ตลาดหุ้นไทยในปี 2564 มีการจัดอันดับ 10 หุ้นที่มีการปรับราคาขึ้นแรงที่สุด บางหลักทรัพย์ปรับขึ้นไปในระดับ 1,000% ขึ้นไป แต่ทว่าในปี 2565 หุ้นร้อนแรงเหล่านี้กลับปรับราคาลดลงอย่างมากมาย บางหลักทรัพย์ราคาดิ่งลงลึกไปไกลติดลบกว่า -60% แล้ว โดยเรียงตามลำดับหุ้นที่ปรับตัวแรงมากที่สุดในปี 2564
1.JTS (บมจ.จัสมิน เทคโนโลยี โซลูชั่น) อัตราผลตอบแทนจากราคาย้อนหลังปี 64 สูงสุด คือ +6,687.56% แต่ในปี 65 YTD -24.05% ราคาสิ้นปี 64 ปิด 131.00 บาท เทียบ ราคา ณ 5 ส.ค.65 ปิด 99.50 บาท ลดลง 31.50 บาท มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด 70,292.50 ล้านบาท ราคาสูงสุดในรอบ 52 สัปดาห์ 594.00 บาท ราคาต่ำสุดในรอบ 52 สัปดาห์ 44.25 บาท อัตราเงินปันผลตอบแทน N/A% P/E Ratio 228.97 เท่า
บมจ.จัสมิน เทคโนโลยี โซลูชั่น ประกอบธุรกิจเกี่ยวกับการจัดหา ออกแบบ ติดตั้งและทดสอบระบบสื่อสารโทรคมนาคมและเทคโนโลยีสารสนเทศแบบครบวงจร (Total ICT Solution) และเป็น 1 ในบริษัทจดทะเบียนที่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์ที่เข้าไปลงทุนเหมืองขุดบิตคอยน์ โดย JTS มีบริษัท จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) ถือหุ้นใหญ่สุด 32.80% และนายพิชญ์ โพธารามิก ถืออันดับ 2 ถือ 9.59%
2.BYD (บมจ.หลักทรัพย์ บียอนด์) อัตราผลตอบแทนจากราคาย้อนหลังปี 64 คือ +2,990.11% ในปี 65 YTD +13.13% ราคาสิ้นปี 64 ปิด 19.40 บาท เทียบราคา ณ 5 ส.ค.65 ปิด 11.50 บาท (มีการเพิ่มทุน 8 ก.ค.65) มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด 33,117.04 ล้านบาท ราคาสูงสุดในรอบ 52 สัปดาห์ 15.40 บาท ราคาต่ำสุดในรอบ 52 สัปดาห์ 3.64 บาท อัตราเงินปันผลตอบแทน N/A% P/E Ratio N/A เท่า
บมจ.หลักทรัพย์ บียอนด์ ประกอบธุรกิจเป็นนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ และสัญญาซื้อขายล่วงหน้า มี น.ส.โฟน สุ่นสวัสดิ์ ถือหุ้นใหญ่สุด 13.03% และมีนายธีรพล นพรัมภาอดีตเลขาธิการนายกรัฐมนตรี สมัยรัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช และลูกสาว น.ส.พลอยส่องแสง นพรัมภา ติด 1ใน 10 ผู้ถือหุ้นใหญ่
3.SABUY (บมจ.สบาย เทคโนโลยี) อัตราผลตอบแทนจากราคาย้อนหลังปี 64 คือ +1,264.64% แต่ในปี 65 YTD -23.48% ราคาสิ้นปี 64 ปิด 24.70 บาท เทียบราคา ณ 5 ส.ค.65 ปิด 18.90 บาท ลดลง 5.80 บาท มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด 27,048.99 ล้านบาท ราคาสูงสุดในรอบ 52 สัปดาห์ 38.00 บาท ราคาต่ำสุดในรอบ 52 สัปดาห์ 8.55 บาท อัตราเงินปันผลตอบแทน 0.26% P/E Ratio 94.18 เท่า
บมจ.สบาย เทคโนโลยี ประกอบธุรกิจบริษัทเทคโนโลยีโดยคนไทยประกอบด้วย 6 กลุ่มธุรกิจหลัก คือ 1.Payments and Wallet 2.Enterprise & Life 3.Connext 4.Financial Inclusion 5.InnoTainment และ 6.Venture มี นายชูเกียรติ รุจนพรพจี ถือหุ้นใหญ่สุด 29.22% และมีนายวรวิทย์ ชัยลิมปมนตรี รองประธานกรรมการบริษัท อดีตผู้อำนวยการธนาคารออมสิน ถืออันดับ 6 ถือ 2.40%
4.XPG (บมจ.เอ็กซ์สปริง แคปปิตอล) อัตราผลตอบแทนจากราคาย้อนหลังปี 64 คือ +621.78% แต่ในปี 65 YTD -46.55 % ราคาสิ้นปี 64 ปิด 2.90 บาท เทียบราคา ณ 5 ส.ค.65 ปิด 1.55 บาท ลดลง 1.35 บาท มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด 14,509.59 ล้านบาท ราคาสูงสุดในรอบ 52 สัปดาห์ 4.54 บาท ราคาต่ำสุดในรอบ 52 สัปดาห์ 1.37 บาท อัตราเงินปันผลตอบแทน N/A% P/E Ratio N/A เท่า
บมจ.เอ็กซ์สปริง แคปปิตอล ประกอบธุรกิจการลงทุนในธุรกิจอื่นๆ ที่มีศักยภาพ เช่นธุรกิจด้านสินทรัพย์ดิจิทัลจาก XSpring Digital ซึ่งเป็นบริษัทในเครือ ปัจจุบันมีใบอนุญาต 4 ใบอย่างเป็นทางการจาก ก.ล.ต. โดย XPG มีบริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) ถือหุ้นใหญ่สุด 13.37% และบริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน) ถืออันดับ 2 ถือ 9.23% และนายชูชาติ เพ็ชรอำไพ ผู้ก่อตั้งและผู้ถือหุ้นใหญ่ของเมืองไทย แคปปิตอล (MTC) ถืออันดับ 6 ถือ 3.44%
5.IT (บมจ.ไอที ซิตี้) อัตราผลตอบแทนจากราคาย้อนหลังปี 64 คือ +599.15% แต่ในปี 65 YTD -47.58% ราคาสิ้นปี 64 ปิด 16.50 บาท เทียบราคา ณ 5 ส.ค.65 ปิด 8.65 บาท ลดลง 7.85 บาท มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด 3,169.3 ล้านบาท ราคาสูงสุดในรอบ 52 สัปดาห์ 20.10 บาท ราคาต่ำสุดในรอบ 52 สัปดาห์ 4.80 บาท อัตราเงินปันผลตอบแทน 3.47% P/E Ratio 15.39 เท่า
บมจ.ไอที ซิตี้ ประกอบธุรกิจค้าปลีกจำหน่าย เครื่องคอมพิวเตอร์ แท็บเล็ต อุปกรณ์ต่อพ่วง โทรศัพท์มือถือ (Smart Phone) อุปกรณ์เสริม ตลอดจนสินค้ากลุ่มใหม่ๆ มีบริษัท เอสวีโอเอ จำกัด (มหาชน) ถือหุ้นใหญ่สุด 30.48% และมีคนดังอย่าง นายชาย มโนภาส นักลงทุนขาใหญ่ ถืออันดับ 9 ถือ 1.17% และนายสุระ คณิตทวีกุล เจ้าพ่อ COM7 ถืออันดับ 10 ถือ 1.07%
6.TH (บมจ.ตงฮั้ว โฮลดิ้ง) อัตราผลตอบแทนจากราคาย้อนหลังปี 64 คือ +459.18% แต่ในปี 65 YTD +68.61% ราคาสิ้นปี 64 ปิด 2.74 บาท เทียบราคา ณ 5 ส.ค.65 ปิด 4.62 บาท เพิ่มขึ้น 1.88 บาท มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด 4,458.47 ล้านบาท ราคาสูงสุดในรอบ 52 สัปดาห์ 6.90 บาท ราคาต่ำสุดในรอบ 52 สัปดาห์ 1.60 บาท อัตราเงินปันผลตอบแทน N/A% P/E Ratio 33.73 เท่า
บมจ.ตงฮั้ว โฮลดิ้ง ประกอบธุรกิจประกอบธุรกิจดำเนินกิจการเพื่อลงทุน มีนายสมนึก กยาวัฒนกิจ ถือหุ้นใหญ่สุด 24.39% และมีเซียนหุ้นคนดัง เสี่ยยักษ์ นายวิชัย วชิรพงศ์ ถืออันดับ 10 ถือ 1.67%
7.CEN (บมจ.แคปปิทอล เอ็นจิเนียริ่ง เน็ตเวิร์ค) อัตราผลตอบแทนจากราคาย้อนหลังปี 64 คือ +473.33% แต่ในปี 65 YTD -5.23% ราคาสิ้นปี 64 ปิด 3.44 บาท เทียบราคา ณ 5 ส.ค.65 ปิด 3.26 บาท ลดลง 0.18 บาท มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด 2,429.16 ล้านบาท ราคาสูงสุดในรอบ 52 สัปดาห์ 4.06 บาท ราคาต่ำสุดในรอบ 52 สัปดาห์ 1.78 บาท อัตราเงินปันผลตอบแทน 3.79 % P/E Ratio 19.53 เท่า
บมจ.แคปปิทอล เอ็นจิเนียริ่ง เน็ตเวิร์ค ประกอบธุรกิจลงทุนในบริษัทอื่น เช่น ธุรกิจผลิตและจำหน่ายลวดเหล็กแรงดึงสูงชนิดเส้นเดี่ยว ธุรกิจผลิตและจำหน่ายเสาส่งไฟฟ้าแรงสูง เสาโทรคมนาคม ผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าจากพลังงานทดแทน โดยมี นายชินชัย ลีนะบรรจง ถือหุ้นใหญ่สุด 18.49%
8.AJA (บมจ.เอเจ แอดวานซ์ เทคโนโลยี) อัตราผลตอบแทนจากราคาย้อนหลังปี 64 คือ +425.00% แต่ในปี 65 YTD -57.34% ราคาสิ้นปี 64 ปิด 0.63 บาท เทียบราคา ณ 5 ส.ค.65 ปิด 0.26 บาท ลดลง 0.37 บาท มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด1,369.71 ล้านบาท ราคาสูงสุดในรอบ 52 สัปดาห์ 0.84 บาท ราคาต่ำสุดในรอบ 52 สัปดาห์ 0.24 บาท อัตราเงินปันผลตอบแทน N/A% P/E Ratio N/A เท่า
บมจ.เอเจ แอดวานซ์ เทคโนโลยี ประกอบธุรกิจนำเข้าและจำหน่ายเครื่องใช้ไฟฟ้าภายใต้เครื่องหมายการค้า "AJ" และเล็งเห็นผลตอบแทนในธุรกิจเหมืองขุด Bitcoin เพิ่ม ประกาศลงทุนซื้อเครื่องขุดเพิ่มอีก 300 เครื่อง AJA มี นายอมร มีมะโน ถือหุ้นใหญ่สุด 10.26%
9.TCC (บมจ.ไทย แคปปิตอล คอร์ปอเรชั่น) อัตราผลตอบแทนจากราคาย้อนหลังปี 64 คือ +408.70% แต่ในปี 65 YTD -26.50% ราคาสิ้นปี 64 ปิด 1.17 บาท เทียบราคา ณ 5 ส.ค.65 ปิด 0.86 บาท ลดลง 0.31 บาท มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด 1,197.74 ล้านบาท ราคาสูงสุดในรอบ 52 สัปดาห์ 1.84 บาท ราคาต่ำสุดในรอบ 52 สัปดาห์ 0.39 บาท อัตราเงินปันผลตอบแทน N/A% P/E Ratio 10.95 เท่า
บมจ.ไทย แคปปิตอล คอร์ปอเรชั่น ประกอบธุรกิจด้านการลงทุนโดยการถือหุ้นและเข้าไปบริหารงานในบริษัทต่างๆ มี น.ส.พรพิน ชัยวิกรัย ถือหุ้นใหญ่สุด 12.04% และมีนาย กวิณ โอภาสวงการ ทายาทคนโตของก้องเกียรติ โอภาสวงการ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอเซีย พลัส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ วาณิชธนากรฝีมือดีแถวหน้าของไทย ถืออันดับ 10 ถือ 0.68%
10.PPPM (บมจ.พีพี ไพร์ม) อัตราผลตอบแทนจากราคาย้อนหลังปี 64 คือ +337.13% แต่ในปี 65 YTD -63.49% ราคาสิ้นปี 64 ปิด 0.70 บาท เทียบราคา ณ 5 ส.ค.65 ปิด 0.13 บาท ลดลง 0.57 บาท มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด 1,323.93 ล้านบาท ราคาสูงสุดในรอบ 52 สัปดาห์ 0.45 บาท ราคาต่ำสุดในรอบ 52 สัปดาห์ 0.09 บาท อัตราเงินปันผลตอบแทน N/A% P/E Ratio N/A เท่า
บมจ.พีพี ไพร์ม ประกอบธุรกิจหลักในธุรกิจจำหน่ายและผลิตอาหารสัตว์น้ำและสัตว์เลี้ยง (FOOD) โดยแบ่งเป็นสายการผลิตอาหารกุ้ง (Shrimp Feed) สายการผลิตอาหารปลา (Fish Feed) และอาหารสัตว์เลี้ยง (PET Food) มี LGT BANK (SINGAPORE) LTD ถือหุ้นใหญ่สุด 10.29%
อย่างไรก็ตาม ใน 10 หุ้น มีเพียง BYD และ TH ที่ยังมีอัตราผลตอบแทนจากราคาย้อนหลังเป็นบวก นอกนั้นติดลบทั้งสิ้น ต้องติดตามว่าลากยาวไปจนจบปี 2565 ถ้าติดลบมากกว่านี้ หรือพอจะปรับราคาขึ้นมาได้บ้าง!