นายฐากร ปิยะพันธ์ ผู้จัดการใหญ่ ธนาคารทหารไทยธนชาต จำกัด (มหาชน) หรือทีเอ็มบีธนชาต (TTB) เปิดเผยว่า ในปีนี้ธนาคารได้ตั้งเป้าสินเชื่อที่อยู่อาศัยปล่อยใหม่ที่ระดับ 66,000 ล้านบาท เติบโต 32% จากสิ้นปีที่ผ่านมาที่ 50,000 ล้านบาท โดยช่วงที่ผ่านมาของปีสามารถปล่อยสินเชื่อดังกล่าวได้แล้ว 38,700 ล้านบาท ขณะที่ยอดคงค้างสินเชื่อบ้านปัจจุบันอยู่ที่ 310,000 ล้านบาท จากเป้าหมาย ณ สิ้นปีที่ 320,000-330,000 ล้านบาท เติบโต 4% ซึ่งจะให้ความสนใจในส่วนของสินเชื่อรีไฟแนนซ์บ้าน และสินเชื่อบ้านแลกเงิน โดยล่าสุดได้เปิดตัว "บัตรกดเงินสด ทีทีบี บ้านแลกเงิน" ที่มีจุดเด่นที่เสียดอกเบี้ยเฉพาะส่วนที่เบิกใช้เท่านั้น มียอดผ่อนชำระคืนขั้นต่ำเพียง 1% และมีบริการผ่อนชำระสินค้าแบ่งจ่ายรายเดือน ณ ร้านค้าที่ร่วมรายการซึ่งอยู่ระหว่างการเพิ่มจำนวนร้านค้าพันธมิตรให้ครอบคลุมมากขึ้น โดยวางเป้าหมายสิ้นปีนี้ที่ 5,000 ใบ คิดเป็นวงเงินสินเชื่อ 2,000 ล้านบาท
"บัตรกดเงินสดทีทีบี บ้านแลกเงิน เป็นส่วนหนึ่งที่เกิดมาจาก 4 แกนหลักของแนวคิดของธนาคารที่ต้องการให้ชีวิตทางการเงินของคนไทยดีขึ้น ได้แก่ ฉลาดกิน-ใช้ รอบรู้การกู้ยืม การลงทุน และกลุ่มประกันต่างๆ ซึ่งในสภาวะที่หนี้ครัวเรือนสูง ค่าครองชีพสูง ดอกเบี้ยขาขึ้น เรามองว่าสิ่งที่จะช่วยได้คือการลดภาระ ซึ่งการรวบหนี้ช่วยได้ โดยนำสินทรัพย์ปลอดภาระหรือสินทรัพย์ที่มีอยู่มาเปลี่ยนเป็นวงเงินสินเชื่อพร้อมใช้ที่มีค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยที่ต่ำกว่า ลูกค้าสามารถนำเงินไปปิดหนี้อื่นที่ดอกเบี้ยสูงกว่า หรือเสริมสภาพคล่องได้ โดยดอกเบี้ยต่ำกว่าบัตรกดเงินสดทั่วไปที่ 0.57% ต่อเดือน ผ่อนชำระคืนขั้นต่ำเพียง 1% หรือมากกว่าตามความสะดวกของลูกค้า"
นายฐากร กล่าวว่า ในระยะต่อไปเรามองว่าสินเชื่อรีไฟแนนซ์บ้าน และสินเชื่อบ้านแลกเงินจะคึกคักซึ่งเป็นไปตามสภาวะดอกเบี้ยขาขึ้นที่จะทำให้ลูกค้าที่สามารถรีไฟแนนซ์ได้แล้วหันมาทำเพื่อลดภาระ กับอีกกลุ่มคือนำวงเงินไปใช้เสริมสภาพคล่องตามจำนวนที่ต้องการ โดยไม่ต้องเสียดอกเบี้ยทั้งวงเงิน โดยเราตั้งเป้าหมายจะเพิ่มสัดส่วนสินเชื่อบ้านแลกเงินเป็น 15% ของพอร์ตสินเชื่อบ้านรวม จากปัจจุบันที่ 6-7% ในอีก 5 ปี โดยโครงสร้างของสินเชื่อบ้านปัจจุบันแบ่งเป็นสินเชื่อบ้านใหม่และมือสอง 81% สินเชื่อรีไฟแนซ์ 13% และสินเชื่อบ้านแลกเงิน 6%
ส่วนหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ของกลุ่มสินเชื่อบ้านปีนี้คาดว่าจะอยู่ที่ 2.4% ซึ่งต่ำกว่าตลาดที่ 3% โดยที่ผ่านมาได้มีการมีขายหนี้เสียออกไปบางส่วน และในระยะถัดไปหากตลาดมีจังหวะที่ดีมีโอกาสตัดขายหนี้ออกไปเพิ่ม โดยยังมองเอ็นพีแอล ณ สิ้นปีนี้ที่ระดับทรงตัวจากปัจจุบัน
"เรามีความตั้งใจและไม่หยุดพัฒนา เพื่อสร้างสรรค์นวัตกรรมต่างๆ ให้แก่ผลิตภัณฑ์และบริการด้านสินเชื่อบ้านให้แก่ลูกค้า ตั้งแต่การเริ่มต้นกู้ยืมเพื่อซื้อบ้านใหม่และบ้านมือสอง การรีไฟแนนซ์เพื่อการบริหารค่าใช้จ่ายดอกเบี้ย รวมถึงการนำบ้านมาใช้เป็นหลักทรัพย์เพื่อช่วยเพิ่มสภาพคล่องและรวบหนี้ นอกจากนี้ ในช่วงที่ผ่านมาธนาคารมีมาตรการช่วยเหลือรูปแบบต่างๆ เพื่อให้ลูกค้าก้าวข้ามปัญหาจนกลับสู่ภาวะปกติหลังสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลายลง ตอกย้ำว่า ทีเอ็มบีธนชาตมีความมุ่งมั่นที่จะทำความเข้าใจลูกค้าและอยู่เคียงข้างในทุกสถานการณ์ เพื่อช่วยให้ลูกค้าของเรามีชีวิตทางการเงินที่ดีทั้งในวันนี้และอนาคตได้อย่างยั่งยืน"