xs
xsm
sm
md
lg

แนวโน้มเงินเฟ้อลด หนุนหุ้นไทยปิดพุ่ง +23.23 จุด

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



หุ้นไทยปิดตลาด +23.23 จุด โบรกฯ ชี้หุ้นไทยปรับตัวขึ้นแรงในวันนี้ หลังตัวเลขเงินเฟ้อในเดือน ก.ค.ปรับตัวลดลง สะท้อนออกมาในราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่ปรับตัวลงมาหลายกลุ่ม แนะจับตาการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ในเดือน ส.ค. หลังวันหยุดยาวนี้คาดจะปรับขึ้นดอกเบี้ย ซึ่งจะช่วยลดส่วนต่างระหว่างดอกเบี้ยต่างประเทศ ส่งผลให้เงินบาทกลับมาแข็งค่าขึ้นได้บ้าง พร้อมประเมินกรอบการลงทุนแนวต้านที่ 1,600 จุด และแนวรับที่ 1,547 จุด

ตลาดหุ้นไทยปิดทำการซื้อขายวันที่ 27 ก.ค.2565 ปรับตัวเพิ่มขึ้น +23.23 จุด หรือ +1.50% โดยปิดตลาดที่ 1,576.41 จุด มูลค่าการซื้อขาย 59,390.21 ล้านบาท ส่วนภาพรวมการลงทุนในวันนี้ ดัชนีปรับตัวเคลื่อนไหวในแดนบวกและดีดตัวขึ้นแรงในช่วงบ่าย โดยระหว่างวันปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 1,576.78 จุด ขณะเดียวกัน ปรับตัวลดลงไปต่ำสุดที่ 1,555.64 จุด

ขณะที่หลักทรัพย์ที่มีการเปลี่ยนแปลงในวันนี้เพิ่มขึ้น จำนวน 874 หลักทรัพย์ ไม่เปลี่ยนแปลง จำนวน 569 หลักทรัพย์ และปรับตัวลดลง จำนวน 692 หลักทรัพย์

ด้านปริมาณการซื้อขายจำแนกตามกลุ่มนักลงทุน พบว่า นักลงทุนต่างประเทศซื้อสุทธิกว่า +2,470.34 ล้านบาท และนักลงทุนสถาบันซื้อสุทธิกว่า +619.05 ล้านบาท ในทางกลับกัน พบว่า นักลงทุนในประเทศขายสุทธิกว่า -2,661.19 ล้านบาท และบัญชี บล. ขายสุทธิกว่า -428.21 ล้านบาท

ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์
1.DELTA มูลค่าการซื้อขาย 6,431.11 ล้านบาท ปิดที่ 474.00 บาท เพิ่มขึ้น 106.00 บาท
2.BANPU มูลค่าการซื้อขาย 2,098.89 ล้านบาท ปิดที่ 13.40 บาท เพิ่มขึ้น 0.30 บาท
3.KBANK มูลค่าการซื้อขาย 1,995.65 ล้านบาท ปิดที่ 146.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท
4.KCE มูลค่าการซื้อขาย 1,939.99 ล้านบาท ปิดที่ 62.75 บาท เพิ่มขึ้น 4.25 บาท
5.TLI มูลค่าการซื้อขาย 1,922.67 ล้านบาท ปิดที่ 15.20 บาท เพิ่มขึ้น 0.20 บาท

ด้านดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวบวกเพิ่มขึ้นมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1.KCE ปิดที่ 62.75 บาท เพิ่มขึ้น 4.25 บาท หรือ 7.26%
2.ADVANC ปิดที่ 201.00 บาท เพิ่มขึ้น 3.00 บาท หรือ 1.52%
3.SCC ปิดที่ 373.00 บาท เพิ่มขึ้น 3.00 บาท หรือ 0.81%
4.AEONTS ปิดที่ 166.00 บาท เพิ่มขึ้น 2.50 บาท หรือ 1.53%
5.CBG ปิดที่ 112.50 บาท เพิ่มขึ้น 1.50 บาท หรือ 1.35%

ส่วนดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวลดลงมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1.FORTH ปิดที่44.50 บาท ลดลง 1.00 บาท หรือ 2.20%
2.SCGP ปิดที่51.00 บาท ลดลง 0.75 บาท หรือ 1.45%
3.COM7 ปิดที่30.50 บาท ลดลง 0.50 บาท หรือ 1.61%
4.TCAP ปิดที่37.75 บาท ลดลง 0.25 บาท หรือ 0.66%
5.BGRIMปิดที่38.00 บาท ลดลง 0.25 บาท หรือ 0.65%
 
ขณะที่ดัชนี SET100 ปิดที่ 2,168.17 จุด เพิ่มขึ้น 19.11 จุด หรือ 0.89% ขณะที่ดัชนี SET50 ปิดที่ 958.73 จุด เพิ่มขึ้น 8.31 จุด หรือ 0.87% และดัชนีตลาด mai ปิดที่ 581.46 จุด เพิ่มขึ้น 6.89 จุด หรือ 1.20%

นายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม รองกรรมการผู้อำนวยการสายงานวิจัย บล.เอเซีย พลัส กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวขึ้นแรง แม้ว่าตลาดหุ้นไทยจะปิดทำการในวันหยุดยาว แต่จะมีการประกาศตัวเลข GDP สหรัฐฯ และประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ซึ่งดูเหมือนตลาดคาดการณ์ไปในทิศทางดี โดย ASP มองโอกาส 50:50 ที่เศรษฐกิจสหรัฐฯ จะเข้าสู่ภาวะถดถอย (Recession) ซึ่งหากตัวเลข GDP ไตรมาส 2/65 ติดลบต่อเนื่องจะเข้าเกณฑ์ ส่วนการประชุมเฟดตลาดคาดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75%

อย่างไรก็ตาม ภาพรวมตลาดในเดือน ส.ค. เชื่อว่าจะฟื้นตัวขึ้นมาได้หากเฟดปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.75% รอบนี้ตามคาด เพราะประเมินว่าการประชุมรอบถัดไปคงจะไม่ปรับขึ้นถึง 0.75% อีก คาดจะปรับขึ้นในระดับ 0.50% หรือ 0.25% นอกจากนี้ ในเดือน ก.ค.ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ปรับตัวลงมาหลายตัวจะส่งผลเงินเฟ้อชะลอตัวลง ประกอบกับการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ในเดือน ส.ค.นี้คาดจะปรับขึ้นดอกเบี้ย ซึ่งจะช่วยลดส่วนต่างระหว่างดอกเบี้ยต่างประเทศ ส่งผลให้เงินบาทกลับมาแข็งค่าขึ้นได้บ้าง และทำให้เงินทุนต่างชาติชะลอไหลออก ส่วนแนวโน้มการลงทุนในสัปดาห์หน้าขึ้นกับตัวเลข GDP สหรัฐฯ และผลประชุมเฟดเป็นหลัก โดยประเมินแนวต้านที่ 1,600 จุด และแนวรับที่ 1,547 จุด


กำลังโหลดความคิดเห็น