ฉางเผิง จ้าว (CZ) เชื่อตลาดคริปโตตอนนี้แข็งแรงกว่าในช่วงฤดูหนาวคริปโตปัจจุบัน เนื่องจากในตลาดเหลือแค่ผู้เล่นที่เชื่อมั่นในเทคโนโลยีนี้เท่านั้น นายใหญ่ไบแนนซ์ยังมองว่า ความกลัวภาวะเงินเฟ้อและเศรษฐกิจถดถอยจะยิ่งส่งเสริมการยอมรับบิตคอยน์
CZ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหาร (CEO) ไบแนนซ์ ผู้ให้บริการแพลตฟอร์มเทรดคริปโตชื่อดัง ให้สัมภาษณ์ CNBC เมื่อปลายเดือนที่แล้ว โดยบอกว่า ตลาดตอนนี้แข็งแรงกว่าในช่วงฤดูหนาวคริปโตปัจจุบัน เนื่องจากก่อนหน้านี้คริปโตดึงดูดผู้เล่นจำนวนมาก ซึ่งมีแนวโน้มว่า ส่วนใหญ่เป็นนักเก็งกำไร แต่หลังจากตลาดรีเซ็ต ตอนนี้จึงเหลือแค่ผู้เล่นที่เชื่อมั่นในคริปโตเท่านั้น
ทั้งนี้ เดือนพฤศจิกายน 2021 มูลค่ารวมของตลาดคริปโตทำสถิติสูงสุดที่ 3 ล้านล้านดอลลาร์ ขณะที่ราคาบิตคอยน์ (BTC) ทะยานแตะ 69,000 ดอลลาร์ แต่หลังจากฤดูหนาวที่เย็นยะเยือกที่สุด มูลค่ารวมตลาดคริปโตลดลงอยู่ที่ 1 ล้านล้านดอลลาร์ และราคาบิตคอยน์จ่อ 24,000 ดอลลาร์เมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม
CZ ย้ำว่า เขาคิดจริงๆ ว่าอุตสาหกรรมคริปโตขณะนี้แข็งแรงกว่าตอนที่ราคาบิตคอยน์อยู่ที่ 68,000 ดอลลาร์
นายใหญ่ไบแนนซ์พูดถึงการล่มสลายของเทอร์ราที่ทำให้เกิดปรากฏการณ์โดมิโน ซึ่งทำให้ยักษ์ใหญ่อย่าง 3AC และเซลเซียสล้มไปด้วย รวมทั้งยังปัดกวาดผู้ที่ไม่เชื่อมั่นออกจากตลาดคริปโต
CZ อธิบายว่า ตอนที่บิตคอยน์เทรดแถวๆ 68,000 ดอลลาร์ ผู้เล่นที่ไม่ได้มีความเชื่อมั่นจำนวนมากถูกดึงดูดจากโอกาสในการเก็งกำไร ซึ่งหมายความว่า ตลาดร้อนแรงเกินไปและไม่นานหลังจากนั้นตลาดจะเริ่มขั้นตอนการปรับฐาน
เขาคิดว่า ตลาดคริปโตควรดึงดูดเฉพาะผู้เชื่อมั่นในเทคโนโลยีนี้เท่านั้น ดังนั้น เมื่อตลาดหมีขับไล่ผู้ที่ไม่เชื่อมั่นออกไป ตลาดจึงมีสุขภาพดีขึ้น และขณะนี้ผู้ที่รับรู้คุณค่าและเข้าใจวิธีใช้เทคโนโลยีนี้สามารถเข้าไปมีส่วนร่วมสร้างสรรค์นวัตกรรมอย่างแท้จริง
นอกจากนั้น ระหว่างให้สัมภาษณ์ CNBC บิ๊กบอสส์ไบแนนซ์ยังบอกว่า ความกลัวเกี่ยวกับภาวะถดถอยและเงินเฟ้อจะช่วยส่งเสริมการยอมรับบิตคอยน์
อนึ่ง นับจากวิกฤตเทอร์ราที่เล่นเอาระส่ำระสายไปทั่ววงการ ผู้บริหารชั้นนำหลายคนมองฤดูหนาวคริปโตคล้าย CZ
ตัวอย่างเช่น แบรด การ์ลิงเฮาส์ ที่กล่าวตั้งแต่ต้นเดือนมิถุยายนว่า การมีคริปโตกว่า 19,000 สกุลไม่เอื้อต่อการสร้างตลาดที่มั่นคงแข็งแรง แต่ฤดูหนาวคริปโตจะทำให้โปรเจ็กต์ที่ไม่ได้นำเสนอมูลค่าที่แท้จริงล้มหายตายจากไป และเมื่อฤดูหนาวสิ้นสุดลง ตลาดจะเหลือแค่โปรเจ็กต์ที่นำเสนอทางออกสำหรับปัญหาที่แท้จริงเท่านั้น
เบร็ตต์ แฮร์ริสัน ประธาน FTX US, มิไฮโล บีเจลิก CEO โพลีกอน และเจเรมี อัลแลร์ CEO เซอร์เคิล ต่างเห็นด้วยกับการ์ลิงเฮาส์
กลางเดือนมิถุนายน มาร์ก คิวบัน นักลงทุนแถวหน้าและมหาเศรษฐีเจ้าของทีมบาสเกตบอล “ดัลลัส มาเวอร์ริคส์” พูดในทำนองเดียวกันว่า ธุรกิจทั้งหมดที่ไม่มีแผนธุรกิจที่ดี ไม่ว่าจะเป็นหุ้นหรือคริปโต จะต้องม้วนเสื่อกลับบ้าน และตอกย้ำด้วยประโยคเด็ดของวอร์เรน บัฟเฟตต์ นักลงทุนระดับตำนาน ที่ว่า “เมื่อน้ำลงจะเห็นเลยว่า ใครแก้ผ้าว่ายน้ำ”
และเมื่อไม่นานมานี้ เจสัน ยาโนวิตซ์ ผู้ร่วมก่อตั้งบล็อกเวิร์ก ทวิตอธิบายขั้นตอนต่างๆ ในตลาดหมี โดยพูดถึงขั้นตอนที่ “ไร้ชีวิตชีวา” ก่อนที่ตลาดจะคืนชีพอีกครั้ง เขาบอกว่า ขั้นตอนที่ 3 นี้เองที่ทำให้คนมากมายต้องการตัดช่องน้อยหนีจากตลาด และผู้ที่ยังคงอดทนอยู่ในภาวะที่เซื่องซึมจะเป็นผู้นำนวัตกรรมที่แท้จริงและผู้ชนะในตลาดคริปโต