอนในเรื่องระยะเวลาหาข้อสรุป ผู้ซื้อผู้ขายจึงตกลงร่วมกันยกเลิกข้อตกลงซื้อขายหุ้น
คณะกรรมการบริษัทหลักทรัพย์ ไทยพาณิชย์ มีมติเมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายน 2564 อนุมัติการเข้าทำสัญญาซื้อหุ้นบริษัท บิทคับ ออนไลน์ ผู้ให้บริการศูนย์ซื้อขายแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ดิจิทัลรายใหญ่ที่สุดของประเทศ ในสัดส่วน 51% ของทุนจดทะเบียน วงเงิน 17,850 ล้านบาท
แต่การตรวจสอบและประเมินทรัพย์สิน รวมทั้งหนี้สินของ “บิทคับ” ยืดเยื้อมายาวนานเกือบ 10 เดือน ท่ามกลางข่าวลือว่า SCB อาจล้มเลิกสัญญาการซื้อหุ้นบิทคับฯ เพราะมีข่าวฉาวโฉ่อย่างต่อเนื่อง และถูก ก.ล.ต.ปรับในฐานความผิดต่างๆ ขณะที่การซื้อขายเก็งกำไรสินทรัพย์ดิจิทัลหรือคริปโตเคอร์เรนซีซบเซา ราคาเหรียญสกุลต่างๆ ทรุดฮวบ
SCB แจ้งการล้มสัญญารซื้อขายหุ้นบิทคับฯ ระหว่างพักการซื้อขายหุ้นในรอบเช้า และถือเป็นข่าวดีสำหรับหุ้น SCB แต่เป็นข่าวร้ายของ KUBCOIN ซึ่งออกโดยบริษัท บิทคับ บล็อคเชน เทคโนโลยี จำกัด
ราคาหุ้น SCB พุ่งทะยานขึ้นทันทีหลังเปิดการซื้อขายในภาคบ่ายวันพฤหัสบดีที่ 25 สิงหาคม ก่อนจะปิดการซื้อขายที่ 110.50 บาท เพิ่มขึ้น 6 บาท มูลค่าซื้อขาย 6,503.99 ล้านบาท โดยเป็นหุ้นที่มีการซื้อขายสูงสุดประจำวัน
ขณะที่ราคาเหรีญ KUB ทรุดฮวบลงทันที จากราคาประมาณ 73 บาท ทรุดลงไปแตะ 48 บาท ก่อนจะเด้งขึ้นมาล่าสุดที่ประมาณ 62 บาท โดยไม่อาจคาดการณ์ใดๆ เกี่ยวกับแนวโน้มราคาเหรียญ KUB ได้ เพราะไม่มีปัจจัยในเชิงบวกสนับสนุน นอกจากข่าวร้ายชิ้นใหญ่ ถูก SCB ถอนยวงร่วมลงทุน
ช่วงที่ SCB ประกาศจะซื้อหุ้นบิทคับฯ ถือเป็นเวลารุ่งเรืองสุดขีดของกลุ่มบิทคับ และนายท๊อป หรือจิรายุส ทรัพย์ศรีโสภา ผู้ถือหุ้นใหญ่บิทคับ โดยราคาเหรียญ KUB ถูกลากขึ้นไปสูงสุดที่ 584 บาท ก่อนจะทรุดลงเรื่อยมา
การประกาศยกเลิกสัญญาซื้อหุ้นของ SCB เป็นการตอกฝาโลงกลุ่มบิทคับ และเป็นข่าวร้ายที่กระหน่ำซ้ำเติมจนเหรียญ KUB ดิ่งลงเหว หลังจากถูกบริษัท โปรเอ็น คอร์ป จำกัด (มหาชน) หรือ PROEN ซึ่งเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาด MAI ขอยกเลิกการลงทุนในเหรียญ KUB จำนวน 250,000 เหรีญ วงเงินลงทุน 72 ล้าน เพราะกังวลในความผันผวนของราคาเหรียญ
KUB COIN หรือเหรียญ KUB ออกมาจำนวนทั้งสิ้น 110 ล้านเหรียญ มีนักเก็งกำไรคนรุ่นใหม่แห่เข้าไปเล่นจำนวนมาก ซึ่งส่วนใหญ่ขาดทุนป่นปี้ โดยบางคนยอมตัดขาดทุนและขายทิ้ง แต่บางคนทำใจแบกรับขาดทุนไม่ไหว และทนถือเหรียญไว้ ภายใต้ความหวังว่า สักวันหนึ่งราคาคงฟื้นคืนกลับขึ้นมาใหม่
แต่หมดข่าวดีที่รอคอยสำหรับเหรียญ KUB แล้ว การขอแยกทางของ SCB เป็นการปิดฉากของเงินดิจิทัลที่ “บิทคับ” ผลิตขึ้นมา และตอกย้ำขาลงเต็มตัวของกลุ่ม “บิทคับ” และ KUBCOIN
นักเก็งกำไรที่มีเหรียญ KUB ติดมือไว้ยังมีเวลาที่จะลดความสูญเสีย โดยขายทิ้งเหรียญเสีย ก่อนที่ KUB COIN จะด้อยค่าลงเรื่อยๆ สุดท้ายอาจไร้ค่าเหมือนเหรียญ LUNA