“XSpring” จับมือ “KTC” เปิดตัวบัตรกดเงินสด "เคทีซี-เอ็กซ์สปริง" ชูสามารถนำสินทรัพย์ทุกประเภทมาเป็นหลักประกัน ตั้งเป้าปล่อยสินเชื่อ 5-7 พันล้านบาท หรือคิดเป็น 50,000-70,000 บัญชีภายใน 3 ปี หวังเข้าถึงลูกค้ากลุ่มใหม่-ขยายพอร์ตสินเชื่อบุคคลได้เพิ่มขึ้น
น.ส.วรางคณา อัครสถาพร ผู้จัดการใหญ่ ของบริษัท เอ็กซ์สปริง แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นบริษัทแม่ในเครือ XSpring กล่าวว่า ปีนี้นับเป็นปีที่ท้าทายอย่างมากของธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล จากสถานการณ์ราคาของสินทรัพย์ดิจิทัลที่มีแนวโน้มลดลง เอ็กซ์สปริง ภายใต้การดำเนินงานของบริษัทเอ็กซ์สปริง อัลไลแอนส์ จำกัด จึงได้ประเดิมเฟสแรกของการก้าวเข้าสู่ธุรกิจปล่อยสินเชื่อเงินสดด้วยการเปิดให้บริการเทิร์นสินทรัพย์ดิจิทัลเป็นวงเงินสดพร้อมใช้ ร่วมกับ “เคทีซี” หรือบริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ออกบัตรกดเงินสด “เคทีซี-เอ็กซ์สปริง” (KTC - XSPRING) โดยใช้สินทรัพย์ดิจิทัลเป็นหลักประกัน เพื่อช่วยเพิ่มสภาพคล่องให้นักลงทุนในตลาดสินทรัพย์ดิจิทัล และจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการปลายเดือนสิงหาคมนี้
ทั้งนี้ บัตรกดเงินสด “เคทีซี-เอ็กซ์สปริง" ตั้งเป้าปล่อยสินเชื่อ 5-7 พันล้านบาท หรือคิดเป็น 50,000-70,000 บัญชีภายใน 3 ปี พร้อมคาดว่าจะสามารถขยายฐานลูกค้านักลงทุนได้ถึง 5-10% จากทั้งหมดที่ซื้อขายในตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลไทย พร้อมด้วยโอกาสในการขยายฐานลูกค้าใหม่ในการเปิดบัญชีสินทรัพย์ดิจิทัล เพื่อนำมาใช้ค้ำประกันวงเงินบัตรกดเงินสด ทั้งยังวางแผนที่จะเปิดรับเหรียญคริปโตฯ สกุลยอดนิยมและโทเคนมาใช้เป็นหลักประกัน พร้อมวางแผนที่จะปล่อยสินเชื่อประเภทอื่นๆ ในอนาคตเพิ่มขึ้นอีกด้วย
ทั้งนี้ ในช่วงเริ่มต้นจะใช้สินทรัพย์ดิจิทัล 2 สกุลหลักที่มีสภาพคล่อง 2 ตัว ได้แก่ Bitcoin ( BTC) และ Ethereum(ETH)โดยมีมูลค่าหลักค้ำประกัน (LTV) ที่ 50% มีวงเงิน 1 หมื่น 1 ล้านบาท โดยเฉลี่ย 100,000 บาทต่อราย ในอัตราดอกเบี้ยไม่เกิน 15% โดยมีเกณฑ์การพิจารณาด้านหลักประกันหากราคาสินทรัพย์ค้ำประกันลดลงไม่ต่ำกว่า 80% จะยังไม่มีการปรับลดวงเงินหรือขอสินทรัพย์ค้ำเพิ่ม
น.ส.พิชามน จิตรเป็นธรรม ผู้ช่วยประธานเจ้าหน้าที่บริหาร-ธุรกิจสินเชื่อบุคคล บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) (KTC) กล่าวว่า บัตรกดเงินสด “เคทีซี-เอ็กซ์สปริง” (KTC - XSPRING) เป็นวงเงินสินเชื่อพร้อมใช้ที่มีความยืดหยุ่น สามารถเบิกใช้วงเงิน และชำระคืนได้ตามความประสงค์ เพื่อเสริมสภาพคล่องทางการเงิน พร้อมฟังก์ชันการใช้งานที่มาครบทั้งรูด-โอน-กด และเหนือกว่าด้วยจุดแข็งของมาสเตอร์การ์ด ซึ่งมีเครือข่ายร้านค้าขนาดใหญ่กระจายอยู่กว่า 80 ร้านค้าทั่วโลก โดยเคทีซีคาดหวังว่าการร่วมมือในครั้งนี้จะช่วยเพิ่มยอดสมาชิกสินเชื่อรายใหม่ และสร้างการเติบโตของพอร์ตสินเชื่อรายย่อย รวมถึงส่วนแบ่งทางการตลาดสินเชื่อบุคคลที่สูงขึ้นได้
**เผย กนง.ขึ้นดอกเบี้ยยังไม่กระทบต้นทุน**
น.ส.พิชามน จิตรเป็นธรรม ผู้ช่วยประธานเจ้าหน้าที่บริหาร-ธุรกิจสินเชื่อบุคคล บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTC เปิดเผยว่า ทิศทางดอกเบี้ยขาขึ้นในขณะนี้ไม่กระทบต้นทุนทางการเงินของบริษัทโดยเฉพาะช่วง 1-2 ปีนี้ เนื่องจากต้นทุนทางการเงินของเคทีซีส่วนใหญ่เป็นการระดมเงินทุนในระยะยาวในอัตราดอกเบี้ยคงที่ ทำให้การขยับอัตราดอกเบี้ยของอุตสาหกรรมจึงมีผลต่อเคทีซีในขณะนี้ ส่วนระยะยาวเคทีซีต้องยอมรับมีผลบ้าง ซึ่งรอดูก่อนว่าธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จะมีการหารือร่วมกันหรือไม่