หุ้นไทยปิด +5.89 จุด ตามตลาดหุ้นต่างประเทศ โบรกฯ แนะจับตาศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล คาดพรุ่งนี้ตลาดทุนยังคงแกว่งไซต์เวย์ ประเมินกรอบแนวรับที่ 1,525-1,530 จุด และ แนวต้าน 1,550-1,555 จุด
ตลาดหุ้นไทยปิดทำการซื้อขายวันที่ 20 ก.ค. 2565 ปรับตัวเพิ่มขึ้น +5.89 จุด หรือ +0.38% โดยปิดตลาดที่ 1,539.32 จุด มูลค่าการซื้อขายกว่า 57,500.11 ล้าน ซึ่งระหว่างวันดัชนีฯปรับตัวขึ้นตามตลาดหุ้นต่างประเทศ โดยระหว่างวันปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 1,545.25 จุด ขณะเดียวกันก็ปรับตัวลดลงไปต่ำสุดที่ 1,535.52 จุด
ขณะที่หลักทรัพย์ที่มีการเปลี่ยนแปลงในวันนี้เพิ่มขึ้นจำนวน 798 หลักทรัพย์ ไม่เปลี่ยนแปลงจำนวน 645 หลักทรัพย์ และปรับตัวลดลงจำนวน 714 หลักทรัพย์
ด้านปริมาณการซื้อขายขายจำแนกตามกลุ่มนักลงทุนพบว่า นักลงทุนสถาบันซื้อสุทธิกว่า +2,135.12 ล้านบาท และ บัญชี บล. ซื้อสุทธิกว่า +38.16 ล้านบาท ในทางกลับกันพบว่า นักลงทุนในประเทศขายสุทธิกว่า -1,567.46 ล้านบาท และ นักลงทุนต่างประเทศ ขายสุทธิกว่า -605.82 ล้านบาท
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์
1.SCB มูลค่าการซื้อขาย 3,098.88 ล้านบาท ปิดที่ 90.75 บาท ลดลง 0.50 บาท
2.CPALL มูลค่าการซื้อขาย 2,492.51 ล้านบาท ปิดที่ 60.25 บาท ลดลง 0.75 บาท
3.PTT มูลค่าการซื้อขาย 2,147.90 ล้านบาท ปิดที่ 34.25 บาท ไม่มีการเปลี่ยนแปลง
4.DELTA มูลค่าการซื้อขาย 2,084.38 ล้านบาท ปิดที่ 364.00 บาท เพิ่มขึ้น 24.00 บาท
5.AOT มูลค่าการซื้อขาย 1,845.60 ล้านบาท ปิดที่ 70.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท
ด้านดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวบวกเพิ่มขึ้นมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1.FORTH ปิดที่46.25 บาท เพิ่มขึ้น 3.00 บาทหรือ 6.94%
2.AEONTS ปิดที่ 157.50 บาท เพิ่มขึ้น 3.00 บาทหรือ 1.94%
3.GCO ปิดที่ 188.00 บาท เพิ่มขึ้น 2.50 บาทหรือ 1.35%
4.DTAC ปิดที่ 47.50 บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาทหรือ 4.40%
5.KCE ปิดที่ 56.25 บาท เพิ่มขึ้น 1.75 บาทหรือ 3.21%
ส่วนดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวลดลงมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1.SCC ปิดที่ 368.00 บาท ลดลง 3.00 บาท หรือ 0.81%
2.BBL ปิดที่ 127.00 บาท ลดลง 1.50 บาท หรือ 1.17%
3.CPALL ปิดที่60.25 บาท ลดลง 0.75 บาท หรือ 1.23%
4.CPN ปิดที่ 60.75 บาท ลดลง 0.75 บาท หรือ 1.22%
5.KEX ปิดที่ 22.50 บาท ลดลง 0.50 บาท หรือ 2.17%
ขณะที่ดัชนี SET100 ปิดที่ 2,127.03 จุด เพิ่มขึ้น 5.42 จุด หรือ 0.26% ส่วนดัชนี SET50 ปิดที่ 941.96 จุด เพิ่มขึ้น 1.69 จุด หรือ 0.18% และดัชนีตลาด mai ปิดที่ 572.49 จุด เพิ่มขึ้น 7.78 จุด หรือ 1.38%
นายณัฐพล คำถาเครือ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) กล่าวว่า ดัชนีตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวสูงขึ้นตามตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาค ซึ่งเป็นทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นสหรัฐ หลังจากราคาหุ้นปรับลงมาในระดับที่น่าสนใจ และ แรงเก็งกำไรผลประกอบการไตรมาส 2/65 ของบริษัทจดทะเบียนที่กำลังจะทยอยออกมา
แต่อย่างไรก็ตาม ภาคบ่ายดัชนีลดช่วงบวกลง เนื่องจากวันพรุ่งนี้ (21 ก.ค.) จะมีการประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB) คาดปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.25% หรือ 0.50% โดยขณะนี้ตลาดคาดการณ์ว่าน่าจะปรับขึ้น 0.50% รวมถึงการออกมาตรการช่วยเหลือทางการเงินแก่กลุ่มประเทศที่มีหนี้ระดับสูงในตลาดพันธบัตรด้วย ในขณะเดียวกันยังคงต้องติดตามการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลของไทยด้วย
ส่วนปัจจัยอื่นๆ ที่นักลงทุนยังคงติดตามอย่างต่อเนื่องคือ ตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐที่จะออกมาในวันที่ 28 ก.ค. และการปรับขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันที่ 27 ก.ค.
ขณะที่แนวโน้มการลงทุนวันพรุ่งนี้ นายณัฐพล คาดว่าดัชนีจะเคลื่อนไหวไซต์เวย์ออกด้านข้าง แนะติดตามผลประกอบการของกลุ่มแบงก์ที่จะทยอยออกมาในสัปดาห์นี้ พร้อมให้แนวรับ 1,525-1,530 จุด และ แนวต้าน 1,550-1,555 จุด