หุ้นบริษัท พีเออี (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ PAE พ้นสภาพจากการเป็นบริษัทจดทะเบียนอย่างสมบูรณ์แล้ว โดยการซื้อขายเป็นครั้งสุดท้าย 7 วันทำการ ไม่ได้เงียบเหงาเสียทีเดียว
ตลาดหลักทรัพย์เปิดให้หุ้น PAE ซื้อขายระหว่างวันที่ 1-9 สิงหาคม รวม 7 วันทำการ และเพิกถอนจากตลาดหุ้นในวันที่ 10 สิงหาคม โดยตลอด 7 วันทำการ ราคาหุ้นปิดและเปิดที่ 1 สตางค์ แต่ระหว่างวันมีการเคาะซื้อที่ราคา 2 สตางค์บ้างเหมือนกัน นอกจากนั้น มูลค่าซื้อขายแต่ละวันไม่ใช่น้อย
PAE ถูกพักการซื้อขายตั้งแต่วันที่ 15 พฤศจิกายน 2559 เนื่องจากส่วนของผู้ถือหุ้นมีค่าต่ำกว่าศูนย์ จนถูกย้ายอยู่ในกลุ่มที่เข้าข่ายการถูกเพิกถอนจากการเป็นบริษัทจดทะเบียน และไม่อาจแก้ไขเหตุแห่งการเพิกถอนได้ตามกำหนด จึงขาดคุณสมบัติเป็นบริษัทในตลาดหลักทรัพย์
หุ้นทั้งหมดของ PAE มีจำนวน 6,642.30 ล้านหุ้น ผู้ถือหุ้นทั้งหมดมีจำนวน 10,863 ราย ซึ่งทุกคนคือผู้สูญเสีย เพราะแบกหุ้นต้นทุนสูง และแบกมาอย่างน้อย 6 ปี โดยหุ้นปิดครั้งสุดท้ายก่อนถูกแขวน SP ยาวที่ราคา 7 สตางค์
การซื้อขาย 7 วันทำการ มีเพียง 2 วันเท่านั้นที่หุ้น PAE ซื้อขายต่ำกว่า 100 ล้านหุ้น และมีเพียงวันเดียวคือวันที่ 3 สิงหาคมที่ซื้อขาย 4.37 ล้านหุ้น หรือคิดเป็นมูลค่า 4 หมื่นบาทเศษ นอกนั้นซื้อขายหลายร้อยล้านหุ้น หรือเกือบ 1 พันล้านหุ้น
การซื้อขายที่น่าสนใจคือวันสุดท้ายหรือวันที่ 9 สิงหาคม ซึ่งมีความคึกคักเป็นพิเศษ เหมือนการสร้างบรรยากาศซื้อขายให้มีชีวิตชีวาก่อนสั่งลา โดยมีหุ้นซื้อขายจำนวน 964.82 ล้านหุ้น แต่คิดเป็นมูลค่าซื้อขาย 16.71 ล้านบาท ซึ่งเป็นมูลค่าซื้อขายสูงสุดที่ในรอบ 7 วัน
เพราะมีการเคาะซื้อที่ราคา 2 สตางค์จำนวนมาก
ใครเข้ามาไล่เก็บ PAE เพื่ออะไร เพราะนับจากวันที่ 10 สิงหาคมเมื่อพ้นจากตลาดหลักทรัพย์ หุ้นจะไม่มีสภาพคล่องในการซื้อขาย ขณะที่ฐานะบริษัทตกอยู่ในภาวะล้มละลาย มียอดขาดทุนสะสม 2,815 ล้านบาท และไม่รู้จะดำเนินกิจการต่อไปได้หรือไม่
เมื่อพ้นจากตลาดหุ้น PAE ถูกตีค่าเป็นศูนย์โดยปริยาย และนักลงทุนรายย่อยจำนวนกว่า 1 หมื่นรายที่ไม่ได้ขายหุ้นทิ้งในช่วง 7 วันที่เปิดให้ซื้อขายครั้งสุดท้าย อาจทำใจยอมรับสภาพขาดทุนไว้แล้ว
เพราะถ้าจะขายคงได้เพียงเศษเงินไม่กี่ร้อยกี่พันบาท จึงไม่รู้ขายทำไม กอดใบหุ้นไว้ดูต่างหน้า และย้ำเตือนความทรงจำในความผิดพลาดที่เจ็บแสนสาหัสดีกว่า
ราคา 1 สตางค์สำหรับหุ้น PAE ต้องถือว่าแพงแล้ว แต่กลับมีคนเคาะซื้อในราคา 2 สตางค์อยู่ไม่น้อย โดยเฉพาะวันสุดท้าย มีการไล่เคาะราคา 2 สตางค์จำนวนหลายร้อยล้านหุ้น และคนที่เคาะคงรู้ว่าจะทำประโยชน์อันใดจากหุ้นที่เก็บไป เพราะถ้าไม่เห็นช่องทางสร้างประโยชน์ จะไล่เคาะซื้อไปทำไม
เพียงแต่นักลงทุนทั่วไปมองไม่เห็นช่องทางการทำกำไรจากหุ้น PAE นับจากนี้เท่านั้น
จากราคาเสนอขายนักลงทุนทั่วไปครั้งแรกที่ 149 บาท จากพาร์ 1 บาท ก่อนเข้าตลาดหลักทรัพย์ เมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2539 วันนี้หุ้น PAE ถูกตะเพิดพ้นตลาดหุ้น ด้วยราคาปิดครั้งสุดท้ายเพียง 1 สตางค์ จากพาร์ 1 บาท
อวสาน 26 ปีของหุ้น PAE ปิดฉากลงพร้อมหายนะนักลงทุนจำนวนมาก และไม่รู้จะร้องหาความรับผิดชอบจากใคร